วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

โมเดล6ตค.19 นำออกมาอีกครั้ง ไพ่ใบสุดท้ายที่ต้องทิ้งออกมา
http://surf4easy.appspot.com/u?purl=bG10aC43NTkwMi1kYWVyaHQvc3UubW
9kZWVyZnRlbnJldG5pLnd3dy8vOnB0dGg%3D%0A


          ข่าวคราวปลุกกระแสให้คนไทยฆ่ากันเองกลับมาอีกครั้ง นวพลใหม่กำลังถูกสร้าง ลูกเสือชาวบ้านกำลังปลุกปั้นใหม่เคาะสนิมอีกครั้ง พระปลอมกำลังรีบเร่งผลิต ผู้นำชุมชน นักจิตวิทยาที่ใช้ในงานกอ.รมน. เรียกมาอบรมย์ ในนโยบาย “ไทยฆ่าไทย ล้างไทยให้สิ้นก่อนแผ่นดินไม่มีให้กูอยู่”

          ปี 2554 ลบด้วยปี 2519 หักลบแล้ว35 ปีพอดี ที่วงจรนี้จะนำกลับมาใช้อีกครั้ง ใครที่เกิดทันจะรู้ว่ามันคืออะไร

วันนี้ขอให้ข้อมูลอีกด้านที่ท่านไม่เคยรู้กัน มาเล่าให้ฟังเล็กน้อยครับ


                    ท้องทุ่งมหาเมฆ ที่เรียกขานกันในตอนนั้นว่า “เทคนิคกรุงเทพฯ” เป็นที่รวมพลก่อนจะเข้าสังหารโหดนักศึกษาผู้บริสุทธิ์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกอาชีวะในมหานครใหญ่เหล่านักเรียนที่นุ่งกางเกงขาสั้นเรียกขานตนเองว่าเด็กช่างกล เด็กก่อสร้าง รวมตัวกันในค่ำคืนวันนั้น ทั้งหญิงและชายรวมกันเต็มท้องทุ่งไปหมดคล้ายว่าในค่ำคืนวันนั้นมีงานมหกรรมใหญ่ แผนกคหกรรมฯเร่งผลิตอาหารออกมาเสริฟนักรบกล้าเพื่อพรุ่งนี้เช้าจะไปบุกธรรมศาสตร์
รถบรรทุก รสพ. วิ่งเข้าออกเทคนิคกรุงเทพฯเป็นว่าเล่น ข้าวสารอาหารสดบรรณทุกกันเข้ามา ค่ำคืนนั้น ทั้งกัญชาทั้งสุรานานาชนิดมีกันเพียบ น้ำ เครื่องดื่มไม่ต้องพูดถึงมีให้กินให้อาบกันอย่างหนำใจ ไก่ในสวนลุมฯ กะเทยในสวนลุมฯ วันนั้นเจ็บหนัก เสียงวิ่งร้องไห้ดังเป็นระยะๆ “ช่วยด้วย ช่วยด้วย” กันอยู่แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า



                  บนหอประชุมใหญ่ ไอ้ตึ๋งหรือผู้พันตึ๋งเป็นหัวเรือใหญ่ มีนายตำรวจนายทหารขนาบข้าง ตัวแทน นศ.เทคนิคกรุงเทพฯแต่ละคณะฯรับนโยบายจากไอ้ตึ๋ง มีนายทหารแจกซองสีน้ำตาลกับผู้ร่วมประชุมจำได้เมื่อเปิดดูมันมากโขเอาการในนั้นมีเงิ​น2500บาท มากพอค่าลงทะเบียนและค่าหอพักอีกสามเดือนได้เลยในตอนนั้น


                  เสียงจากนายตำรวจยศพ.ต.ต. สั่งการลงมา พร้อมแผนที่ประกอบคำบรรยาย “เอ็ง” หมายถึงคุณอาของกระผม “คุมกนกอาชีวะ ปิดประตูธรรมศาสตร์ด้านท่าพระจันทร์ อย่าให้ใครออกมาได้” คนอื่นๆถูกระบุตำแหน่งกันไป เรียงกันจนครบคน

