วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

ณัฐวุฒิ ประกาศต่อผู้สื่อข่าวต่างประเทศ
ประชาชนไทยต้องการเลือกตั้ง
 

http://www.youtube.com/watch?v=Ez7_jEMlqeo&feature=player_embedded#at=4166



แกนนำ นปช. ร่วมแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย
ย้ำสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เตรียมสู้ยืดเยื้อ เชื่อ “เวลาอยู่ข้างเรา”

 เวลา 20.00 น. แกนนำ นปช. ประกอบด้วย ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย ตึกมณียา ซึ่งมีผู้สื่อข่าว นักวิชาการ ตัวแทนสถานทูต และผู้สนใจชาวต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังประมาณ 100 คน

แกนนำ ระบุมีความพยายามทำรัฐประหารอีกครั้ง พร้อมใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือ ระบุประชาชนจะเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านการรัฐประหารครั้งใหม่ ณัฐวุฒิ วอนสื่อต่างประเทศเป็นกระบอกเสียง ย้ำคนไทยต้องการเลือกตั้ง

ถาม-ตอบ ระหว่าง แกนนำ นปช. กับ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ

ถาม: สถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ รวมถึงการปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อาจเป็นสัญญาณว่าจะไม่มีการยุบสภาใช่หรือไม่


ณัฐวุฒิ: ผมมาพูดครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม แต่ละครั้งชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นลำดับ
ครั้งแรกเป็นโฆษกรัฐบาล ครั้งที่สองแกนนำเสื้อแดง ปัจจุบัน ผมเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วครับ

สำหรับคำถามนั้นต้องบอกว่าเวลานี้ยังไม่มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งจริงๆ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองอธิบายว่า กลุ่มผู้คุมอำนาจไม่ประสงค์จะยอมรับผลการเลือกตั้งหากพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ชนะ

มีการสำรวจข้อมูลการตัดสินใจของประชาชน หากมีการเลือกตั้งของหน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วยงาน ผมได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่าก่อนเทศกาลสงกรานต์
มีการพบปะกันของนายทหารกองทัพบกกับกลุ่มชนชั้นนำสามสี่ท่าน ในระหว่างการสนทนามีการเอาผลสำรวจหรือโพลล์ฝ่ายความมั่นคงมาดู ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับการเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 250 ที่นั่ง มีการถามกันในเวลานั้นว่าตรวจสอบเรียบร้อยหรือยัง ผู้ที่นำผลสำรวจมาให้ก็คือนายทหารคนดังที่ทำหน้าที่แถลงข่าวให้กองทัพตลอดระยะเวลา ไม่กี่ปีที่ผ่านมายืนยันว่าตรวจสอบแล้วสองสามรอบ

ถ้าไปถามนักการเมืองที่เป็นแกนนำตัวจริงของพรรคการเมืองหลายพรรคที่ร่วมรัฐบาลอยู่ ท่าทีล่าสุดของคนเหล่านั้นก็มีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้ง นี่เป็นข้อมูลที่ผมเพิ่งจะได้ฟังมาจากอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลทักษิณเล่าว่า
ไปพบอดีตรัฐมนตรีที่เคยร่วมรัฐบาลกัน

เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพูดออกมา จึงเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังและติดตามความเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิด ผมภาวนาว่าอย่าให้เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทยกัมพูชาถูกอธิบายเป็นเหตุผล ที่จะเลื่อนการยุบสภาออกไป เพราะหากเป็นเช่นนั้นมันจะกลายเป็นว่า เหตุปะทะรอบนี้มีเป้าหมายทางการเมืองของประเทศหนึ่งประเทศใดแอบแฝงอยู่

แต่ความเชื่อเดิมทั้งของผมที่พูดไว้ที่อุดรธานีและแกนนำบังเอิญตรงกันว่า สัญญาณที่จะไม่มีการเลือกตั้งจะปรากฏชัดเจนหลังนายอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา

