วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ลึกแต่ไม่ลับ โดย จรัญ พงษ์จีน



ลึกแต่ไม่ลับ โดย จรัญ พงษ์จีน
คอลัมน์ ลึกแต่ไม่ลับ 
โดย จรัญ พงษ์จีน
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 
ปีที่ 32 ฉบับที่ 1663 หน้า 8


              ในที่สุด รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยอมหลบฉากประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่อมีมตินำกรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซ่า) ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศและสภาพอากาศ ภายใต้โครงการศึกษาการก่อตัวของเมฆที่อาจมีผลก ระทบต่อสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAC RS) เข้าสู่การประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไป ซึ่งจะเปิดในวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อรับฟังความเห็นของ ส.ส. และ ส.ว. หลังจากมีเสียงคัดค้านอย่างหนัก โดยเฉพาะจากพรรคฝ่ายค้านคือ ประชาธิปัตย์ กับกลุ่มพันธมิตรฯ นับเป็นการเบี่ยงตัวหนีเผือกร้อนทางการเมืองอีกระลอก

              ช่วงนี้ ถือว่าชะตาราหูของรัฐบาล "ปู" ไม่สู้ดี พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก "งานเข้า" ไม่หยุดหย่อน และแต่ละเงื่อนไขล้วนเป็น "ชนวนเสียว" ต่อจิ๊กซอว์มาเป็นชุดๆ ดังที่ได้ลำดับให้ดูชมไปแล้วใน "ลึกแต่ไม่ลับ" เมื่อสัปดาห์ก่อน และคาดหมายว่ายังมีวาระซ่อนเร้นอื่นๆ เตรียมปูดออกมาฟาดกระหน่ำอีกหลายประเด็นในโอกาสต่อๆ ไป

               "คนใน" ระดับ "สุชาติ ธาราดำรงเวช" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแท้ๆ ยังสวมบทโหร "ฟันธง" เสียงดังฟังชัดว่ารัฐบาลต้นสังกัด ส่อเค้าว่า "อยู่ไม่ยืด"
ทั้งนี้ "เสมา 1" ซึ่งมีชื่อติดโผอยู่ระนาบหัวแถวมาตลอดว่าจะถูกเขี่ยออก หากมีการปรับ ครม. "ปู 3" ประเมินโดยพื้นฐานว่า รัฐบาลกำลังเผชิญกับมรสุมเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นประเด็น "จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำ นปช. ที่ถูกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยื่นถอนประกันคดีก่อการร้าย-การแก้ไขรัฐธรรมนูญ-ปัญหาการแบ่งสีจะรุนแรงมากขึ้น เหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ อาจส่งผลถึงการยุบพรรคบางพรรค การถอดถอน ส.ส. จำนวนมาก จึงเป็นบทสรุปที่น่าสนใจว่า "อยู่ถึงสิ้นปีลำบาก"

                ไม่เพียงแต่ "สุชาติ" ซึ่งอยู่ระดับคลุกวงใน จะรู้สึกหวั่นไหวกับสถานการณ์อันไม่สู้ดี คอการเมืองเอง จับกระแสโดยภาพรวมแล้ว ก็มองไปในทิศทางเดียวกัน ว่ารัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" กำลังเจอคลื่นใต้น้ำแปลกๆ ละม้ายใกล้เคียงกับเหตุการณ์ก่อน "ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549" ผสมกับ เหตุการณ์ช่วงฆ่าตัดตอนรัฐบาล "สมัคร สุนทรเวช-สมชาย วงศ์สวัสดิ์"
ชงให้เจอทางตันเข้าแก๊ป "ปฏิวัติเงียบ" เพื่อล้างไพ่ทางการเมืองกันใหม่อีกรอบ และคาบนี้ จะไม่เรียกใช้บริการสูตร "เทพประทาน 2" เนื่องจากเกิดอาการผิดหวังมาจาก "เทพประทาน 1" อุตส่าห์กวาดบ้าน จัดสำรับกับข้าว ป้อนน้ำป้อนท่าให้ทุกกรณีแล้ว แต่กลับ "ไม่เอาอ่าว" พ่ายป่าราบ ถูก "ยึดเมือง" กลับไปต่อหน้าต่อตา
กรณีหักโค่นรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" สำเร็จ ด้วยสูตร "ปฏิวัติเงียบ" ข่าวระบุว่ามีการวางตัวบุคคลที่ขึ้นมาขัดตาทัพเรียบร้อยแล้ว เป็น "น้ำดี" เพื่อมากอบกู้วิกฤตประเทศ ชื่อปรากฏออกมา จะไม่มีใครคัดค้าน...ข่าวลือ เขาว่ายังงั้น

