วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554


พรรคกากเดนอำมาตย์ยังดำรงอยู่ประเทศชาติไร้ความสงบ
รำลึก 5 ปี รัฐประหาร
     วันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นวันที่คนไทยทั้งประเทศไม่ลืมได้เลย เพราะเป็นวันที่คณะทหารทำรัฐประหารรัฐบาลของประชาชน ซึ่งมีประชาชนถึง 19 ล้านเสียงเลือกให้เป็นตัวแทนของพวกเขามาบริหารประเทศชาติ เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อเนื่องจากการบริหารมาแล้วตั้งแต่ปี 2544 และปี 2548 ก็ได้รับเลือกตั้งต่อด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 377 เสียง สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ เป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตยเมื่อปี 2475
            เป็นประวัติศาสตร์จริงๆ และจะมีเกิดขึ้นอีกหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ การได้รับการเลือกตั้งแบบถล่มทลายเมื่อปี 2548 สร้างความวิตกกังวลให้พวกเหล่าอำมาตย์เป็นอย่างมาก
            และแล้วพวกอำมาตย์ก็หาทางวางแผนทำลายล้มล้างคณะรัฐบาลที่ประชาชนจำนวนมากได้เลือกเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศต่อเนื่อง พวกอำมาตย์ได้วางแผนโดยใช้มวลชน วิธีการก็คือให้พรรคการเมืองที่เป็นกากเดนของพวกอำมาตย์เป็นผู้ดำเนินการ โดยร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดจ้างมวลชนเข้ามาชุมนุมและมีการปราศรัยใช้ความเท็จบ้าง ความจริงบ้าง ส่วนมากเป็นความเท็จ ปลุกระดมมวลชนให้จงเกลียดจงชังคณะรัฐบาล โดยเน้นไปที่ตัวบุคคลคือ พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นหัวหน้ารัฐบาล
            มวลชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมมีหลายส่วน แต่ในส่วนที่สำคัญคือ คนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และสาวกของสันติอโศก รวมทั้งคนงานตามโรงงานต่างๆที่เข้ามาร่วม หลังจากเลิกงานแล้ว การเข้าร่วมชุมนุมของคนเหล่านี้ก็เพียงเพื่อเงิน เป็นการหารายได้เสริมจากงานหลักของพวกตนเท่านั้นเอง
            การชุมนุมมีการยืดเยื้อยาวนาน มีการกระทำความผิดในเกือบทุกฐานความผิดของกฎหมายที่มีอยู่ แต่ก็ไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีแม้แต่รายเดียว
            สังคมเกิดความสงสัยแคลงใจว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ประชาชนก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ในขณะนั้น
            สำหรับรัฐบาลก็ไม่ยอมที่จะชี้แจงอะไรคืออะไรให้ประชาชนได้เข้าใจให้ชัดแจ้งได้ การชุมนุมไม่สามารถที่จะล้มรัฐบาลของนายก พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตรได้ ผลสุดท้ายอำมาตย์จึงใช้ให้ทหารทำรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549 อำนาจของประชาชน 19 ล้านเสียงก็หมดความหมายไปในวันนั้น เหตุเพราะประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและรักความเป็นธรรม ขาดการวางแผน หรือเตรียมแผนที่จะรับมือคณะรัฐประหารไว้ก่อน จึงทำให้อำมาตย์ทำการสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
            จากความง่ายดายของพวกอำมาตย์ในวันนั้น ต่อมาความง่ายดายดังกล่าวไม่ได้เป็นความง่ายดายของพวกอำมาตย์ต่อมาอีกเลย