แต่ถ้ามองจากท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ เขาอยากจะเลือกตั้งทันทีเลยถ้าทำได้
เพราะประชาธิปัตย์ประเมินได้ว่าการอยู่ในอำนาจต่อไปภายใต้สถานการณ์ขณะนี้
จะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา จึงคิดว่าการตัดสินใจยุบสภาจะทำให้โอกาสในการกลับมาเป็นรัฐบาลของ ปชป. จะมีมากขึ้น แม้จะไม่มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง แต่เป็นหน้าที่ของอำนาจนอกระบบที่จะทำอย่างไรก็ได้ ให้เขากลับมาเป็นรัฐบาล มีความเชื่อที่พูดกันตลอดเวลาใน ปชป. ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ใช่ดีที่สุดของประชาชน แต่ดีที่สุดของระบอบอำมาตยาธิปไตย นี่คือปัญหาใหญ่ของประเทศไทย

ผมจึงอยากประกาศต่อทุกท่านและยืนยันต่อสังคมโลกว่าคนไทยต้องการการเลือกตั้ง และวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารจะมีโอกาสนับหนึ่งในการคลี่คลาย ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ตรงกันข้ามหากไม่มีการเลือกตั้ง ก็จะทำให้สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ทวีความเข้มข้น มีสภาพขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นจนมองไม่เห็นทางออกใดๆ เราไม่อยากเดินเข้าสู่กับดักของวิกฤต
เราอยากเดินไปที่จุดเริ่มต้นของสันติภาพ และ เราคาดหวังว่าบทบาทของสื่อมวลชนในทุกๆ ประเทศจะมีส่วนช่วยอย่างสำคัญต่อสิ่งนี้

ถาม: ใครคือผู้รับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในตอนท้ายของการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

จตุพร: ความรุนแรงและการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ และศาลากลางต่างๆ เป็นความพยายามของฝ่ายรัฐที่จะเผา เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นความตาย ความตายในวัดปทุมวนาราม เป็นความตายก่อนที่จะมีการเผาเกิดขึ้นทั้งสิ้น ต้องมีการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ว่า คนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง เพื่อให้คนลืมความตาย

กรณีเซ็นทรัลเวิลด์ ผมและได้คุยกับหัวหน้าชุดปฏิบัติการดูแลเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีภาพถ่าย ทีวีวงจรปิดและภาพนิ่ง ว่าพวกเขามาดูแลอยู่เป็นเวลาสองเดือน เป็นห้างเดียวที่ไม่ได้ใช้ชุดบรรเทาสาธารณภัย เป็นการล็อกเป้าจงใจที่จะมีการเผา หัวหน้าชุดปฏิบัติการเซ็นทรัลเวิลด์นั้น เพราะเขาเห็นชะตากรรมคนเสื้อแดง ว่านอกจากความตายแล้วยังถูกกล่าวหา อย่างช้าสัปดาห์หน้าจะมีหนังสือที่เป็นรายละเอียดทั้งหมดเรื่องการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เวลานี้ภาพถ่ายจากวงจรปิดจะถูกเปิดเผย

ในกรณีเซ็นทรัลเวิลด์ มีภาพถ่ายชายชุดดำ แต่ไม่แนบเนียบ เพราะรองเท้าตรงกับทหาร เหตุการณ์การเผาเซ็นทรัลเวิลด์ กับการยิงที่วัดปทุม เป็นเวลาที่สอดคล้องกัน แต่ผมเองก็ถูกนำตัวไปสอบสวน เวลานั้นทหารได้คุมสภาพเบ็ดเสร็จ รักษาการผู้บังคับการกองปราบฯ ก็ยังถูกทหารค้นตัว

เวลาเก้าเดือนที่ผ่านมา ถ้าชุดผจญเพลิงของเซ็นทรัลเขาเห็นว่าคนเสื้อแดงเผา
เขาต้องฟ้องคนเสื้อแดง แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ของเขา เขาเอาวิดีโอมาให้คนเสื้อแดง และตำรวจชุดเดียวที่มาดูแลห้างเซ็นทรัลคือ ชุดของวังสระปทุม ต่อมาล่าถอยออกไป และกำลังที่มาผลักให้ตำรวจออกไปนั้นเป็นทหาร