                  เช้าวันวันนั้น 6ตค.19 วันที่เทคนิคกรุงเทพฯจะทำการสอบเลยไม่ได้สอบ พวกเหล่านักรบกล้าไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเลย น้ำไม่ได้อาบ ฟันไม่ได้แปลง กลิ่นเหล้ากลิ่นกัญชาเต็มร่างกาย รถ ร.ส.พ. บรรทุกพวกเขามาลงที่ท้องสนามหลวง บริเวณด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


                 ณ.ทันทีนั้น คุณอาของผมเล่าให้ฟังว่าท่านเองไม่ได้ทำอะไรเลย มัวแต่มองหานักเรียนช่างกลที่ปักตัวอักษรสีแดงว่า ก.น.ก.เท่านั้น พร้อมขยับลิบบิ้นสีฟ้าออกมาคาดที่แขนแสดงให้นักเรียนกลุ่มนั้นได้รู้ว่าพวกเขาต้องตา​มใคร ใครเป็นคนสั่งการ


               พลัน..นักเรียนโข่งผมเกรียนก็โผล่ออกมาแต่งเครื่องแบบใหม่เอี่ยมคล้ายว่าแต่งตัวอาบน้ำมาอย​่างดีแล้ว ปืนสั้นถูกชักออกมาถือไว้ในมือพร้อมยิงเปรี่ยงๆๆๆไปที่ตัวอาคารในธรรมศาสตร์ มีบางส่วนกระโดดข้ามรั้วเข้าไปในธรรมศาสตร์ มีรถเบนซ์คันหนึ่งจอดอยู่ในนั้นและก็เรียบร้อยไม่ถึงห้านาทีรถเบนซ์คันนั้นถูกไฟลุกท​่วม


              มีรถขนน้ำอัดลมวิ่งผ่านมา ไม่ทันได้ระวัง รถคันนั้นโชคร้ายจริงๆ นักเรียนกลุ่มที่ปักอักษรย่อ ก.น.ก.ก็กระโดดขึ้นไปบนรถเรียบร้อยแล้ว ลังน้ำอัดลมถูกถีบลงมา โครมโครมโครม กระจายไปทั่วท้องถนน ไม่รู้จะกี่ลัง มีบางขวดที่ไม่แตก ถูกนำมาเปิดจุกออกแล้วถูกกรอกด้วยน้ำมันสามทหารที่มีปั้มอยู่ตรงข้างกระทรวงกลาโหมนั​่นเอง ขวดแล้วขวดเล่าถูกกรอกลงไป คล้ายมืออาชีพ คล้ายกับว่าเตรียมการกันมาอย่างดี ผ้าไม่รู้ว่าเอามาจากไหน แต่มันถูกยัดเป็นไส้ไว้บนขวดเรียบร้อยพร้องที่จะจุดไฟแล้วเขว้างเข้าไปใช้งานได้ทันท​ี

               เสียงกล้องถ่ายรูปดัง “แช๊ะ!!!” คุณอาผมเหลือบไปดูเห็นเป็นฝรั่งแก่ๆคนหนึ่ง ยืนถ่ายรูปอยู่ แต่ช้าเกินไปแล้ว พลันฝรั่งแก่ๆคนนั้นก็เลือดอาบศีรษะด้วยขวดน้ำอัดลมที่ถูกปะเคนเข้าไป พร้อมกล้องถ่ายรูปนั้นก็ถูกกระชากจากมือเอาไปด้วย


                คุณอาของผมเล่าต่อ ท่านขยับแขนเสื้อให้เห็นลิบบิ้นสีฟ้าว่าท่านคือใคร หวังว่าพวกมันจะฟังและมองท่านบ้าง แต่เปล่าเลย มันหันมามองแล้วขยับเอวพร้อมเปิดเสื้อให้ดูปืนอีกกระบอกที่เอวของมัน

