วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554


เมือก ยังไม่เลิกโกหก
สืบเนื่องจากการเสนอข่าวแถลงการของทหารตำรวจประชาธิปไตยของ http://redusala.blogspot.com/  ในหัวข้อ  แถลงการณ์ทหารตำรวจประชาธิปไตย ๒๕๕๔   http://redusala.blogspot.com/2011/08/blog-post.htmlจนนำไปสู๋การเสนอข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ชื่อดังของประเทศไทย ในที่สุด สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาแถแล้วครับ 



7 สค. 2554 19:49 น. 



นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงชี้แจงถึงกรณีที่มีการเสนอข่าวเอกสารลับ ศอฉ. ที่มีคำสั่งให้ทหารใช้อาวุธปืนยิงประชาชนที่มาชุมนุมในวันที่ 10 เม.ย.ว่า ไม่รู้เจตนาของผู้เสนอข่าว แต่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อผู้สั่งการและเจ้าหน้าที่ จึงขอชี้แจงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องดังนี้ 1.สำเนาเอกสารคำสั่งที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งนำมาแสดงนั้น ได้ตัดวันที่สั่งการออกไป ซึ่งความจริงแล้วคำสั่งปฏิบัติการที่นำมาแสดงในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ เป็นคำสั่งลงวันที่ 13 เม.ย. 2553 ไม่ใช่วันที่ 10 เม.ย.2553 แต่เป็นการสั่งการหลังเกิดเหตุคนชุดดำ ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม นำอาวุธสงครามมายิงเจ้าหน้าที่ ประชาชน จนมีผู้เสียชีวิต 26 คน บาดเจ็บ 800 คน ศอฉ.จึงจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า แต่ปรากฎว่า หลังวันที่ 10 เม.ย.2553 เหตุรุนแรงยังไม่ยุติ คนชุดดำยังถืออาวุธร้ายแรงก่อเหตุร้ายต่อเนื่องแทบทุกวัน ศอฉ.จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ปืนลูกซอง ซึ่งเป็นอาวุธไม่ร้ายแรง สามารถควบคุมการยิงได้ เพื่อป้องกันตัวเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้รอดพ้นภัยคุกคามของคนชุดดำ ซึ่งคำสั่งนี้ระบุเรื่องการควบคุมวิถีกระสุน ไม่มุ่งต่อชีวิตเป้าหมาย จึงมีคำสั่งชัดเจนว่า การใช้อาวุธให้เล็งยิงส่วนล่างของร่างกายตั้งแต่เข่าลงมา ยืนยันว่า สำเนาคำสั่งที่พาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง ในหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว เป็นคำสั่งการวันที่ 13 เม.ย.ไม่ใช่วันที่ 10 เม.ย.ตามที่พยายามจะให้ผู้อ่านเข้าใจผิด 

นายสุเทพ กล่าวว่า 2.ส่วนที่หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ได้นำสำเนาคำสั่งวันที่ 10 เม.ย. และ 13 เม.ย.มาลงตีพิมพ์ในหน้า 14 ของหนังสือพิมพ์ จนอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่า เป็นคำสั่งการในเหตุการณ์เดียวกันนั้น ขอชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ในวันที่ 9 เม.ย.กลุ่มผู้ชุมนุมนับหมื่นคนได้บุกโจมตีสถานีดาวเทียมไทยคม ลาดหลุมแก้ว พร้อมทำร้ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บนับ 100 คน และยึดอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ไปจำนวนมาก ก่อให้เกิดความกังวลว่า อาจนำอาวุธนั้น มาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ศอฉ.จึงมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธได้ เพื่อป้องกันตนเองและประชาชน โดยให้ใช้กรณีมีผู้กระทำผิดซึ่งหน้า และป้องกันอันตรายใกล้ตัวที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่และประชาชน ที่สำคัญหากจำเป็นต้องใช้อาวุธให้ทำตามขั้นตอนคือ 1.แจ้งเตือนด้วยวาจา 2.ยิงเตือนขึ้นฟ้า หรือในทิศทางที่ปลอดภัย 3.ใช้อาวุธตามหลักเกณฑ์โดยชอบด้วยกฎหมายและสมควรแก่เหตุ 


“ขอยืนยันว่า ศอฉ.ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่มีเจตนาร้ายต่อประชาชน ขณะนี้เหตุการณ์ร้ายได้ผ่านมาปีเศษแล้ว และมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบรรดาผู้ก่อเหตุ และผู้ต้องหาก่อการร้ายบางคนได้เป็นส.ส.พรรครัฐบาล บางคนอาจได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้กุมอำนาจรัฐจะสั่งการให้สอบสวนหรือดำเนินคดีกับผมที่เป็นผู้รับผิดชอบสั่งการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมพร้อมพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวเชื่อว่า มีกระบวนการไล่เช็คบิลผมแต่พร้อมจะพิสูจน์ข้อเท็จจริง ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดหนีไปต่างประเทศ ส่วนจะฟ้องกลับหนังสือพิมพ์หรือไม่ ขอดูก่อน ถ้าจำเป็นเพื่อให้เกิดการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ก็อาจต้องดำเนินการ” รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าว
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น