กรณีศาลากลางอุลราชธานี มีการจับกุมตัวคน 22 คน และยังไม่มีการปล่อยตัว ผู้ว่าฯ อุบลราชธานีบอกว่าขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ 80 คนทำงานอยู่ ไม่มีอาวุธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เวลานั้นมีตำรวจและอาวุธครบมือ 800 คน โดยตำรวจที่ทำสำนวนมาสารภาพกับผมว่า พฤติการณ์ที่ศาลากลางนั้น เป็นการเทน้ำมันจากชั้นบนลงสู่ชั้นล่าง นี่คือตัวอย่างของข้อมูลที่ให้การไม่ตรงกัน

ที่ศาลากลางอุดรธานี ข้าราชการที่ควบคุมอำนวยการดูแลศาลากลางฯ ได้สารภาพกับ ส.ส. วิเชียร ขาวขำ โดยที่วันเกิดเหตุมีกำลัง อส. แต่ก่อนเกิดเหตุมีกำลังทหารติดอาวุธเข้าไปเผาศาลากลาง แต่ประชาชนที่อุดรธานี มีการนัดหมายว่า หากมีการสลายการชุมนุมจะไปรวมตัวกันที่ศาลากลาง

นี่คือการสวมรอย เหมือนการเผารถเมล์ 52 คัน คนขับรถเมล์ให้ปากคำว่า คนที่มาปล้นรถเมล์ไปนั้นเป็นทหาร เมื่อมีการสอบสวนแล้ว กมธ. สภาฯ ไม่กล้าเปิดเผย

ถาม: การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไม่แน่นอน ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่าเราไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ชนะพร้อมที่จะยอมรับรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งหรือไม่ และในสถานการณ์ไหนที่ยอมรับและในสถานกาณณ์ไหนที่จะออกมาประท้วง

ณัฐวุฒิ: หากการเลือกตั้งโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ว่าพรรคการเมืองใดชนะ เรายินดียอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง เรายินดีที่จะยอมรับโดยไม่มีการคัดค้านใดๆ ผมเรียนว่าที่ผ่านมา เราไม่เคยออกมาต่อสู้เพราะแพ้เลือกตั้ง เราเป็นประชาชนส่วนมากในประเทศที่เลือกพรรคการเมืองที่เราสนับสนุนและได้เป็นรัฐบาลแล้ว รัฐบาลของเราถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยวิธีของผู้เผด็จการ เราจึงต้องออกมาต่อสู้

ผมอยากจะฝากคำถามเดียวกันนี้ว่า ถ้าเจออภิสิทธิ์ หรือทหารใหญ่ ว่า ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยชนะ เขาจะยอมรับและปล่อยให้จัดตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เขาต่างหากที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งจนเป็นปัญหาจนทุกวันนี้

สถานการณ์ที่เราจะออกมาต่อสู้ ก็คือ ถ้าผลการเลือกตั้งปรากฎว่าพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงป็นอันดับหนึ่งแล้ว ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มีการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบ ให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เราจำเป็นต้องต่อสู้

ผมเข้าใจแนวปฏิบัติทั่วโลกว่า หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคอันดับรองลงไปสามารถเป็นแกนนำ แต่ความจริงของประเทศไทยคือ มีพรรคการเมืองเดียวเท่านั้นที่ชนะการเลือกตั้งได้แล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล นั่นคือพรรคเพื่อไทย

ถาม: เคยสัมภาษณ์เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่สูญเสียดวงตาเพราะเขาร่วมชุมนุม
เขาบอกว่า การต่อสู้นั้นขึ้นกับแกนนำ