               คุณอาผมหันรีหันขวางอยู่แบบนั้น มองไปทั่วเพื่อหานายตร.ยศพ.ต.ต. ที่มอบหมายงานให้ แต่ก็ต้องตลึงเมื่อสายตามองไปเห็นนายตำรวจท่านนั้น ท่านไม่ใช่ตำรวจอีกแล้วท่านกลายเป็นชาวบ้านไปซะแล้ว มีผ้าพันคอลูกเสือชาวบ้านผูกอยู่ที่คออีกต่างหาก ท่านกำลังนำมวลชนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีทั้งหญิงและชายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเดินเข้ามา​ มีป้ายบอกมาเสร็จสรรพว่าเป็นลูกเสือชาวบ้านตลิ่งชัน

              “อะไรกันวะ” คุณอาผมคิดในใจอะไรกันแน่ ไหนเมื่อกี้ยังเป็นตำรวจอยู่ดีๆทำไมกลายเป็นลูกเสือชาวบ้านไปแล้ว มันหลอกกันนี่หว่า ไหนบอกว่าให้มาปิดล้อมเฉยๆ ไหนบอกว่าเราจะเข้าตรวจค้นในธรรมศาสตร์แค่นั้น ทั้งหมด มันวางแผนกันมาแล้วนี่หว่า มันเอาอาวุธมาด้วยมันตั้งใจมาฆ่าน.ศ.ชัดๆ


                เหตุการณ์ต่อจากนั้นไม่ต้องพูดถึง ต.ร.ในเครื่องแบบเองเลยบุกเข้าไปในธรรมศาสตร์ ทหารตามมาสมทบ ไม่ได้ปิดล้อมกันแล้ว ไม่มีตาข่ายมาปิดกั้นอย่างที่ประชุมกันไว้


                มันบุกเข้าไป ยิงปืนใส่เข้าไปด้วย น.ศ.ในนั้นวิ่งหนีกันอลหม่าน นศ. สาวๆนอนหมอบ มีบางคนถึงกับสติแตกฉี่ราดก็มี ด้านนอกกำลังเมามันและบ้าคลั่ง ใครวิ่งออกมาโดนตีเข้าไปที่หัวทันทีด้วยแป๊บด้วยไม้หน้าสามจอดอยู่กับที่กองอยู่ตรงน​ั้น ต่อจากนั้นก็รุมประชาทัณฑ์กันไป แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน จนสิ้นชีวิตทุกคน ตายเหมือนสุนัขข้างถนน

                ด้านในธรรมศาสตร์ อาของผมเดินตามนายตำรวจท่านนั้นเข้าไปด้วย และได้เห็นแท้จริงไอ้ขวดน้ำมันนั้นที่เอามาจากรถบรรทุก ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้กี่ขวดต่อกี่ขวดถูกขว้างไปที่แห่งเดียวคือยอดโดม เสียงที่ทุกคนตะโกนออกมา “เผามันให้หมด ไอ้โดมหัวอวย” แต่ก็แปลกมาก โดมนั้นไม่ได้ถูกไฟไหม้จนหมดทั้งที่ ไฟลุกท่วมอยู่ตลอดเวลา


               หนังสือในห้องสมุดถูกนำออกมากองมากมายแล้วก็เผา ควันไฟลอยโขมงบังมิดไปหมดทั่วทั้งบริเวณ จน คนภายนอกเข้าใจว่าธรรมศาสตร์โดนเผาไปหมดแล้ว

              อาของผมสุดทนแต่ก็ไม่สามารถทำตัวเป็นแกะดำได้ เลยแอบกลับก่อนไม่อยากดูอะไรอีกแล้ว มันสะเทือนใจเหลือเกิน และกลับมานอนร้องไห้อยู่ที่บ้าน ไม่ดูอะไรทั้งนั้น ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ข่าวทุกข่าวล้วนโกหกทั้งสิ้น นึกรู้ทันที ประเทศนี้มีแต่เรื่องโกหก ไอ้ที่เราเชื่อถือมากนั่นแหละตัวดี ในสมัยนั้นเครื่องแบบตำรวจเครื่องแบบทหารถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากคำพูดทุกคำคือสัจจะขอ​งลูกผู้ชายเรื่องตลบตะแลงจะไม่มีให้เห็นกับคนสองอาชีพนี้ เป็นอันขาด


