วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

‘รักษาการรองโฆษกเพื่อไทย’ ถูกคสช.เรียกคุย หลังจี้ปมอุทยานราชภักดิ์


18 พ.ย. 2558 มติชนออนไลน์ เดลินิวส์และประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ถูกเชิญตัวปรับทัศนคติ ที่กองทัพภาคที่ 1
ต่อมาเวลา 14.40 น. นายอนุสรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังคสช. เรียกไปพูดคุยที่กองทัพภาคที่ 1 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ที่มีข่าวว่าถูกเรียกปรับทัศนคติคงไม่ถึงขั้นนั้น เรียกว่าเป็นการไปพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันมากกว่า เพราะที่ผ่านมาตนกับทหารที่ดูแลจะพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสาร รวมถึงการขอเดินทางไปต่างประเทศกันเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้กำลังเดินทางกลับบ้าน
จี้ปมอุทยานราชภักดิ์ โยงรัฐบาลปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
โดยก่อนหน้านี้ นายอนุสรณ์ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีอุทยานราชภักดิ์ โดยวานนี้ (17 พ.ย.58) มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพท.เรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงปัญหาการสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยระบุ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลแต่เป็นเรื่องของกองทัพบก รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การจัดสร้างดังกล่าวไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลแต่ใช้เงินบริจาคของประชาชน ว่า
พรรคพท.ขอเรียนชี้แจงว่าโครงการอุทยานราชภักดิ์แม้จะอ้างว่าดำเนินการในนามกองทัพบกด้วยเงินบริจาคก็ตามแต่เป็นโครงการที่อนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี รัฐบาลจะอ้างว่ามิใช่เรื่องของรัฐบาลมิได้ ด้วยเหตุผล ดังนี้ 1.คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กองทัพบกเป็นเจ้าของโครงการ กองทัพบกเป็นหน่วยงานของรัฐ และดำเนินก่อสร้างบนที่ดินของกองทัพบกอันเป็นที่ดินของทางราชการ การรับบริจาคดำเนินการในนามของกองทัพบกโดยกองกิจการพลเรือนทหารบกใช้ชื่อบัญชีที่รับบริจาคว่า "กองทุนสวัสดิการกองทัพบก" ผู้บริจาคส่วนหนึ่งเป็นส่วนราชการและยังสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ เงินภาษีที่ถูกหักลดหย่อนคือเงินได้ของแผ่นดิน เมื่อมีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาล จะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า 2.ผู้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเป็นบุคคลในกองทัพคือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนการที่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตผบ.ทบ. ได้ออกมายอมรับว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์กันจริง แต่มีการนำเงินไปบริจาคแล้ว แสดงว่ามีการกระทำผิดทางอาญาเกิดขึ้นแล้วในขณะมีการกระทำผิด ผู้รับผิดชอบโครงการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เลขาธิการ คสช. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนอกจากนี้กองทัพบกอันเป็นสถานที่ราชการยังถูกใช้เป็นสถานที่ดำเนินโครงการติดต่อเจรจา จึงเป็นราชการของกองทัพซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาล ยิ่งเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
อนึ่ง "มูลนิธิราชภักดิ์" นั้น นายทะเบียนเพิ่งรับจดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 เลขทะเบียนลำดับที่ กท 2585 (ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 132 ตอนที่ 121ง ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558) ความพยายามที่จะอ้างว่าเป็นเรื่องของมูลนิธิ จึงอาจเป็นเรื่องที่เห็นได้ว่าเป็นการหลบเลี่ยงความรับผิดชอบและกฎระเบียบของทางราชการทั้งๆที่ผู้รับผิดชอบมูลนิธิก็คือข้าราชการในกองทัพนั่นเอง
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า 3.พรรคเพื่อพท.ขอเรียนว่าไม่ได้ฉกฉวยเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่เป็นประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ได้เข้ามารับผิดชอบ เพราะนอกจากจะเป็นโครงการที่สำคัญ กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนคนไทยที่จงรักภักดี เนื่องจากเป็นโครงการเพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยามอันเป็นที่เคารพยิ่งของปวงชนชาวไทยแล้วผู้เกี่ยวข้องกับโครงการยังเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในนโยบายการปราบปรามการทุจริตที่รัฐบาลประกาศเป็นนโยบายสำคัญอีกด้วยพรรคพท.จึงเรียกร้องให้รัฐบาลได้เข้ามารับผิดชอบดำเนินการเรื่องนี้อย่างเปิดเผย จริงจัง รวมทั้งการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ขอให้เปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดตามแถลงการณ์พรรคพท. เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นไปตามนโยบายการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น