จตุพร: มีการพยายามสร้างสถานการณ์ ขณะที่มีกระสุนปืนจำนวนมากถูกใช้กับคนเสื้อแดง อย่างไรก็ตาม หากถามว่า จะเจรจากันได้หรือไม่นั้น ต้องตอบว่าการเจรจาเกิดได้ทุกวัน แต่คำถามคือความยุติธรรมจะเกิดได้หรือเปล่า สิ่งที่สำคัญคือการสร้างความเสมอภาค ความเป็นภราดรภาพ ความเป็นพี่เป็นน้องกัน

ถาม: ถามคุณธิดา ว่าเมื่อประมาณ 1 เดือน หลังเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ว่าเป็นห่วงคนเสื้อแดงและความปลอดภัยของสามี เข้าใจว่ามีการไล่สมาชิกของ นปช. บางคนออกเพราะสนับสนุนความรุนแรง แต่ขณะนี้คนเหล่านั้นยังมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง

ธิดา: ประการแรก ถ้าคุณอ่าน โพสต์ทูเดย์ คุณต้องเช็คก่อนว่าข้อมูลที่นำเสนอนั้นถูกต้องหรือเปล่า เพราะปัญหาของสื่อเมืองไทยนั้นคือ การแบ่งข้างชัดเจนทั้งเรื่องผลประโยชน์และชนชั้น

ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ของคนเสื้อแดงจึงไม่ค่อยได้รับการนำเสนอต่อสังคมภายนอก
หากสังคมภายนอกอ่านเฉพาะสื่อที่เป็นของประเทศไทย

ประการที่สอง สิ่งที่โพสต์ทูเดย์ เขียนนั้น อาจจะเป็นปัญหาเรื่องข้อมูลและการถ่ายทอดข้อมูลด้วย จึงอยากได้คำถามจากท่านโดยตรงมากกว่าโดยไม่ต้องอ้างโพสต์ทูเดย์

ผู้สื่อข่าวคนเดิม ถาม: บทความในโพสต์ทูเดย์เป็นคำสัมภาษณ์คำต่อคำ
จึงเชื่อว่าน่าเชื่อถือ แต่อยากถามโดยตรง ว่าเป็นห่วงหรือไม่ ว่าสามีจะเป็นอันตรายจากคนเสื้อแดง

ธิดา
: ในความเป็นจริง ไม่มีคำถามและคำตอบเรื่องนี้เลย แต่ตอบได้ว่า การเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ไม่ใช่เข้ามาในฐานะของภรรยาของ น.พ. เหวง โตจิราการ แต่ในฐานะนักต่อสู้ นี่เป็นเหตุผลประการแรกที่ท่านต้องทราบก่อน

การห่วงคือห่วงการต่อสู้ของประชาชนไม่ใช่ น.พ.เหวง โตจิราการ คือ ห่วงทุกคนไม่ใช่เฉพาะแกนนำ แต่เป็นการเป็นห่วงคนเสื้อแดงทุกคนที่ถูกจับกุมคุมขังและถูกไล่ล่า นี่เป็นประเด็นสำคัญว่านักต่อสู้นั้นเอาเรื่องส่วนตัวตั้งต้น หรือเพื่อส่วนรวม
ดังนั้นคำถามนี้ ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว และเหตุผลที่เข้ามารับเป็นประธานการต่อสู้ของคนเสื้อแดงคือ ความเป็นห่วงขบวนการ ต้องขอโทษหมอเหวงในฐานะสามีด้วยว่าไม่ได้ห่วงเขามากกว่าคนอื่น

ถาม: ถ้าผลการเลือกตั้งเพื่อไทยได้เสียงมากที่สุด แต่ไม่ได้เสียงส่วนใหญ่ แล้วในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์สามารถตั้งรัฐบาล ท่านจะยอมรับหรือไม่

