‘กองทัพ ปชช.โค่นระบอบทักษิณ’ ร้อง 6 ข้อ รบ. แสดงจุดยืนจงรักภัคดีต่อสถาบันฯ ยิ่งลักษณ์-ยุทธศักดิ์ ออกจาก รมว.กลาโหม แก้ปัญหาข้าวยากหมากแพง ยุติโคงการเงินกู้ ถอน ร่าง พรบ.ปรองดอง เอาผิดกับผู้ทุจริตนำข้าว เตรียมชุมนุม 4 ส.ค.นี้
20 ก.ค.56 ที่ สนามม้านางเลิ้ง กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ ได้เปิดตัวคณะเสนาธิการร่วม ประกอบด้วย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตแกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัจน์ อดีตนายทหารคนสนิทพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี อดีตโฆษกอพส. และนายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 โดยมีนายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ ทำหน้าประสานงานองค์กรกลุ่มเครือข่าย และพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวมวลชน
พ.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ บนเวทีพันธมิตรยึดทำเนียบ
โดยได้ออก
แถลงการณ์ ฉบับที่ 1 กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ระบุว่า สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤติ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ถูกครอบงำด้วยอำนาจชั่วช้าสามานย์ ของระบอบทักษิณที่มีพฤติกรรมไม่จงรักภักดี เหิมเกริม กระทำการอันไม่เหมาะสม จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งบงการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ทำการแทรกแซง บ่อนทำลายผู้นำเหล่าทัพให้แตกความสามัคคี ย่ำยีกองทัพ ย่ำยีหัวใจของคนไทยทั้งชาติอย่างรุนแรงที่สุด รัฐบาลนี้ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นโกงกินบ้านเมือง ทำให้ประเทศสูญเงินไปกับนโยบายประชานิยมในโครงการจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท เมื่อข้าราชการผู้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติได้ตรวจพบการทุจริต รัฐบาลกลับใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน กระทำการข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม
รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ บริหารประเทศผิดพลาด ล้มเหลว จนเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง สินค้าและบริการสูงขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบบเศรษฐกิจ สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างแสนสาหัส รัฐบาลไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาปากท้อง กลับมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายที่จะทำให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ฟอกโทษพ้นผิด รัฐบาลนี้ กู้เงินอย่างมหาศาล ก่อหนี้ผูกพันชั่วลูกชั่วหลาน ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยไม่มีรายละเอียดที่โปร่งใส ไม่ดำเนินการประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งศาลปกครองได้วินิจฉัยให้ชะลอโครงการไปแล้ว แต่รัฐบาลยังเดินหน้าก่อหนี้อย่างไม่เกรงกลัว นอกจากนั้นแล้วยังออก พรบ. กู้เงินเพื่อพัฒนาระบบขนส่งทั่วประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท ที่ทำการยักย้ายถ่ายเท ไม่เข้าสู่ระบบงบประมาณรายจ่ายประจำปี อันส่อว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 และยังมีอีกสารพัดปัญหาทำให้แผ่นดินร้อนเป็นไฟ ผู้คนในชาติแตกความสามัคคี อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติ
แถลงการระบุด้วยว่า “กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ” มีภาระกิจ
- 1. เป็นศูนย์กลางการประสานงาน องค์กร กลุ่ม เครือข่าย พรรคการเมืองต่างๆ ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการโค่นระบอบทักษิณให้สิ้นซากไปจากแผ่นดินไทย
- 2. จัดตั้งและขยายมวลชนผู้รักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ รักประชาธิปไตย หวงแหนแผ่นดิน ให้สามัคคีรวมตัวกันมากขึ้น เป็นมวลมหาประชาชนในทุกจังหวัด
- 3. จัดตั้งกองกำลังปกป้องประชาชนในทุกจังหวัด
พร้อมด้วยข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 6 ข้อ ประกอบด้วย
- 1. ให้รัฐบาลแสดงจุดยืนในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการหยุดการกระทำอันไม่ควร การจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
- 2. ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทันที
- 3. ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ด้วยการยุติการขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม และลดราคาน้ำมันทุกประเภท ด้วยการดำเนินการให้ ปตท.หยุดค้ากำไรเกินควรเอาเปรียบประชาชน และปฏิรูป ปตท. ให้กลับมาเป็นของประชาชน โดยทันที
- 4. ให้รัฐบาลยุติโครงการกู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ พรบ.กู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเห็นชัดแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550
- 5. ให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร ถอนร่าง พรบ.ปรองดอง และ พรบ.นิรโทษกรรม ทุกฉบับที่เสนอเพื่อล้างผิด ฟอกโทษต่อนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
- 6. ให้รัฐบาลดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในทุกขั้นตอน ยกเลิกการตั้งกรรมการสอบสวน น.ส.สุภา ปิยะจิต รองปลัดกระทรวงการคลัง รวมทั้งคืนตำแหน่งให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ตามคำสั่งศาล โดยทันที
พร้อมทั้งกำชับด้วยว่าให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการใดๆ หรือบ่ายเบี่ยง ซื้อเวลา กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จะดำเนินการนัดชุมนุมโดยสันติแสดงสิทธิตามรัฐธรรมนูญและแสดงพลังในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 6 ข้อ ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น