วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แก้ได้-ไม่ล้มล้าง


แก้ได้-ไม่ล้มล้าง
แก้ได้-ไม่ล้มล้าง เสาร์ ที่ 7 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2555

โดย สมิงสามผลัด คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ในข่าวสดออนไลน์ วันศุกร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.

        จับตาด้วยใจระทึก การไต่ สวนของศาลรธน.กรณีมี ผู้ร้องว่าการแก้ไขรธน. มาตรา 291 เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68  เพราะหากมีคำวินิจฉัยว่าไม่เป็นไปตามที่ผู้ร้องกล่าวหา
ก็เท่ากับว่ารัฐสภาเดินหน้าแก้ไขมาตรา 291 วาระ 3 ได้ทันที

แต่ถ้าวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครองจริง ๆ ก็ต้องระงับการแก้ไขรธน. ไปโดยปริยาย โดยมีการวิเคราะห์กันด้วยว่าในกรณีนี้อาจเกิดการฟ้องยุบพรรคเพื่อไทย อาจหนักหน่วงถึงขั้นให้ตัดสิทธิทางการเมืองส.ส.ที่ยกมือสนับสนุนการแก้ไขรธน.ด้วย


ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ !?

ส.ส.ค่อนสภาถูกตัดสิทธิทางการเมือง

แต่นี่เป็นเพียงการคาดการณ์

ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของ 9 ตุลาการศาลรธน. ซึ่งมิอาจก้าวล่วงได้

แต่หากย้อนกลับไปดูในอดีต มี 2 เหตุการณ์เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

อันแรกเป็นคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สรุปออกมาแล้วว่าการแก้ไขรธน.ไม่ขัดมาตรา 68

"เห็นว่าการเสนอขอแก้ไข รธน.ของผู้ถูกร้องมิได้มีเจตนาหรือต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะเมื่อร่างรธน.ฉบับใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีผลเป็นการยกเลิกรธน.ฉบับเดิม สภาร่างรธน.ก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติดังกล่าว คือต้องยกร่างรธน.ฉบับใหม่ให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"

อันที่สองเป็นคำปราศรัยของนายจรัญ ภักดีธนากุล เมื่อครั้งเป็นส.ส.ร.ยกร่างรธน.ปี50 ที่เคยระบุว่า

"ร่างรธน.ฉบับนี้ (ปี50) เรายอมรับว่าไม่ใช่ฉบับที่ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด...ผมอยากให้ทำแบบปี 40 เราเสนอแบบให้แค่ 5 หมื่นคนเท่านั้นครับ แล้วก็ส.ส.ในสภา 1 ใน 4 เท่านั้นครับ เสนอแก้ไขมาตราเดียวแบบที่เราเริ่มทำในพ.ศ.2540 แล้วให้กระบวนการนั้นจัดทำกระบวนการร่าง รธน.ขึ้นใหม่"



ทั้งความเห็นของนายจรัญและคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน


คือแก้ไขรธน.ได้-ไม่ล้มล้างการปกครอง

น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคดีนี้พอสมควร
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น