ณัฐวุฒิ: นี่แหละที่เป็นปัญหา คือ พรรคการเมืองใดก็ตามที่ได้เสียงอันดับหนึ่งจะได้เป็นรัฐบาลได้ทั้งหมด ยกเว้นพรรคเพื่อไทย เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะสื่อสารมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศรายงานตรงกันว่า มีอำนาจนอกระบบจะไม่ยินยอมให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะมีการจัดการทุกวิถีทางแม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง ผมคิดว่าท่านคงไม่หวังว่าจะให้เรายอมรับสิ่งนี้ เพราะถ้าการยอมรับสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ถาม: เมื่อมีการเจรจาก่อนที่จะสลายการชุมนุม ทางรัฐบาลเสนอว่า ควรจะมีการเลือกตั้งเดือน พ.ย. แล้วทางเสื้อแดงมีความเห็นแตกต่างกัน บางคนเห็นด้วย บางคนไม่เห็นด้วย รัฐบาลอ้างว่าเพราะทางเสื้อแดงไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะนายกฯทักษิณต้องการการนิรโทษและอนุญาตให้กลับบ้าน
จริงหรือไม่ บทบาทของทักษิณในเรื่องนี้เป็นอย่างไร และถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถที่จะนำรัฐบาลต่อไปจะให้ทักษิณกลับมาหรือไม่


จตุพร: การเสนอยุบสภาของอภิสิทธิ์เวลานั้นมี 2 ช่วง ช่วงแรกที่มีการเจรจากันนั้นคุณอภิสิทธิ์ ของ 9 เดือน แต่เราเสนอ 15 วัน รวมรักษาการสองเดือนเป็นสองเดือนครึ่ง แต่คุณอภิสิทธิ์ไม่ยอมรับ มีการอ้างว่าคุณทักษิณโทรหาผม แต่ผมอยากให้ไอซีทีตรวจสอบได้ เพราะคนที่โทรหาผมคือณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

ช่วงที่สองหลังวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งถ้าไม่มีความตายและผู้บาดเจ็บ ผมในฐานะนักเลือกตั้ง หากเราได้วันเลือกตั้ง โดยไม่สนใจคนที่บาดเจ็บและสูญเสีย มันชี้ความเห็นแก่ตัวของนักเลือกตั้ง เพราะคุณเอาความตายไปแลกกับวันเลือกตั้งไม่ได้

ไม่มีใครปฏิเสธการเลือกตั้งว่าคนเสื้อแดงขอต่อสู้ทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีผู้ก่อการร้าย หรือล้มสถาบัน โดยไม่ขอนิรโทษกรรม แต่เมื่อมีการฟ้องร้องคดีต่อนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ที่สั่งการทำร้ายประชาชน นายอภิสิทธิ์นั้นได้รับเอกสิทธิ์ ส.ส. เหมือนกับผม แต่นายสุเทพนั้นไม่มีเอกสิทธิ์ กลับเดินทางไปดีเอสไอ เพื่อรับฟังว่ามีข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้น

ณัฐวุฒิ: ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ว่า ผมไม่สนใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับเมืองไทยเมื่อไหร่ จะได้รับทรัพย์สินที่ถูกยึดไปคืนหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมเรียกร้องก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณต้องได้รับความยุติธรรมจากทุกกระบวนการใน ประเทศไทย

ถ้าหากจะมีคำอธิบายว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการยึดทรัพย์ หรือคดีของ หากถูกอธิบายว่าเป็นการกระทำที่ยุติธรรมเป็นสิ่งที่ผมยอมรับไม่ได้

หากคนที่ได้รับการเลือกตั้งยังไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ไม่มีความหวังว่าประชาชนจะได้รับสิ่งนี้ และประเทศที่ไร้ซึ่งความยุติธรรม หรือมีความยุติธรรมเป็นสองมาตรฐาน ประเทศนั้นจะมีความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร เราจึงต้องต่อสู้ ผมไม่ยอมให้สื่อมวลชนที่นี่อยู่ในประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

คำถาม: ทั้ง 18 คนที่เป็นผู้นำถูกกล่าวหาด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ท่านคิดว่าต้องต่อต้านมาตรา 112 หรือไม่

