วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554


อัดสุขุมพันธ์ ยอมรับความจริงว่าแก้ปัญหาน้ำท่วมกทม.เหลว

          ที่ประชุมเพื่อไทยซัด "สุขุมพันธุ์" แหลก ลั่นให้ยอมรับความจริงว่าแก้ปัญหาน้ำท่วมกทม.เหลว "ประชา" อัดชอบเอาความดีใส่ตัว อย่างกรณีขอเครื่องสูบน้ำ ผู้ว่าฯโวยศปภ.ไม่ให้ความร่วมมือในวันที่ 3 พ.ย. ทั้งๆที่ทำหนังสือขอมาเมื่อ 4 พ.ย. "เฉลิม" ออกโรงยุถ้าไม่ไหวจริงๆมหาดไทยใช้อำนาจปลดได้

วันนี้ 8 พ.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่าวันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงบประมาณได้มาทำความเข้าใจในการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2555 โดยที่ประชุมได้สอบถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่จากกรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ รวมถึงการจัดซื้อถุงยังชีพจากกรมบัญชีกลางด้วย ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า กทม.ชอบโยนความดีใส่ตัวความชั่วใส่รัฐบาล เช่น เรื่องการขอเครื่องสูบน้ำ โดยพล.ต.อ.ประชา นำหนังสือของ กทม.ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน เรื่องขอเครื่องสูบน้ำจาก ศปภ. แต่ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่าไม่ได้รับความร่วมมือจาก ศปภ.ในวันที่ 3 พฤศจิกายน มาแสดงให้ที่ประชุมดูด้วยว่า กทม.ออกมาโวยวายก่อนที่จะทำหนังสือขอมา

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวในที่ประชุมถึงการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ด้วยว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ กระทรวงมหาดไทยสามารถใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องปลดผู้ว่าฯ กทม.ได้ โดยร.ต.อ.เฉลิมเป็นหนึ่งในคณะผู้ร่างกฎหมายเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

        ทั้งนี้ในที่ประชุมยังพูดคุยกันด้วยว่า กทม.บอกว่าเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่สามารถสูบน้ำได้ 70 เปอร์เซ็นต์ และมีศักยภาพใช้ได้กับน้ำท่วมขังหลังฝนตกไม่ใช่น้ำท่วม ซึ่งหากผู้ว่าฯ กทม.พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก ศปภ.จะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ โดยจะสั่งการปิดเปิดประตูระบายน้ำเอง เชื่อว่าจะสามารถระบายน้ำได้หลายหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่เมื่อกทม.ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จึงค่อยรับสารภาพ ทั้งนี้ คงจะยังไม่ปลดผู้ว่าฯ กทม.ในขณะนี้ แต่ขอให้กทม.ยอมรับความจริง อย่าทำตัวเป็นเขตปกครองพิเศษ

อัด “ชวนนท์”

          ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นายชวนนท์ อินทรมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ว่า สาเหตุที่นายชวนนท์นำข้อมูลสถิติน้ำในเขื่อน 6 แห่งมาเปิดเผย(เมื่อวันที่ 8 พ.ย.)แต่ทำไมไม่นำข้อมูลการกักน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มาชี้แจง เพราะสิ่งที่นายชวนนท์นำมาพูดเช่นข้อมูลของเขื่อนอุบลรัตน์ซึ่งไม่มีผลเกี่ยวกับน้ำท่วมภาคเหนือกลางและ กทม.นั้น หากพรรคนี้แน่จริงทำไมไม่นำข้อมูลของสองเขื่อนข้างต้นตั้งแต่ ม.ค.ถึง ส.ค.ปีนี้มาเปิดเผยและเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของ 2 ปีก่อนหน้านี้ว่ามีตัวเลขการกักเก็บน้ำมากขึ้นผิดปกติหรือไม่ ตรงนี้คือการพูดความจริงไม่หมดอีกครั้งของพรรคนี้

        นายอนุสรณ์กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังออกทะเลก่อนมวลน้ำเสียอีก และดิ้นรนผิดปกติในเรื่องตัวเลข รัฐบาลเห็นด้วยกับการนำความจริงมาเปิดเผยกับประชาชนและเต็มใจรับคำท้าของพรรคประชาธิปัตย์ในการตรวจสอบข้อมูล แต่นายชวนนท์ควรไปดูว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เจ้านายตัวเองเมื่อครั้งเป็นนายกฯ ว่าเคยทำผิดพลาดเรื่องนี้อย่างไรบ้างในเรื่องภัยแล้งและเตรียมกักเก็บน้ำในเขื่อนไว้อย่างไรบ้าง แท็กติกของพรรคนี้มุ่งโจมตีบุคคลเพราะรู้ว่าจะทำลายระบบพรรคเพื่อไทยที่เชื่อมโยงกับประชาชนทั้งประเทศไม่ได้จึงเน้นโจมตีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นหลัก เช่นกล่าวว่านายกฯ เล่นบทนางเอกอ้อนขอคะแนนเสียง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเลย แต่นายกฯ พูดความจริงและเห็นใจประชาชนจึงพูดจานุ่มนวลปรองดองกับทุกฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แม้แต่ทหารยังร่วมลงเรือลำเดียวกันและรัฐบาลอนุมัติงบประมาณสี่พันห้าร้อยล้านบาทสนับสนุนภารกิจของทหาร ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ทำใจยอมรับนายกฯ ไม่ได้เพราะตอนนี้ทุกคนเครียดกับน้ำท่วม ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกเจ้าคิดเจ้าแค้น และร่วมมือกับทุกฝ่ายแก้ปัญหาบ้านเมืองแบบสร้างสรรค์ดีกว่า

         อนึ่ง ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และนายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง รวมทั้งนายชวนนท์ เคยนำข้อมูลการเก็บกักน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแล้ว เพื่อยืนยันว่าในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกฯ เขื่อนทั้งสองแห่งกักเก็บน้ำไว้ประมาณ 66% ของความจุ แต่หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามารับตำแหน่งต่อ ปริมาณการเก็บกักน้ำจึงเพิ่มขึ้น เนื่องจ่ากมีพายุเข้ามาในประเทศไทยหลายลูก แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้จัดการระบายน้ำออก จนกระทั่งน้ำเกินความจุของเขื่อนจึงเร่งระบายออกมา ก่อให้เกิดมหาอุทกภัยอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น