วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตร.คุมตัวหลานสาว ‘พลทหารวิเชียร’ เหตุโพสต์หมิ่นประมาท น้าชายถูกซ้อมตายในค่ายทหาร

นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ (ที่มาภาพ profile ใน LINE)
จับตัวตามหมายจับหลานสาวที่เปิดโปงเรื่องการตายของน้าชาย 'พลทหารวิเชียร เผือกสม' ในค่ายนราธิวาส คาดข้อหาหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เตรียมส่งตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาที่นราธิวาส เจ้าตัวยันปฏิเสธทุกกรณี พร้อมต่อสู้คดี 
ตำรวจ สน.มักกะสัน ส่งหลานพลทหารวิเชียรฟ้องศาลนราธิวาส หลังร้องเรียนน้าเสียชีวิตในค่ายทหาร ยืนยันขอต่อสู้คดีที่ผ่านมาโพสต์ในข้อเท็จจริง และร้องเรียนผ่านช่องทางกระบวนการยุติธรรม


ภาพสกู๊ป Voice TV อ่านได้ที่นี่ 

ให้สัมภาษณ์ภายหลังทำบันทึกการจับกุมและลงบันทึกประจำวัน ที่สน.มักกะสัน
26 ก.ค. 2559 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ อายุ 25 ปีหลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งถูกทำโทษจนเสียชีวิตในค่ายทหารจังหวัดนราธิวาสเมื่อปี 2554 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน 3 นายเข้าควบคุมตัวในที่ทำงาน โดยแสดงหมายจับข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ทหารและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
การจับกุมเป็นไปตามหมายจับที่ 104/2559 ออกโดยศาลจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 กล่าวหาว่า "หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ทั้งนี้ ตำรวจสถานีตำรวจมักกะสันแจ้งว่า แม้หมายจับออกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ที่เพิ่งมีการจับกุมในวันนี้เพราะตำรวจจากนราธิวาสเพิ่งติดต่อมาวันนี้
15.30 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนริศราวัลถ์เพื่อทำบันทึกการจับกุม และเตรียมส่งตัวไปยังสภ.เมืองนราธิวาส  เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป
นริศราวัลถ์ ซึ่งทำงานที่กรมสวัสดิการเด็กให้ข้อมูลกับทนายความว่า การเข้าควบคุมตัวครั้งนี้เป็นการเข้าจับกุมตามหมายจับ คาดว่าเกิดเหตุที่กรณีการตายของน้าชายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2558 หลังสปริงนิวส์มาทำสกู๊ปเรื่องนี้และมีการนำเรื่องนี้ไปโพสต์ในพันทิปจนมีผู้มาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย อย่างไรก็ตาม เธอจะปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและสู้คดีในชั้นศาล เพราะต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง และเวลาโพสต์ไม่ได้โพสต์พาดพิงหรือเอ่ยชื่อใครเป็นการเฉพาะเจาะจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางจะเดินทางโดยรถตู้ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนราธิวาส และตำรวจหญิง รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมร่วมเดินทางไปด้วย 2 คน  
พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความของนริศราวัลถ์จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้สัมภาษณ์ระหว่างลูกความทำบันทึกการจับกุมว่า ในเบื้องต้นยังไม่ทราบพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาและยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กล่าวหาหรือกล่าวโทษ ก่อนหน้านี้นริศราวัลถ์ไม่เคยได้หมายเรียกให้ไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาก่อนแต่อย่างใด ซึ่งตามกฎหมายข้อหาที่มีโทษสูงไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก็ได้ แต่ในฐานะทนายเห็นว่ากรณีนี้ลูกความมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและพฤติการณ์ความผิดไม่ได้ร้ายแรง ควรออกหมายเรียกก่อน
พูนสุขกล่าวอีกว่า นริศราวัลถ์เรียกร้องความยุติธรรมให้น้าชายมาตลอดแต่กลับถูกกระทำหลายอย่างทั้งถูกข่มขู่ และกระทั่งถูกดำเนินคดี สิ่งที่สังคมควรต้องตอบคือ ทำไมไม่มีใครถูกฟ้องอาญาในคดีที่น้าชายของเขาเสียชีวิต นอกจากนี้วันนี้ก็ยังมีนักกิจกรรมที่ทำเรื่องการละเมิดสิทธิ 3 คนที่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท รัฐควรตรวจสอบการละเมิดมากกว่ามาฟ้องคนตรวจสอบ
“ที่ผ่านมามีการฟ้องร้องคนที่ปกป้องสิทธิมาโดยตลอด แม้จะพิสูจน์ได้ในภายหลังว่าไม่ผิด แต่ก็เป็นภาระอย่างมากสำหรับคนทำงาน” พูนสุขกล่าว
17.20 น.นริศราวัลถ์  ออกมาจากห้องในสน.มักกะสัน หลังทำบันทึกการจับกุม ลงบันทึกประจำวันเสร็จสิ้น และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสั้นๆ ก่อนถูกนำตัวส่ง สภ.เมืองนราธิวาส ตามหมายจับ เธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะถูกแจ้งข้อหา หมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2554 พลทหารวิเชียร วัย 26 ปีจบการศึกษาปริญญาโท คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สมัครเข้ารับการเกณฑ์ทหารและเข้าฝึกที่หน่วยฝึกทหารใหม่ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย.2554 เจ้าหน้าที่ทหาร 10 นาย ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียรโดยทรมานและกระทำทารุณโหดร้าย โดยอ้างว่าพลทหารวิเชียร เผือกสม หลบหนีการฝึก ทำให้พลทหารวิเชียร ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตในวันที่ 5 มิถุนายน 2554 โดยสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ( 26 ก.ค.) เอ็นจีโอซึ่งจัดทำและออกรายงานเรื่องการซ้อมทรมานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ต้องเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานหมิ่นประมาทกับ พนักงานสอบสวน สภ.ปัตตานี ด้วยเช่นเดียวกัน โดยเหตุดังกล่าวสืบเนื่องจาก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาโดยเอกสารและความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กับ สมชาย หอมลออ, พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ จากการเผยแพร่ “รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ปี 2557-2558” เมื่อเดือน ก.พ. 2559 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น