จตุพร: ในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 70 กว่าปีที่ผ่านมา ประเด็นที่เกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ ได้ถูกทหารและนักการเมืองหยิบใช้ ทหารหยิบใช้เพื่อทำการรัฐประหาร นักการเมืองใช้เพื่อประโยชน์ของฝ่ายตัวเองและทำลายฝ่ายตรงข้าม
เพราะฉะนั้นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ต้องทรงอยู่เหนือการเมือง แต่เนื่องจากการรัฐประหารทุกครั้งที่เกิดขึ้น แม้แต่วันที่ 19 ก.ย. 49 ก็มีการกล่าวอ้างสถาบัน

การดำเนินคดีกับพวกเรา 18 คน บางคนถูกคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะยืนอยู่ข้างผมขณะปราศรัย บางคนไม่ได้พูดสักคำ แต่ยืนอยู่ข้างผม ปรากฏว่าดีเอสไอระบุว่า ต้องดำเนินคดี เพราะไม่ห้ามปรามผม ท่านทั้งหลายที่ฟังผมก็อาจจะถูกดำเนินคดีเพราะไม่ห้ามปรามผม

ธิดา: ดิฉันถูกมาตรา 112 ด้วย แม้ว่าขณะนั้นไม่ได้ยืนอยู่ด้วย แต่ยืนอยู่ข้างล่างเวที แต่ไม่ได้วิ่งขึ้นมาห้ามปราม

ณัฐวุฒิ: จุดยืนของ นปช. คือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยอำนาจอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เราไม่มีปัญหาใดๆ กับการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่คิดว่าการต่อสู้ของเราจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน เพียงแต่ มีการใช้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสถาบันพยายามที่จะทำลายการต่อสู้ของเราตลอดเวลา

คำถามเรื่องมาตรา 112 ผมมีคำอธิบายว่า มีนักวิชาการและประชาชนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ มีข้อเสนอทางวิชาการจากนักวิชาการกลุ่มดังกล่าว ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่สังคมไทยรับฟังสิ่งนี้ได้ ปัญหาที่ผ่านมาก็คือ สังคมไทยมีแต่ทุกฝ่ายที่พูด ไม่มีใครฟังใคร เพราะฉะนั้นการรับฟังก็จะทำให้เกิดความเข้าใจกันและกันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ไม่ได้มีแนวทางหรือไม่ได้มีมติที่จะ เคลื่อนไหวในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เราเจ็บปวดที่สุดเวลานี้ก็คือ มีการใช้ข้อกล่าวหาจากมาตรา 112 กับคนในประเทศอย่างไม่เท่าเทียมกัน มีการแจ้งความดำเนินคดีกับคุณจตุพรและพวกเราอย่างรวดเร็ว ด้วยท่าทีที่ดุดันของกองทัพ แต่กลับจงใจเพิกเฉยต่อ กรณีที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายอานันท์ ปันยารชุน และ พลเอกสิทธิ เศวตศิลา สนทนากับนายอิริค จอน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำ ประเทศไทยโดยมีการแสดงความเห็นอย่างรุนแรงซึ่งเนื้อหาปรากฏในเดอะการ์เดียน ปรากฏในวิกิลีกส์ มีการไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ

ถาม: กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนไทย-กัมพูชา กว่าห้าหมื่นคน คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะจัดการปัญหานี้ได้ไหม

จตุพร: ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง เราจะไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเหมือนนายกษิต ภิรมย์ และเราจะแสวงหามิตรประเทศ ไทยกับกัมพูชานั้นผูกพันกัน กัมพูชาซื้อของไทยถึงแปดหมื่นกว่าล้านบาท ไทยซื้อกัมพูชาแปดพันล้านบาท เราไม่มีเหตุผลที่จะขัดแย้งกัน

เพราะฉะนั้น ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะไม่มีสงคราม ประชาชนสองชาติจะไม่เดือดร้อน มีแต่สัมพันธภาพของควาเมป็นพี่เป็นน้อง เสียงปืนของมิตรประเทศจะไม่เกิดในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

ธิดา: ในฐานะที่ขณะนี้ระบอบอำมาตยาธิปไตยมีอิทธิพลครอบงำ เราสามารถเข้าใจวิธีคิดก็คือ การที่เราสามารถทำนายได้แต่ต้นแล้วว่า น่าจะเกิดสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะวิธีคิดของพวกสุดโต่งอนุรักษ์นิยม จะมีลักษณะที่นิยมก่อสงครามภายนอกเพื่อกลบเกลื่อนความขัดแย้งภายใน

