วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

พีน๊อกคีโอ้  ..... ได้โปรดเชื่อพวกผมเถอะครับ

ผบ.สส. อ้อน "เชื่อเถอะครับ คำพูดของทหาร เชื่อถือได้"


เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมประชุม ผบ.เหล่าทัพ จากนั้น พล.อ.ทรงกิตติ แถลงถึงจุดยืนทุกเหล่าทัพต่อข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหารว่า วิงวอนต่อสื่อมวลชนช่วยถ่ายทอดคำนี้จากกองทัพไทยไปยังประชาชนชาวไทยทุกท่าน อย่าเชื่อข่าวลืออย่าเชื่อข่าวอ้าง กองทัพไทยอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอานาจักรไทย ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ท่านเชื่อเถอะว่าเราจะไม่ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ท่านเลิกเชื่อข่าวลือเถอะ ที่บอกว่าทหารจะปฏิวัติ ไม่มีหรอก ท่านเลิกเชื่อข่าวลือทหารจะเกี่ยวข้องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เรามีสิทธิคือหนึ่งเสียงหากมีการเลือกตั้ง ถ้าเลือกตามวาระก็ปลายปีนี้ก็ไปหยอดบัตรหนึ่งเสียงเท่ากับทุกคน ตามรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 4 มาตรา 70 ถึง 74 แห่งราชอาณาจักรไทยปี 2550 ข้าราชการไม่เกี่ยวพันทางการเมือง ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ทหารไม่ไปดำเนินกิจการทางการเมือง หากมีใครจะดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เช่น พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร อดีตรอง ผบ.สส. ท่านอยากดำเนินกิจกรรมทางการเมืองท่านก็ลาออก

"ท่านเชื่อเถอะครับ คำพูดของกองทัพ ของทหารเชื่อถือได้ เชื่อเถอะไม่มีใครหรอกที่จะก้าวล่วงเข้าไปดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ไม่ว่าจะกดดัน ผลักดัน ไปแอบอิงหรือให้อิงแอบ เพื่อทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของประชาชน เชื่อเถอะเสียงของท่านแต่ละเสียงมีคุณค่าต่อประเทศไทยในอนาคต ผมยืนยันอีกครั้ง ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. ผู้แทน ผบ.ตร. ว่าไม่ยุ่งเกี่ยว" ผบ.สส.ระบุ

พล.อ.ทรงกิตติแถลงต่อว่า ฉะนั้นท่านอย่าไปกลัว ไม่ต้องมามีข่าวอีกแล้วว่าจะมีใครไปเดินตามคอยกดดันไม่ให้มีเสรีในการหาเสียง ทุกพรรคการเมืองสามารถขอเข้ามาหาเสียงได้ในหน่วยทหาร ทหารก็ทำหน้าที่ของเราตามที่ได้รับมอบหมาย นอกเหนือจากนั้นเรายังมีภารกิจอื่นๆ เพิ่มเติม เช่นการตัดไม้ทำลายป่า ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดยใช้คนเท่าที่มีอยู่ ซึ่งการจัดหน่วยในปัจจุบันก็ไม่พอเพียงก็มีการปรับกำลัง และจัดกำลังให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและภูมิประเทศที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะการปกป้องอนาธิปไตย แต่รวมถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลทั้งสิ้น ถึงจะมีการจัดตั้งส่วนราชการเพิ่มเติม

พล.อ.ทรงกิตติกล่าวอีกว่า อย่าลือ อย่าอ้าง ไม่มี การดำเนินงานทางการเมืองก็ทำกันไป ขอให้อยู่บนแนวทางทางการเมืองของท่าน ทั้งนี้ คิดว่าการยืนยันในวันนี้จะทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ากองทัพไม่มีความเกี่ยวพัน กองทัพมีหน้าที่รักษาเกียรติ และเป็นที่มั่นใจของประชาชน เราคือคนของประชาชน เราคือประชาชน เรารู้หน้าที่ของเรา ว่าต้องทำอะไร ควรจะเว้นจากทำอะไร หากมีหน่วยใดเคลื่อนย้ายกำลังโดยไม่ได้รับคำสั่งคือกบฏ ถ้ามีทหารกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ไปเกี่ยวข้องทางการเมืองหรือไปกดดันท่านก็ร้องเรียนมา หากมีมูลก็จะทำการสอบสวน