                เกมใต้ดิน-บนดิน ในการขยับขับเคลื่อน เพื่อหักโค่นรัฐบาล "ปู" ให้จอดป้าย อาศัยกลไก "นอกสภา" มาเป็นตัวกดปุ่ม "นายใหญ่ดูไบ" ย่อมรู้แจ้งแทงทะลุดีกว่าใครเพื่อน จึงสั่งถอยทุกกรณี และเช็กกระแส เตรียมทางหนีทีไล่ไว้รับมือแล้วทุกกระบวนท่า อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมา เล่นแผน "ลับ-ลวง-พราง" ชื่อไปปรากฏอยู่ประเทศญี่ปุ่น เข้าออก 2-3 เที่ยว อ้างว่าเดินสายกินข้าว แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเกลอเก่าๆ แต่จังหวะปะเหมาะช่วงหนึ่งแอบตีกรรเชียงโฉบเข้าฮ่องกง และสิงคโปร์ ก่อนบินกลับนครดูไบ เพราะนัดหมายไว้กับ "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะแม่ทัพศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี นำ "วิเชียร ขาวขำ" ที่ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายไปให้ "นายใหญ่" เป่ากระหม่อม

               มีข่าวว่า อีกไม่กี่วันที่จะถึง "ทักษิณ" จะโฉบมาเยี่ยมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และย่องเข้าเขมรแบบเงียบๆ

              การบุกกัมพูชาคาบนี้ มีวาระพิเศษสุด คือ บุกไปเคลียร์ใจ และเงินกับ "สมเด็จฮุน เซน"  ประเด็นไม่เป็นเรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อเดือนเมษายน "นายใหญ่" บินเข้ากรุงพนมเปญ เพื่อให้แกนนำ นปช. และกองทัพ "เสื้อแดง" แห่ไปรดน้ำดำหัว ดังที่เป็นข่าวว่า ยกพลไปสร้างสีสันกันครึกครื้นหลายหมื่นคน

             ตามข่าวเล่ากันเป็นตุเป็นตะในขณะนั้นว่า เพื่อเป็นการซื้อใจค่าใช้จ่ายทุกเม็ด ไม่ว่าจะเป็นที่พัก อาหารการกิน ยานพาหนะ ค่าธรรมเนียม ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ถูก "เจ้าภาพ" ใจป้ำบริการฟรีแบบคนกันเองให้ทั้งหมด

             แต่ "นายใหญ่" ไม่ยอม สั่งคนใกล้ชิดประเมินตัวเลขแล้ว "เหมาจ่าย" ให้ ทั้งโรงแรม ค่าภาษี อาหาร และอื่นๆ ให้ประเมินตัวเลขไว้

             ก่อนกลับ มีการโปะจ่ายให้เรียบร้อย ผ่าน "เสี่ย" รายหนึ่ง ซึ่งเป็นล็อบบี้ยิสต์ชื่อดังคนหนึ่งและใกล้ชิดกับศูนย์อำนาจใหญ่

             ปรากฏว่า เงิน-ค่าใช้จ่าย ที่เคลียร์ก่อนเดินทางกลับ ประเมินว่าคงสมน้ำสมเนื้อ ไม่ถึงมือเจ้าของธุรกิจ และหน่วยงานที่ไปใช้บริการ

จึงร้องเรียนกับ "สมเด็จฮุน เซน"

"ฮุน เซน" ทำท่าจะเคือง "นายใหญ่" เลยต้องรีบไปเคลียร์กับเพื่อนเลิฟ

ส่วนการเข้าลาว จะมีนัยยะอะไร ไว้เป็นที่หลบฉากหลังพ่ายทัพหรือไม่ ยังไม่มีใครทราบได้
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น