จตุพร: ผมเพิ่มประเด็นว่า ท้ายสุดของสงครามไทยกัมพูชานั้น ที่สุดจะนำไปสู่การรัฐประหารหรือไม่ มีการสัมภาษณ์กับภรรยาของทหารที่เสียชีวิตกล่าวว่า สามีโทรมาแจ้งว่าหลังจากนี้ไม่กี่ชั่วโมง จะมีการปะทะ แปลว่ารู้ล่วงหน้า แต่ผมไม่ได้อยากจะกล่าวหา หน้าที่ของเราคือหยุดสงคราม แต่ถ้าการทำสงครามนำไปสู่การปฏิวัติ เพราะขณะที่มีการทำสงครามไทยกัมพูชา ก็มีการปิดวิทยุชุมชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฉะนั้น การทำสงครามและตัดการสื่อสารวิทยุชุมชนด้วยนั้น ทำให้คิดได้ว่าน่าจะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร

ธิดา: ขอเพิ่มเติมว่า กลุ่มของเรามุ่งชูสโลแกน ต่อต้านรัฐประหาร คัดค้านสงคราม ทวงความยุติธรรม มาแต่ต้นปีแล้ว เพราะเราคาดไว้แล้วว่า แนวคิดล้าหลังของพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งจะก่อให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

และขอทำนายว่า จะมีการรัฐประหารมากกว่าการเลือกตั้ง วิธีคิดของเขาน่าจะปิดประเทศและก่อสงคราม รวมถึงมีแนวคิดปิดประเทศ 5 ปี เพราะกลัวการเลือกตั้ง
ไม่ทราบว่าสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศจะยังอยู่หรือไม่

ถาม: เมื่อวานบางกอกโพสต์ลงบทสัมภาษณ์วีระกานต์ ซึ่งมีการวิพากษ์ว่าแกนนำแตกแยก และบางส่วนไม่หวังดีต่อสถาบัน และมีบางส่วนตามความต้องการของประชาชนมากเกินไป

ณัฐวุฒิ: ไม่มีความแตกแยกในกลุ่มแกนนำ แต่ยอมรับว่าความแตกต่างทางความคิดมีอยู่ ความแตกแยกหมายความว่ามิได้อยู่ด้วยกันฉันมิตร แต่สำหรับเราความเป็นพี่น้อง ความผูกพันทุกอย่างยังคงเดิม เพียงแต่มิติทางความคิดบางอย่างเท่านั้นที่แตกต่างกัน แต่ถ้าทุกคนยังหันหน้าไปในทิศทางเดียวกันคือ ประชาธิปไตย ก็สามารถร่วมทางได้ตามแนวความคิดของแต่ละคน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับสถาบันนั้นผมยืนยันว่า มีความเป็นเอกภาพมีความเป็นหนึ่งเดียว คือจุดยืนตามที่ผมอธิบายไปแล้ว

จตุพร: ความเห็นของคุณวีระ เป็นความแตกต่าง ซึ่งถือเป็นความงดงามตามระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยก็คือการมีความแตกต่างแต่เส้นทางที่เดินคือ เสียงส่วนใหญ่ที่เป็นฝ่ายกำหนด

ประเด็นต่อมาก็คือ ในกระบวนการที่มีประชาชนที่มีความหลากหลาย คนที่เป็นผู้นำต้องมีความรับผิดชอบ ผมจึงเห็นว่าไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่เห็นว่ามีอันตรายก็ต้องแก้ไข ทั้งหมดนั้นผมยืนยันว่าแนวทางของ นปช. เป็นไปตามที่ นปช. ประกาศไว้ทุกประการ

ธิดา: ขอตอบเรื่องสถาบันและปัญหาการนำ คือ สองเรื่องนี้สัมพันธ์กัน อยากจะเรียนว่าเรานำด้วยหลักการ