แต่..ทุกคนคิดผิด แท้จริงสองอาชีพนี้สั่งสอนให้หน้าด้านตอแหลมากที่สุดต่างหาก และ จากนั้นเป็นต้นมาอาของผมไม่เคยเชื่อถือคำพูดทหารกับตำรวจอีกเลย อะไรที่ว่าจริงคือเท็จทั้งสิ้นเพราะมันอบรมย์สั่งสอนกันมาแบบนั้นจริงๆ

ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง มิใช่จะมาอวดอ้าง มิใช่จะเอามาประณามกัน แต่ที่เล่าให้ฟังก็เพราะอยากจะบอกเรื่องราวอะไรบางอย่างที่ผู้คนในสมัยนั้นไม่ทันได้​คิดและยังเชื่อสนิทใจว่า“เทวดาต้องดีเสมอ เทวดาต้องแตะต้องไม่ได้ เทวดาเป็นผู้มีบุญมาเกิด มีความรักและเมตตากับมนุษย์เท่านั้น ผิดจากนี้ไม่ใช่เหล่าเทวดากระทำ”


เมื่อเป็นเช่นนั้น อาผม ยังคงงมงายอยู่กับเทวดาไม่รู้ลืม มั่นใจสุดๆเทวดาไม่รู้เรื่อง เรื่องทั้งหมดเกิดจากการเมืองทั้งสิ้น เป็นแผนของทหารที่เอาเงินจากงบประมาณของแผ่นดินมาเล่น ในเกมส์ช่วงชิงอำนาจกันเองของมวลหมู่มนุษย์ด้วยกัน ไม่ใส่ใจว่าจะมีมือหรือเท้าที่มองไม่เห็นอยู่ข้างหลังอีกที

เวลาล่วงเลยไป เข้ามาปี 2549 เค้าลางเริ่มแสดงออกมาใหม่ “เจ๊กกบฏลิ้ม” สำแดงออกมาให้เห็น เทวดานั้นอยู่เบื้องหลังทั้งหมดจริงๆ มันไม่แค่พูดด้วยปากเฉยๆ บางครั้ง “นางมารฟ้า”ก็ยังสำแดงเดชให้ประจักษ์แก่สายตามนุษย์อีกด้วย เช่นกัน


เรื่องทั้งหมดที่เป็นเหตุมันจึงเริ่มมาจากตรงนี้

และปี 5 2 และ 53 ก็ชัดแจ่มแจ้งแดงแจ๋ขึ้นมาอีก ฆ่ากันอีกแล้วเหมือนหมูเหมือนหมาอีกเช่นเคย มันชัดยิ่งกว่าชัด เหล่าเทวดานางฟ้าบนสวรรค์ทั้งนั้นที่เป็นคนเปิดเกมส์ล่ามนุษย์ขึ้น หลายพันคนต้องคมกระสุนปืน เกือบร้อยศพที่ต้องสิ้นลมหายใจ จากไปเหตุเพราะมันย่างเข้าฤดูเปลี่ยนถ่ายอำนาจในสรวงสวรรค์แล้ว จึงต้องเร่งสังเวยมนุษย์เพื่อการดำรงคงอยู่ของหมู่มวลเทพเอง

จนกระทั้ง ณ.นาทีนี้เวลานี้ มันถลำลึกเกินกว่าจะแก้ไข เทพกลายเป็นมารกันไปหมด ไม่ว่าเทพตนไหนที่ยกย่องกันหนักหนา แท้จริงมันไม่ใช่เทพทั้งนั้นมันคือเหล่ามารแอบจุติกันลงมาเกิดกันทั้งสิ้น


เหล่าเทวดานางฟ้าแม้จะเสียรางวัดความนิยมไปมาก แต่ก็ไม่คิดกลับตัวกลับใจ คล้ายกับว่าตนเองนั้นจะทำอะไรก็ถูกต้องเสมอ เกิดมาเพื่อทำอะไรก็ไม่ผิด ระยำตำบอนแค่ไหนมนุษย์ก็ยังซื่อสัตย์กันตนเองอยู่ แล้วก็เริ่มสั่งการอย่างต่อเนื่อง วางแผนแยบยลอย่างไม่หยุด

