วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แฝดนรก รักพ่อ เลวซ้ำซ้าก

"แฝดนรก!" เลวซ้ำซาก "พกปืนเถื่อน-กร่างคุมบ่อนตีไก่" ย่านคลองสี่

"แฝดเกรียน" มือต่อยอาจารย์ นิติราษฎร์โดน ตำรวจปทุมธานีล็อกอีกแล้ว ล่าสุด "เบนซ์-สุพัฒน์ ศิลารัตน์" โดนรวบฐานพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตขณะทำหน้าที่คุม "บ่อนไก่" ชื่อดังในพื้นที่คลองสี่ ส่วน "แบงค์-สุพจน์ ศิลารัตน์" แฝดอีกคนตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เผยเป็นบ่อนไก่ของอดีตผู้ใหญ่บ้านผู้กว้างขวาง เปิดร่วมหุ้นกับส.จ.เมืองนนท์ ที่ผ่านมาชาวบ้านร้องเรียนเข้ามามากว่ากลัวจะเกิดเรื่อง เพราะแต่ละคนพกปืนกันหราชนิดไม่หวั่นเกรงกฎหมาย 

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พ.ค. พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สามารถ ศิริวิบูรณ์ชัย รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง และพ.ต.ท. จีรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง ยกกำลังชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานี และชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง กว่า 100 นาย นำหมายศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจค้นบ่อนตีไก่ชนคลองสี่ หมู่ 6 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีคนพกพาอาวุธปืนเข้ามาเล่นพนันตีไก่ชน

ที่เกิดเหตุเป็นบ่อนไก่ขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังกันปิดล้อม และขอกำลังสนับสนุนสายตรวจจราจรร่วมกันค้นรถทุกคันที่เข้ามาจอดภายในบ่อน ซึ่งมีจำนวนกว่า 300 คัน จากนั้นกำลังอีกชุดเข้าไปตรวจค้นภายในบ่อนและห้องพักผู้ดูแลบ่อน ผลปรากฏว่าพบตัวนายสุพัฒน์ หรือนายเบนซ์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกับนายสุพจน์ หรือนายแบงค์ ศิลารัตน์ พี่น้องฝาแฝด อายุ 32 ปี ทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และแกนนำนักวิชาการนิติราษฎร์ ล่าสุดเพิ่งก่อคดียิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก ได้รับบาดเจ็บ

จากการตรวจค้นพบว่านายสุพัฒน์พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 2 กระบอก คือ ปืนยี่ห้อซีแซด ขนาด 9 ม.ม. เหน็บอยู่ที่เอว พร้อมกระสุน 12 นัดอยู่ในรังเพลิงขึ้นลำพร้อมยิง อีกกระบอกเป็นปืนขนาด 11 ม.ม. ยี่ห้อโคลต์ และกระสุน 13 นัด ส่วนนายสุพจน์ ฝาแฝดอีกคน ยืนคุมเชิงอยู่ปากทางเข้าหน้าบ่อนไก่ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

นอกจากนั้น ตำรวจยังตรวจค้นรถยนต์ของผู้ที่มาเล่นตีไก่ พบอาวุธปืนอีก 6 กระบอก ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 6 คนนำมาสอบสวนที่โรงพัก แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วนแก่พฤติการณ์

พ.ต.อ.สุนทร ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี หัวหน้าชุดจับกุมเปิดเผยว่า บ่อนไก่แห่งนี้เป็นของผู้ใหญ่ลี อดีตผู้ใหญ่บ้านผู้กว้างขวางในวงการตีไก่ ร่วมหุ้นกับส.จ.เมืองนนทบุรีคนหนึ่ง เปิดตีไก่มาราวๆ 5-6 เดือนแล้ว ทั้งสองคนได้ชักนำนายสุพจน์และนายสุพัฒน์ พี่น้องฝาแฝดมาคอยติดตามและคุมบ่อนไก่ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนว่าเห็นพี่น้องฝาแฝดพกพาอาวุธปืนและข่มขู่ผู้เล่นอยู่เป็นประจำ เกรงจะเกิดเหตุไม่คาดคิด ตำรวจจึงรีบนำกำลังเข้ามาตรวจค้นเสียก่อน และยังจับกุมนายสุชาติ สาดและ อายุ 31 ปี หรือนายบัง อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 13 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อนสนิทของฝาแฝดทั้งสองได้อีกด้วย ฐานพกพาอาวุธปืน 2 กระบอก

"จากการตรวจสอบพบว่านายสุพัฒน์มีอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.อย่างถูกต้อง โดยเพิ่งจะขอใบอนุญาตเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 56 ออกให้โดยนาย สุวิทย์ คำดี นายอำเภอคลองหลวง เซ็นอนุมัติออกใบอนุญาต เลขที่ 345/2556 ส่วนอีกกระบอกเป็นขนาด 11 ม.ม.ยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่นายสุพัฒน์รับว่าเป็นของตัวเองทั้งสองกระบอก" พ.ต.อ.สุนทรกล่าว

ด้านพ.ต.อ.สามารถ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ระบุว่า การตรวจค้นและจับกุมครั้งนี้ปฏิบัติตามนโยบายของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ที่มอบหมายผ่านมาทางพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เป็นการตรวจค้นเพื่อป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมในปทุมธานี สถานที่ดังกล่าวมีคนและอาวุธปืนจำนวนมากจึงเสี่ยงต่อการก่อเหตุอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นสนามชนไก่มีเอกสารใบอนุญาตถูกต้อง

"ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์เรื่องการควบคุมอาวุธเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม รวมทั้งกวดขันในเรื่องอาวุธปืน เพราะช่วงหลังการก่อเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะปล้นธนาคาร จี้ชิงทรัพย์ พยายามฆ่า หรือแม้กระทั่งการก่อนเหตุทะเลาะวิวาทนั้นนำไปสู่การใช้อาวุธปืนยิงกัน" พ.ต.อ.สามารถกล่าว

สำหรับประวัตินายสุพัฒน์ และนายสุพจน์ ศิลารัตน์ พี่น้องฝาแฝด มีคดีถูกจับกุมข้อหาทำร้ายร่างกายหลายท้องที่ อาทิ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สภ.ธัญบุรี และ สภ.คูคต ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.พ. 2555 ทั้งสองคนก่อเหตุบุกชกต่อยทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังโดนจับกุมอ้างว่าไม่พอใจที่นายวรเจตน์เคลื่อนไหวสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ตำรวจส่งฟ้องในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ศาลตัดสินจำคุกและอยู่ระหว่างประกันตัวต่อสู้คดี

ล่าสุด เมื่อเดือนเม.ย. 2556 เข้ามอบตัวสู้คดีใช้ปืน 9 ม.ม. ยิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก อยู่บ้านเลขที่ 512/14 หมู่ 4 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี สาเหตุสอบเบื้องต้นพบว่าฝาแฝดมาแก้แค้นให้กับอดีตผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อนไก่ที่ ตร.เข้าตรวจค้นวันนี้ หลังจากนายจงกลรับว่าความให้อดีตผู้ใหญ่บ้านแล้วทำเรื่องประกันตัวให้ไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น