            มีขบวนการต่อต้านการรัฐประหารที่สนามหลวงเรียกว่ากลุ่มนปก.และต่อมาได้พัฒนาเป็นกลุ่มนปช. โดยใช้เสื้อสีแดงเป็นสัญลักษณ์ หรือเรียกว่ากลุ่มคนเสื้อแดง
                นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเติบโตอย่างรวดเร็วและมีจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ร่วมชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย โดยให้รัฐบาลยุบสภา ขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้สั่งปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง โดยใช้ให้ทหารติดอาวุธยิงประชาชนมือเปล่าล้มตายไปถึง 91 ศพและบาดเจ็บ 2,000 เศษ เป็นปฏิบัติการของรัฐบาลที่ไม่น่าเชื่อได้เลยว่าเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย
                และเราก็ไม่เชื่อจริงๆว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยโดยเข็ดขาด เพราะการกระทำของรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นการกระทำของรัฐบาลเผด็จการเขาทำกัน หรือไม่ก็เป็นรัฐบาลอำมาตยาธิปไตยจะเป็นอื่นไปไม่ได้
            ผลกรรมที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นรัฐบาลเผด็จการหรือรัฐบาลอำมาตยาธิปไตย ซึ่งได้ปฏิบัติการทำร้ายประชาชนไปแล้วนั้น ท่านอย่าหวังว่าท่านจะหนีกรรมที่ท่านได้กระทำไว้ไปได้เลย ท่านและคณะของพวกท่านจะต้องได้รับผลกรรมที่ท่านได้กระทำไว้เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่ผู้เขียนมีความเชื่อว่าจะได้รับในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
            ถึงวันที่ท่านรับผลกรรมวันนั้น จะรู้ว่ากรรมที่ท่านทำไว้มันช่างสาสมกับการปฏิบัติการของท่านไม่น่าเชื่อจริงๆ แต่ท่านเชื่อเถิดว่า สิ่งที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้เช่นนี้ ท่านไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของท่านแต่กรรมที่ท่านจะได้รับนั้นเป็นกรรมหนักมากเปรียบเทียบกับอะไรไม่ได้
            แต่ก็ได้มีลางบอกเหตุเริ่มต้นแล้วที่เห็นชัดก็คือวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป พรรคของท่านและพรรคพันธมิตรท่านก็ได้รับบทเรียนจากการเลือกตั้งคือพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ด้วยอำนาจของประชาชนช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ทำให้พรรคของท่านและพรรคพันธมิตรต้องแพ้การเลือกตั้งแบบห่างกันเป็นเท่าตัว และอำนาจรัฐก็เปลี่ยนไปเป็นของพรรคประชาชนคือ “พรรคเพื่อไทย” ชนะการเลือกตั้งโดยเด็ดขาด และได้รับอำนาจจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศมาถึงวันนี้ยังไม่ครบเดือน แต่ก็ถูกท่านใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนานาด้วยวาทะกรรมของท่านและคณะ พวกท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านยังมีสติสัมปชัญญะดีหรือไม่ ทบทวนตัวเองบ้างสิครับ หรือพูดตามโบราณก็คือ “ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง” ฉายาของท่านที่ว่า “ดีแต่พูด” ก็ควรเพิ่มเป็น “ดีแต่พูดทำลายไร้ประโยชน์กับประเทศชาติ”
            นี่มีข่าวจากพวกของท่านที่อยู่แถวเพชรบุรีบอกว่าพวกท่านจะพยายามล้มล้างรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ได้ภายใน 6 เดือน เวลานี้ท่านสุมหัวกันคิดว่าจะใช้วิธีไหนที่จะล้มล้างรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายใน 6 เดือนนี้
            ผมขอบอกว่าขอเชิญนะครับท่านจะทำอะไรก็รีบทำเถิด เรื่องเลวร้ายทั้งหลายจะได้หมดไปจากประเทศนี้เสียที เมื่อเรื่องร้ายหมดไปก็คือ ไอ้พรรคกากเดนอำมาตย์ก็จะสูญสลายไปพร้อมกับเรื่องร้ายของประเทศด้วย
            ท่านอย่าคิดว่าท่านมีเส้น จะทำอะไรก็ได้เช่นที่เคยทำมาแล้วนั้น ท่านคิดผิดแล้วครับ ประชาชนเค้าตาสว่างแล้วว่าเส้นของท่านเป็นใคร กลุ่มไหน ประชาชนพร้อมเสมอที่จะร่วมกันกวาดล้างพรรคกากเดนอำมาตย์พร้อมกับเส้นของท่านด้วยไม่ว่าจะเส้นใหญ่แค่ไหน
            ก้าวเดินต่อไปของมวลมหาประชาชนพร้อมแล้วที่จะสัปยุทธ์กับท่าน ปัญหามีอยู่ว่าท่านพร้อมหรือยัง เมื่อพวกท่านพร้อมปฏิบัติการได้ทันที แล้วเราจะได้รู้กันว่าใครจะอยู่หรือใครจะไป ทราบไหมไอ้กากเดนอำมาตย์และไอ้เส้นใหญ่ทั้งหลาย

http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น