ทาสในเรือนเบี้ยเห็นช่องการใช้เงินจึงคิดแผนกันขึ้นมา
เป็นการประจบ เป็นการเอาใจในหมู่มาร เป็นการยืดอายุตนเองให้คงกระพันตามหมู่มารเข้าไปด้วย โดยหวังว่าการยุยงส่งเสริมแล้วเอากองทัพหนุนหลังให้มนุษย์ฆ่ากันตายเองอีกซักยกเท่าน​ั้นจึงสามารถรักษาเสถียรภาพการเป็นเหล่าเทพฯเอาไว้ได้

โมเดล 6ตค.19ถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ หวังให้มนุษย์ฆ่ามนุษย์เองอีกครั้ง เพื่อตนเองจะได้อยู่คงกระพัน โดยลืมไปว่าเมื่อ35ปีก่อนกับเวลานี้มันไม่เหมือนกันเสียแล้ว โลกเจริญไปมาก ข่าวสารต่างๆมันพรั่งพรูออกมาอย่างไม่รู้จบ จริงบ้างเสริมแต่งบ้างแต่มนุษย์เกินกว่าครึ่งประเทศก็เลือกที่จะเชื่อข้อมูลใหม่นั้น​ๆเพราะมันเห็นกันจะจะด้วยตาตนเอง


แท้จริง ถ้ามีใครประเมินและศึกษาให้ถ่องแท้ เหตุการณ์6ตค,19มันไม่ใช่โมเดลที่จะสามารถกลับนำมาใช้ได้ซ้ำสองอีกเลย มันมีข้อบกพร่องมากมายในโมเดลนั้น และมันคนละสถานการกันด้วย


ประการที่1. วันนั้นประชาชนยังคงรักบูชาเทพฯเจ้าอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย


ประการที่2. วันนั้นข้อมูลข่าวสารยังล้าสมัยมาก ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ความจริง


ประการที่3. คู่ต่อสู้ยังเป็นผู้ด้อยประสบการณ์ส่วนใหญ่ ยังเป็นเยาวชนจึงไม่มีแผนที่จะรองรับในการตอบโต้ข้อมูลนั้นๆ


ประการที่4. ไม่มีเงินหนุนหลัง มีแต่ความศรัทธาในความเชื่อของตัวเองเท่านั้น และ ยังต้องอาศัยเงินทองจากบุพการีของตนเองอยู่


ประการที่5. เป็นแนวคิดใหม่สำหรับพวกเขา ที่ประเทศไทยถูกอเมริกาล้างสมองประชาชนมาอย่างเนิ่นนาน มากพอ จนประชาชนไม่อาจยอมรับในข้อมูลใหม่ได้


ประการที่6.คนไทยส่วนหนึ่งเชื่อจริงๆว่า ผู้ที่อยู่ในธรรมศาสตร์คือภัยของประเทศชาติจริง ต้องฆ่าทิ้งมันจริงๆ


ทั้ง6ข้อนี้ เป็นเหตุให้แผนการโมเดล 6 ตค.19ทำได้สำเร็จ

แต่..มาบัดนี้เกิดอะไรขึ้น


ประการที่1.ที่ราชประสงค์เมื่อมีคนถามว่าใครฆ่าประชาชน ทุกคนไม่มีเคอะเขินที่จะกล่าวร่วมกันว่า “ไอ้เหี้ยสั่งฆ่า” และคำๆนี้มันกระจายไปทั่วประเทศไทยแล้ว แม้แต่คนต่างประเทศยังเข้าใจสื่อความหมายอันนี้ออกกันทุกคน แท้จริงใครเข่นฆ่าประชาชนกันแน่


ประการที่2. มีใครเชื่อบ้าง ผู้สูงอายุที่เกิดมาพิมพ์ดีดไม่เป็น แต่ กลับมาหัดเล่นอินเตอร์เน็ตกันหมด ซื้อหาง่ายไม่แพง โทรศัพท์มือถือมีให้ติดต่อคุยกัน ทุกคนได้ข้อมูลเหมือนกันหมด มีภาพถ่ายมีคลิปเสียงพร้อม ชาวไร่ชาวนาถูกดึงให้มาเปิดอินเตอร์เน็ตของลูกๆกันอย่างไม่น่าเชื่อ


