วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554


วันแม่.....ที่แท้จริง
       วันแม่ เป็นวันที่สำคัญในหลายประเทศทั่วโลกจัดขึ้นเพื่อให้เกียรติแม่และความเป็นแม่ ในประเทศไทยวันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ในประเทศอื่นทั่วโลกวันแม่จะอยู่ในช่วง เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ส่วนในอังกฤษและไอร์แลนด์วันแม่ถูกจัดขึ้นต่อจากวันอาทิตย์แห่งความเป็นแม่ซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์

        ในวานเปตรยุคโรมันโบราณมีวันหยุดที่คล้ายกันคือ มาโตรนาเลีย ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงเทพีจูโน เทพีผู้พิทักษ์ ส่วนในยุโรปมีประวัติเกี่ยวกับวันแม่ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น วันอาทิตย์แห่งความเป็นแม่ (Mothering Sunday) ซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์ ในสหรัฐอเมริกาได้มีการผลักดันให้มีการฉลองวันแม่ภายหลังสงครามกลางเมืองอเมริกัน โดย จูเลีย วอร์ด ฮาว โดยมีความเชื่อว่าเพศหญิงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างสังคม วันผู้หญิงนานาชาติได้มีการเฉลิมฉลองครั้งแรกเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2452 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกัน แอนนา ยาร์วิสได้เริ่มผลักดันให้มีการเฉลิมฉลองวันแม่ในสหรัฐอเมริกา

       สงครามกลางเมืองอเมริกาสิ้นสุดในปี 1865 ส่งผลให้ทหารกว่าครึ่งล้านต้องเสียชีวิต เศรษฐกิจสั่นคลอน และความคิดด้านการเมือง ของผู้คนยังคงแตกแยก การฉลองวันแม่แห่งชาติอเมริกาเริ่มต้นจากความพยายามของผู้หญิงสองคน ที่ต่อสู้เพื่อสันติภาพและการคืนดีในช่วงที่ประเทศกำลังบอบช้ำ ในปี 1870 จูเลีย วอร์ดโฮว เรียกร้องให้มีวันแม่สากล (International Mother’s Day) ซึ่งเป็นวันที่ผู้หญิงจะมารวมตัวกันต่อต้านสงครามในทุกรูปแบบ ไม่กี่ปีต่อมา แอนนา รีฟส์ จาวีส ได้ริเริ่มวันแม่ไมตรีจิต (Mother’s Friendship Day) ประจำปี มีเป้าหมายเพื่อให้คนในครอบครัวและเพื่อนบ้านที่ต้องบาดหมางกันเพราะสงคราม ได้กลับมาพบกันอีก การที่เพื่อนหรือครอบครัวต้องแตกแยกกันและไม่ ยอมให้อภัยกัน ถือเป็นความเจ็บปวดแสนสาหัส

วันแม่ในประเทศต่าง ๆ

          ประเทศอื่น ๆ ก็มีการกำหนดวันแม่ไว้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ใช้วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ประเทศรัสเซียใช้วันที่ 28 พฤศจิกายน เป็นต้น ทั้งนี้บางประเทศมีการเฉลิมฉลองในวันสตรีสากล

        ในญี่ปุ่น ปี 1931 (หรือปีโชวะที่ 6) องค์กร สตรีสูงสุดของญี่ปุ่นได้ตั้ง วันที่ 06 มีนาคม ซึ่งเป็นวันฉลองพระราชสมภพ ของ พระราชินี คาโอรุ มาโคโตะ (Empress Kaoru Makoto) เป็น "วันแม่" 
       
        ต่อมาในปี 1937 วันที่ 5 พฤษภาคม (หรือปีโชวะที่12 ) และได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อ (ได้รับการสนับสนุนโดยคณะกรรมการกลางให้จัดตั้งวันแม่) ขึ้นใหม่ในปี 1949 (หรือปีโชวะที่24 ) โดยมาจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่สองในเดือนพฤษภาคม ตามประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายๆประเทศ


       ทั้งนี้ วันเด็ก 5 พฤษภาคม เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (วันหยุดแห่งชาติตามกฎหมาย) "เพื่อให้เด็กได้มีความสุขกับครอบครัวและ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อขอบคุณแม่ที่ทำให้เราได้เกิดมาอีกด้วย

      ในวันแม่ ปกติประเทศญี่ปุ่นจะให้ดอกคาร์เนชั่นแต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่เพียงดอกคาร์เนชั่นเท่านั้น แต่ดอกกุหลาบสีชมพูและดอกเยอบิร่า ก็ให้ได้เช่นกัน


     ในประเทศไทย เดิมมีการจัดงานวันแม่ โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ช่วงหลังวันสงกรานต์ ซึ่งต่อมา ก็ได้เปลี่ยนเป็นวันครอบครัว พ.ศ. 2493 คณะรัฐมนตรีได้มีการเปลี่ยนแปลงวันแม่ อีกครั้งหนึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ในคณะรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม 


      ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 หลังเหตุการปราบปรามทางการเมืองโดยใช้อาวุธของรัฐบาลไทยในสมัยนั้น ได้เปลี่ยนความหมาย และวัน มาเป็นวันที่ 12 สิงหาคม ด้วยเหตุผลทางการเมืองแบบอิงแอบสถาบัน ซึ่งทำให้ความหมายของวันแม่เฉพาะในประเทศไทยเปลี่ยนไป  พร้อมกับได้กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แทนวันแม่ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่มีสีขาว มีกลิ่นหอมและออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น