17 ก.พ. 2559 มติชนออนไลน์และสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. รายงานตรงกันว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผู้กำกับการกองการต่างประเทศ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคณะสงฆ์ ที่นำโดย พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ที่มีการรวมตัวขององค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 แห่งทั่วประเทศ ชุมนุมที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อจัดสัมมนา สกัดแผนล้มการปกครองคณะสงฆ์ไทย จนเกิดเหตุชุลมุนระหว่างคณะสงฆ์กับทหารที่มาดูแลความสงบ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านว่า ว่า วันนี้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ประชุมคณะพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน มีความเห็นเบื้องต้นว่าจะออกหมายเรียก นิมนต์พระเมธีธรรมาจารย์ มาพบพนักงานสอบสวนสภ.พุทธมณฑล ในข้อหาละเมิดพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในเร็วๆ นี้ ส่วนประเด็นอื่นๆ ต้องพิจารณาต่อไป ดูความใครทำผิดกฎหมายอย่างไรอีกบ้าง
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความเห็นต่างนั้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องเจรจากันหาทางออกที่สงบ ทั้งนี้ตำรวจติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเรื่องนี้และมีจุดยืนคือการบังคับใช้กฎหมาย หากผู้ใดละเมิดกฎหมายตำรวจก็ต้องดำเนินการ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความเห็นต่างนั้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องเจรจากันหาทางออกที่สงบ ทั้งนี้ตำรวจติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเรื่องนี้และมีจุดยืนคือการบังคับใช้กฎหมาย หากผู้ใดละเมิดกฎหมายตำรวจก็ต้องดำเนินการ
‘พุทธะอิสระ’ แจ้งความเอาผิด 'พระเมธีฯ' 4 ข้อหา
ขณะที่วานนี้ (16 ก.พ.59) มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า เวลา 13.00 น. พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยธรรมะอิสระ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมที่ปรึกษากฎหมาย เดินทางมาที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล มี พ.ต.อ.วรพล ยิ่งเจริญ ผกก.สภ.พุทธมณฑล รับหนังสือและรับแจ้งความ ให้ดำเนินคดีพระเมธีธรรมมาจารย์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ) ใน 4 ข้อหา โดยมี 1.ละเมิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 2.พ.ร.บ.ควบคุมการใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493, ประมวลกฎหมายอาญา ม.157,ม.326, ม.328 และ 3.ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หมิ่นประมาท และ 4.หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
จากนั้นมอบหมายให้ ร.ต.ท.จุฑารัตน์ นพพานิชย์ ร้อยเวรดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย ตามกระบวนการจะต้องนิมนต์พระเมธีธรรมมาจารย์ มาสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายตามมาตราใดบ้าง ตามที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ
"หากคิดว่าตนมีพวกมาก จะทำผิดทำชั่วอะไรก็สามารถลอดพ้นน้ำมือกฎหมายได้ เมื่อใดที่เห็นจวนตัวจะต้องลงอาญาแผ่นดิน ก็จะใช้พฤติกรรมยกพวกมาข่มขู่คุกคาม กดดันรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ ให้หยุดดำเนินคดีกับตนและพวก เพราะคนพวกนี้ได ้ เคยทำสำเร็จมาแล้วในยุคนายทักษิณ แต่รัฐบาล คสช. เขาไม่ได้ปัญญาอ่อน ทั้งไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ง่ายๆ เรียกว่า ยิ่งขู่ยิ่งจับ ยิ่งเป็นการเร่งกระบวนการยุติธรรมให้ดำเนินไปอย่างคล่องแคล้ว แน่วแน่ พุทธะอิสระ ก็เช่นกัน ยิ่งขู่ ยิ่งด่า ยิ่งต้องพิสูจน์ ไหนๆ ก็จะรบกันแล้วคงไม่ต้องลังเลใจ ขอใช้ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี มาสอนบทเรียนให้ลัทธิชั่วนี้ได้รู้เสียบ้างว่า เหนือฟ้ายังมีพุทธะอิสระ เหนือธรรมกายยังมีพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ เหนือกฎหมู่ ยังมีกฎหมาย เหนือความโง่ยังมีสติปัญญา มาลองของกันดูว่าใครจะมีปัญญามากกว่ากัน ต่อให้มารุมกันทั้งฝูง คนอย่างพุทธะอิสระพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ ไม่เคยหวั่นอยู่แล้ว ทีนี้ลองมาดูว่าพวกมือตีนธรรมกายจะต้องโดนอะไรบ้าง เตรียมไปแก้ตัวที่ศาลก็แล้วกัน" พระพุทธะอิสระ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)'
รมว.ยุติธรรม เผยเบนซ์ 'สมเด็จช่วง' นำเข้าผิดกฎหมาย ส่วนผู้ครอบครองผิดหรือไม่รอดีเอสไอชี้แจง
ขณะที่ ประชาชาติธุรกิจ รายงานด้วยว่า 16 ก.พ. 59 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตรวจสอบรถยนต์โบราณ ยี่ห้อ เมอร์เซเดสเบนท์ ขม 99 กทม. ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ว่า เบื้องต้นรับรายงานจาก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเอกสารพบว่ารถคันดังกล่าวมีการนำเข้าผิดกฎหมาย แต่เมื่อพบว่ารถมีความผิดก็ต้องไปดูว่าผิดอย่างไร ซึ่งอธิบดีดีเอสไอจะเป็นคนแถลงชี้แจงในรายละเอียดทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรถมีความผิดแล้ว และผู้ครอบครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มันจะมีขั้นตอนแต่ละขั้นตอน คือ พนักงานสอบสวนก็จะดูว่าผู้ครอบครองรถรู้หรือไม่ จงใจหรือไม่ ซึ่งตรงนี้อธิบดีดีเอสไอจะเป็นผู้ชี้แจงให้ทราบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น