"หยุดเอากองทัพมาอ้าง หยุดเอากองทัพมาแนบ และหยุดผลักกองทัพออกจากประชาชน เราขอเดินทางในการสร้างสรรค์พัฒนาประเทศรักษาอนาธิปไตย เกาะกลุ่มเกี่ยวแขนไปกับประชาชน เดินหน้าเพื่อพัฒนาประเทศ เดินหน้าเพื่อให้ประเทศไทยมีเกียรติยศ และชื่อเสียงเป็นที่เคารพเป็นที่มีเกียรติต่อนานาอารยประเทศ ขอยืนยันทุกเรื่องในวันนี้ ผมคิดว่านับแต่วันนี้ไปคงไม่มีข่าวอะไรที่ทำให้กองทัพออกจากประชาชน กองทัพแยกออกจากกัน" ผบ.ทหารสูงสุดกล่าว

เมื่อถามว่า การแถลงครั้งนี้ถือว่าเป็นมติของ ผบ.เหล่าทัพส่วนรวมหรือไม่ว่า จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยเด็ดขาด และไม่ก้าวก่ายกิจการทางการเมืองในอนาคต พล.อ.ทรงกิตติ ย้อนถามว่า จะถามว่าเป็นฉันทามติใช่หรือไม่ (หันไปมองผบ.เหล่าทัพที่ยืนข้างหลัง) ก่อนกล่าวว่า เมื่อวาน ผบ.ทบ.กล่าวไปแล้ว วันนี้ก็เหมือนกัน ผบ.ทร. ผบ.ทอ.ก็คิดเห็นเหมือนกัน (ผบ.เหล่าทัพยิ้ม) ตำรวจจะไปแทรกแซงไล่บี้ชาวบ้านหรือไม่คงไม่มี ถ้ามีก็ต้องมีหลักฐาน อย่ากล่าวหากันลอยๆ อย่าสร้างข่าวกันลอยๆ พอสร้างข่าวแล้วสังคมบอกคนนี้เลวไปแล้วมันไม่ใช่ เชื่อเถอะ เรารักประเทศชาติ เรายึดมั่นครรลองของประชาธิปไตย ขอให้เชื่อเถอะครับ ณ วันนี้ มีการยืนยันกันขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อ จะให้นอนยันกันหรือไง

เมื่อถามว่า คนที่ออกมาพูดเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายวงการ อาจชี้นำให้ประชาชนเข้าใจผิด พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ในส่วนตัวแต่ละท่านตนไม่ทราบ แต่ตนมีหน้าที่ทำงานให้ดีที่สุด ถ้าเชื่อขอให้เชื่อมั่น ถ้ามีความเชื่อมั่นแล้วประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไป เมื่อถามย้ำว่า แถลงวันนี้ได้สบตา พล.อ.ประยุทธ์ หรือยัง พล.อ.ทรงกิตติ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ทำไมต้องถามที่ให้เกิดความรู้สึกว่าไม่ดี ทั้งที่ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เราเป็นทหารเรายึดมั่นอย่างนี้แล้ว จะมาบอกว่า มีการปฏิวัติเงียบ เป็นการว่ากันไปเอง ขอให้ท่านดำเนินการทางการเมืองของท่านให้ดีที่สุด ประชาชนก็จะพิจารณา ขอให้ทุกคนทำตามหน้าที่และปกป้องประเทศชาติ ประเทศชาติก็จะเจริญยิ่งขึ้น ในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา มีแต่กระแสข่าว บางคนไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยก็พูด คนที่ไม่รู้และไม่ได้รับผิดชอบก็พูด แต่พอคนที่รับผิดชอบพูดกลับไม่เชื่อ

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นหรือไม่ และหลังเลือกตั้งจะเกิดเหตุการณ์อะไรหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับกองทัพการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อหมดวาระการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งไม่เกี่ยวกับกองทัพ แต่หากมีการยุบสภาก็เป็นเรื่องของรัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้ดำเนินการและจัดให้มีการเลือกตั้ง ในส่วนของทหารก็ทำหน้าที่ของทหาร รวมทั้งตำรวจ เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าหลังเลือกตั้งจะไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามย้ำว่าอาจจะมีรัฐบาลแห่งชาติในมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ไม่มีครับ เมื่อถามว่าเป็นห่วงน้องๆ ในกองทัพหรือไม่ เพราะใกล้เกษียณแล้วและสถานการณ์การเมืองมีความเชี่ยวกราก พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ตนทำงานตามหน้าที่ที่รับผิดชอบเมื่อหมดหน้าที่ของตน ตนก็จะทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี


http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น