วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

"ม็อบสนามหลวง" ปกป้อง 2 ผู้ต้องหาทำร้ายตำรวจ


"ม็อบสนามหลวง" ปกป้อง 2 ผู้ต้องหาทำร้ายตำรวจ
อ้าง "เป็นแผนการเผด็จการรัฐสภา ที่ต้องการทำลายพลังประชาชน"




          วันที่ 24 กรกฏาคม 2556 (go6TV) นายสมาน ศรีงาม แกนนำสภาประชาชนแห่งชาติ ปลุกระดมคนในวันอาทิตย์นี้ ปกป้อง “ลูกน้องผู้ต้องหา” ที่ทำร้ายเจ้าพนักงาน

           นายสมาน ศรีงาม แกนนำสภาประชาชน ซึ่งตกที่นั่งลำบากจากกรณีที่มีลูกน้องของกลุ่มสภาประชาชน ได้ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานตำรวจเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2556 ที่หน้าหอศิลป์ กรุงเทพมหานคร และตำรวจที่โดนทำร้ายร่างกาย ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีพร้อมประกาศให้ผู้ต้องสงสัย 2 คน(ตามภาพ) มามอบตัวแล้วนั้น

      ล่าสุด ในเพจเฟสบุ้คนายสมาน ศรีงาม ได้เขียนข้อความปลุกระดมว่าการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันอาทิต “เป็นแผนการเผ็ดการรัฐสภาที่ต้องการทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชน” โดยมีข้อความทั้งหมดดังนี้

     “ระวัง...แผนทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชนในรูปหน้ากากขาว...!!!

      ตำรวจได้ออกหมายเรียกการ์ด 2 ท่านนี้ให้ไปพบรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ในข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจในวันชุมนุมหน้ากากขาวที่หอศิลป์ กทม. วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา...ซึ่งน่าจะเป็นแผนการของเผด็จการรัฐสภาที่ต้องการทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต่อสู้อย่างสันติอหิงสาโดยสงบปราศจากอาวุธเพื่อยกเลิกระบอบเผด็จการรัฐสภา สร้างประชาธิปไตย ดังมีข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้...


  • 1. ตำรวจได้นำเอารถตู้มาปิดทางขึ้นลานหอศิลป์ กทม.ไว้ทุกๆด้าน เพื่อขัดขวางไม่ให้ประชาชนนำรถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานหอศิลป์ ซึ่งไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา 6 ครั้ง ที่ไม่เคยมีการกระทำเช่นนี้มาก่อนเลย ตำรวจทำเพื่ออะไร ?เพื่อขัดขวางการทำกิจกรรมของประชาชน หรือวางกับดักยั่วยุประชาชนให้เกิดการปะทะกัน ทำให้เห็นว่าเป็นความรุนแรง และกล่าวหาประชาชนว่าทำร้ายตำรวจ

  • 2. ประชาชนไปขอร้องให้ตำรวจขับรถออกไปเพื่อเปิดทางให้ประชาชนนำรถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานหอศิลป์ฯ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น ประชาชนจึงช่วยกันยกรถด้วยมือเปล่าเพื่อย้ายออกจากทางขึ้นหอศิลป์ แต่ยกไม่ไหว...ประชาชนจึงนำเอากระสอบทรายมาวางที่ริมฟุตบาทเพื่อให้รถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานฯ...แต่ปรากฏว่าทางตำรวจก็เดินแถวเข้ามาขวางไม่ให้รถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานฯ...ตำรวจเข้ามาขวางทำไม่ ? ต้องการไม่ให้รถเครื่องเสียงขึ้นบนลานฯ หรือเป็นแผนการที่ต้องการให้มีการปะทะกัน เมื่อมีการเจรจาและผลักดันกันไปมาเกิดการกระทบกระทั่งกันนิดหน่อยตามธรรมดา แล้วตำรวจก็กล่าวหาว่าประชาชนกระทำความรุนแรงทำร้ายตำรวจ ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาในอดีตที่กระทบกระทั่งกันแรงกว่านี้ก็ไม่เห็นว่าอะไรกัน ไม่เห็นไปแจ้งความ ทั้งฝ่ายตำรวจและประชาชน นี่ทำไมจึงแจ้งความ...?

  • 3. ฝ่ายประชาชนก็ช่วยกันห้ามปรามการกระทบกระทั่งกันไม่ให้มีการปะทะกันรุนแรงใช้สันติวิธีอหิงสา และก็ห้ามปรามสำเร็จ มีการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยดี...โดยทางคณะธรรมยาตราฯ ก็ช่วยกันห้ามปรามและเจรจาอย่างเต็มที่จนสถานการณ์เรียบร้อยดี โดยได้เข้าไปเจรจากับทั้งตำรวจชั้นผู้น้อยและผู้บังคับบัญชาต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชน แล้วก็จบกันลงด้วยดีด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน แต่ทำไมจึงมีการแจ้งความกล่าวหาประชาชนว่าเป็นฝ่ายทำร้ายตำรวจอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย...นอกจากเหตุผลทางการเมืองที่..."ต้องการจะทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต่อสู้เอาชนะเผด็จการรัฐสภา สร้างประชาธิปไตย"...???


           หมายเหตุ...มีการยืนยันว่า..."ตำรวจใช้โล่ห์กระแทกเท้าของการ์ดอย่างรุนแรงหลายครั้งจึงเกิดปากเสียงและการกระทบกระทั่งกันขึ้น"

          คณะธรรมยาตราฯ และสมาชิกของสภาประชาชนแห่งชาติ และประชาชนหน้ากากขาว และกลุ่มต่างๆ ก็เห็นความจริงของสถานการณ์ และบันทึกคลิปวีดีโอไว้ รวมทั้งกล้องของทีวีช่องต่างๆ เป็นหลักฐานประจักษพยานได้อย่างดีว่าประชาชนไม่ได้ไปหาเรื่องตำรวจแต่อย่างใดทั้งสิ้น และประชาชนไม่ได้เป็นผู้กระทำความรุนแรง แต่ประชาชนถูกกระทำต่างหาก

        ดังนั้น ประชาชนจะต้องออกมาร่วมกันแสดงพลังอันบริสุทธิ์ของประชาชนที่ยิ่งใหญ่เพื่อรุกกลับต่อสู้เอาชนะต่อระบอบเผด็จการรัฐสภา สร้างประชาธิปไตยอย่างสันติวิธีตามวิถีแห่งพุทธอหิสาธรรม...ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคมนี้ ณ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และหอศิลป์ อันเป็นการแสดงประชามติแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะพลังประชาชนเป็นพลังที่บริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ที่สุดไม่มีใครทำลายได้อย่างสิ้นเชิง...!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น