ในการนำโดยหลักการ เราจึงต้องมีหลักนโยบาย ซึ่งเรามีหลักเกี่ยวกับกับการเมืองการปกครองคือ เราต้องการระบอบการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขโดยอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
นี่คือหลักการที่เราเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร

ประการต่อมา เราใช้การนำรวมหมู่ เราจึงต้องใช้วิถีทางประชาธิปไตยในแกนนำ
เพราะเป้าหมายของเราคือประชาธิปไตย ต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ในการตัดสินเรื่องสำคัญๆ

ถาม: การชุมนุมครั้งต่อไปจะมีหรือไม่ 

จตุพร: กฎหมายเลือกตั้งระบุแล้วว่านักการเมืองทำอะไรได้บ้าง แล้วประชาชนทำอะไรได้บ้าง เช่น การรำลึก 19 พ.ค. จะทำอะไรได้บ้าง

สำหรับคำถามว่าจะมีการชุมนุมอีกหรือไม่ ต้องบอกว่าการชุมนุมนั้นเป็นการระดมความคิด และจริงๆ แล้วมีทุกวัน เช่นวันนี้ก็มีที่สระบุรี

ถาม: หลังการสลายการชุมนุม มีแกนนำบางคนบอกว่าจะลงใต้ดิน จะหนีและต่อสู้โดยใช้อาวุธ แม้ว่าที่ผ่านมาไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากยังยืดเยื้อไม่มีประชาธิปไตย เป็นไปได้ไหมว่าจะมีการใช้อาวุธและความรุนแรง

ธิดา: เราไม่ใช้อาวุธ เราเคลื่อนไหวอย่างสงบและสันติ นี่คือหลักการของ นปช.
คำถามว่าหากการต่อสู้ยืดเยื้อจะมีอนาคตเช่นไร ที่ผ่านมาเราก็ต่อสู้ยืดเยื้อมาห้าปี ทำจากการไม่มีการจัดการองค์กร จนกระทั่งรวมตัวเป็นองค์กรได้ เราหวังว่าเราจะต่อสู้ได้ยืดเยื้อและมีระบบมากขึ้น แม้แต่หนังสือที่เรามีก็คือ ส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะจัดโรงเรียนเพื่อยกระดับแกนนำของเรา

เราเลือกสันติวิธีเพราะเราต้องการชัยชนะที่แท้จริง นปช. ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรา และเข้มแข็งมากขึ้นทุกวันๆ เพราะเราเลือกสันติวิธี

แต่แน่นอนว่าอาจจะมีบางส่วนที่ไม่เชื่อในหนทางสันติวิธี ซึ่งเขามีสิทธิคิดต่างและนั่นเป็นเรื่องในอนาคต ที่มีปัจจัยหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจรัฐ แต่เรา นปช. เราจะทำตามพันธสัญญาที่ตกลงกันไว้ เราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ได้ชัยชนะ ให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยและประชาชนมีความสุขอย่างแท้จริง

ณัฐวุฒิ: พวกเรามีความเชื่อตรงกันว่า การต่อสู้ของเราเป็นการต่อสู้ระยะยาว ดังนั้น หากการต่อสู้นี้จะยืดเยื้อออกไปย่อมไม่เป็นเหตุผล ให้เราเปลี่ยนแนวทางจากสันติวิธีไปจับอาวุธ ใช้ความรุนแรง เพราะผมเชื่อว่า เวลาอยู่ข้างเรา ท่านทั้งหลายเชื่อเหมือนผมไหมครับ (เสียงปรบมือ)

จตุพร: การชุมนุมของ นปช. ทั้งหมดที่เป็นมติ คือสันติวิธี เราเชื่อว่ามือเปล่าจะชนะกองทัพ เพราะเราจะไม่มีทางเอาอาวุธมาสู้ให้ชนะกองทัพ

ธิดา: สนามการต่อสู้ของเราคือความชอบธรรม ไม่ใช่สนามรบ


http://www.prachatai.com/journal/2011/04/34249



http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น