|
ผู้ปกครองนักเรียนแห่แจ้งความเอาผิด 9ผอ. ลูกหาบเทพเทือก สั่งปิดโรงเรียนสนองม็อบประชาธิปัตย์
ผู้ปกครองนักเรียนเมืองคอน แห่แจ้งความดำเนินคดีทีมบริหารเทศบาลและผอ.โรงเรียน ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จากกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำม็อบราชดำเนินต่อต้านรัฐบาล ได้ประกาศมาตรการอารยะขัดขืน 4 ข้อ โดยเฉพาะขอให้หยุดการเรียน การสอน หยุดงาน 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.56 โดยในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ไม่มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนปฏิบัติตามคำประกาศของนายสุเทพเลย ยกเว้นโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวน 9 โรง ประกอบด้วยโรงเรียนเทศบาลวัดศาลามีชัย เทศบาลวัดท้าวโคตร เทศบาลวัดเสมาเมือง เทศาลวัดมเหยงค์ เทศบาลวัดเสาธงทอง เทศบาลวัดศรีทวี เทศบาลวัดใหญ่ เทศบางวัดท่าโพธิ์ และโรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก โดยโรงเรียนทั้ง 9 โรงดังกล่าว ได้แจ้งเด็กนักเรียนและปกครองอย่างกะทันหัน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าโรงเรียนปิด 3 วัน โดยอ้างว่าครูติดประชุม
โดยในส่วนของผู้ปกครองนักเรียนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนนับพันราย เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ทางโรงเรียนจะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ปกครองให้ทราบล่วงหน้าอย่างร้อย 3-5 วัน จึงเชื่อว่าการสั่งปิดโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช พร้อมกัน 9 โรง มีเบื้องหน้าเบื้องหลังเพื่อสนองคำสั่งทางการเมือง ให้เป็นไปตามคำประกาศมาตรการอารยะขัดขืนของนายสุเทพอย่างแน่นอน บรรดาผู้ปกครองเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ที่นำเอาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนไปใช้ต่อรองเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ดังนั้นเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 พ.ย. นายสมจิต ถาวรพันธ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 12 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช และบรรดาผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เกือบ 10 คน อาทิ นายสุนทร ธรรมรัตน์ อายุ 69 ปี นายพิเชฐ กวีวงศ์ประวัติ อายุ 48 ปี นายสุนทร กลับสติ อายุ 48 ปี นายชนะ สนิทใจ อายุ 59 ปี นายกิตติศักดิ์ เพียงพิมพ์ อายุ 36 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช นายมาโนช เสนพงศ์ รองนายกเทศมนตรี ฝ่ายการศึกษาเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช นายสมหวัง สิทธิประพันธ์ ผอ.กองการศึกษาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทั้ง 9 โรง ในข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายสมจิตเปิดเผยว่า ตนเลี้ยงดูลูก 2 คน ไม่มีแม่บ้าน ลูกของตนเรียนอยู่โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง ตามปกติตนไปทำงานในต่างจังหวัด และจะกลับมารับลูกในตอนเย็นของทุกวัน เมื่อทางโรงเรียนสั่งปิดอย่างกะทันหัน ทำให้ตนไม่สามารถไปทำงานได้ ในขณะที่ผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็ได้รับความเดือดร้อนในลักษณะเดียวกัน ซึ่งตามปกติหากทางโรงเรียนจะปิดเรียนจะต้องมีการแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ปกครองล่วงหน้า 3-7 วัน เพื่อให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้าและเตรียมพร้อมในการไปรับส่งบุตรหลาน แต่การแจ้งกับนักเรียนในเย็นวันที่ 12 พ.ย.56 ให้ไปบอกพ่อแม่ว่าโรงเรียนปิด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.56 จึงเชื่อว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน
“โดยเฉพาะการสนองคำสั่งของนายสุเทพที่นำมวลชนออกมาประท้วงกดดันขับไล่รัฐบาลอยู่ในขณะนี้ เป็นพฤติกรรมทางการเมืองที่เอาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนไปเป็นข้อต่อรองเพื่อผลประโยชน์ในทางการเมือง นับเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าข้ออ้างของผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทั้ง 9 โรง ที่ว่าปิดโรงเรียนเพราะครูประชุมนั้นเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะมันสอดคล้องกับคำสั่งของนายสุเทพ ที่ต้องการให้ปิดโรงเรียน 3 วันพร้อมกันทั้ง 9 โรงอย่างกะทันหัน ผู้บริหารเทศบาลฯจะอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้"
นายสมจิตกล่าวอีกว่า การที่นายมาโนชออกมาอ้างว่าผู้บริหารเทศบาลฯไม่ได้สั่งปิด และการสั่งปิดโรงเรียนอยู่ในดุลยพินิจและอำนาจของ ผอ.นั้น เป็นข้ออ้างที่ตื้นเกินไป อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้ เพราะคนนครศรีธรรมราชทราบกันเป็นอย่างดีว่านายเชาวน์วัศและนายมาโนช เสนพงศ์ เป็นพี่ชายและน้องชายของนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายนายเชาวน์วัศและนายมาโนช นายสมหวัง รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทั้ง 9 โรง ในข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาอื่นๆ ทุกข้อหา รวมทั้งขอให้กระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการสั่งปิดโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทั้ง 9 โรงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้ปกครองอีกนับสิบคน เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทั้ง 9 โรง แต่ทางพ.ต.ท.นิติแจ้งว่าในวันนี้ขอรับแจ้งความและสอบสวนปากคำผู้เสียหายในชุดแรก 6 คนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หลังจากนั้นจะดูในข้อกฎหมายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่านอกจากข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 157 แล้วผู้ถูกกล่าวยังเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายในข้อหาใดอีกบ้างหรือไม่ จากนั้นจึงทำการลงบันทึกประจำวัน โดยคดีนี้เป็นคดีที่ผู้ปกครองแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียวกันในความผิดเดียวกัน จึงน่าจะรวมเป็นคดีเดียวกันทั้งหมด โดยผู้เสียหายหลายคนที่สามารถมาแจ้งความร่วมเป็นผู้เสียเพิ่มเติมในภายหลังได้.
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น