ถ้าใครไปต่างจังหวัดไกลๆแล้วลองไปถามคนเหล่านี้กันดู คนเหล่านี้จะรู้เรื่องการเมืองมากกว่าคนในกรุงเทพฯที่เอาแต่ทำงาน ซะอีก


ประการที่3.การฆ่าประชาชนอย่างมากมาย การใช้การประชาสัมพันธ์แบบบิดเบือน ผู้ที่ร่วมอยู่รู้ดีกันอยู่แล้ว พวกต่อต้านอำนาจเทวดาจึงมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากมาย อันนี้ทุกฝ่ายทราบดีแต่ยับยังไม่ทัน แผนต่างๆถูกกำหนดโดยธรรมชาติของตัวมันเองเพื่อป้องกันตัวเอง จึงอย่าได้หวังว่ากลุ่มประชาชนพวกนี้จะไร้เดียงสาเช่นนักศึกษาในปี19อีก การออกมาใส่ร้ายแล้วฆ่าคงไม่เกิดขึ้นง่ายดายเหมือนตอนนั้นเป็นแน่แท้


ประการที่4. มีการระดมทุนร่วมกันออกมาต่อต้านทั้งประเทศ จะเห็นได้ว่าเกือบทุกอาทิตย์มีการสัมมนามีการหาเงินทุนสำรองกันเองมากมาย ไม่จำเป็นต้องไปขอใครมาด้วย เขาสู้ด้วยพลังและเงินของตัวเองล้วนๆ


ประการที่5.แนวคิดที่จะเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา มันถูกเพาะบ่มมากว่า5ปีเข้าไปแล้ว มันซึมเข้าไปในสายเลือดกันหมดแล้ว อะไรมาล้างสมองใหม่ก็คงไม่สำเร็จ หรือจะกล่าวแบบนี้ก็ได้ แผนการที่จะทำการล้างคนไทยด้วยกันด้วยฝีมือคนในชาติเดียวกันเพราะถูกล้างสมองคงไม่เก​ิดขึ้นแน่


ประการที่6.สำคัญที่สุดคนไทยเกินครึ่งประเทศตาสว่างกันหมดแล้ว


ทั้ง6.ข้อนี้ ต้องคิดหนักหน่อยถ้าใครจะคิดเอาโมเดล6ตค.19งัดออกมาใช้อีก มันจะสำเร็จสมประสงค์เหมือนเดิมหรือไม่

ก็อยากจะบอกต่อ


ไพ่ใบสุดท้ายที่ทิ้งออกมานี้ โมเดลนี้ทำได้หรือไม่ได้ก็ไม่ว่า แต่ มันจะกลายเป็นศรย้อนกลับมาที่ตัวมันเองอีกด้วยหรือไม่ การให้อาวุธกับประชาชนเพื่อฆ่าประชาชนกันเอง


มีคนคิดกันไว้แล้ว หลอกเอาเงินมาใช้ฟรีๆกันก่อนถ้ามีการรับสมัครนวพลหรือลูกเสือชาวบ้าน เมื่อถึงเวลาอาวุธอันนั้น จะเอามาแก้แค้นให้พวกพี่น้องของเขาแทน ตำรวจและทหารจะควบคุมแบบ6ตค.19ได้ไหม คิดเอาเอง ถ้า10เปอร์เซ็นต์ของ นวพลใหม่คือไส้ศึกที่แฝงกายเข้าไป ลูกเสือชาวบ้านยุคใหม่คือคนเสื้อแดงที่เข้าไปร่วมกว่าครึ่ง..ถ้ามีสมองก็คิดกันเอาเองครับ


หรือเทวดากำลังหน้ามืดตามัวกันอยู่ แผนชั่วๆแบบนี้จึงถูกนำเอามาใช้อีก

ประเทศไทยจะได้เป็น “ไท”จริงๆก็เพราะเรื่องนี้เอง ใช่ไหม? เวลาใกล้เข้ามาแล้ว

http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น