วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

มองบ้านเมืองวันนี้ อย่างเข้าใจ


บทบรรณาธิการ go6TV : มองบ้านเมืองวันนี้ อย่างเข้าใจ


          ผมจงใจรอให้ “ฝุ่นควันมายาทางข่าวสาร” ที่ฟุ้งมาตลอดทั้งวัน มันหยุดลงก่อน เพราะเมื่อเรามองผ่านม่านหมอกควัน เราจะงง และอาจจะมองผิดพลาดได้

            มองตลอดวันนี้ และย้อนไปสามวัน เราจะเห็นกลุ่มม็อบประชาธิปัตย์ เที่ยวยึดโน่นนี่นั้น เฉพาะในกระทรวงในกรุงเทพ ก็ดูยึดไปเป็นสิบ ศาลากลางจังหวัดก็ดูยึดไปร่วมสามสิบแห่ง น่ากลัวจัง ทำไงดี?  แต่หากรอฝุ่นความจางแล้วเราจะเห็นข้อเท็จจริงว่า

  • 1. ในกรุงเทพนั้น มีคนเข้าร่วมม็อบเวลากลางวัน และทำหน้าที่ไป “เที่ยวยึด” จริงๆแค่ประมาณไม่เกิน 5 พันคน และไม่ใช่ “ยึดแล้วปักหลัก” แต่เป็น “ยึดที่แรก แล้วก็ทิ้งไปยึดที่สอง แล้วไปยึดที่สาม” เอาเข้าจริงๆ สิบกว่ากระทรวงที่อ้างว่ายึดนั้น “แค่ไปยืนยึด และก็ถอยออกมา” หากจะใช้คำว่า “ยึด” ควรจะต้อง “เข้าครอบครองได้เบ็ดเสร็จจนไม่สามารถมาทำงานได้” แต่นี่ยึดไปวันเดียว วันรุ่งขึ้นข้าราชการก็กลับเข้าไปทำงานได้ เพราะอะไรหรือครับ เพราะหากเขาจะยึดจริงๆ ต้องใช้คนสักแสนสองแสนคน ถึงจะยึดทุกกระทรวงและปักหลักอยู่ได้เลย แต่เขาไม่มีจริงๆ มีมากสุด ห้าพัน จึงได้เพียงแค่สร้างภาพว่า “ยึด” ให้เป็นข่าวแล้วก็ถอยออกมา
  • 2.ในต่างจังหวัด เขาไม่ได้ “ยึด” เพราะหากยึดจริงๆ ต้องเข้าครอบครองตัวอาคารศาลากลาง แต่นี่เค้าไปอยู่ปักหลักตามสนามหญ้า และก็เรียกให้ข้าราชการออกไปทั้งหมด และที่สำคัญ เขาทำได้เฉพาะจังหวัดทางภาคใต้เท่านั้น เพราะเป็นฐานเสียงเขา ไม่มีจังหวัดอื่นใดในภาคอื่นเล่นด้วย ดังนั้น สรุปจังหวัดที่ “ยึดศาลากลาง” ได้จริงๆคือที่สุราษฏร์ธานีจังหวัดเดียว

              ดังนั้นสรุปนะครับว่า ในกรุงเทพที่บอกไปยึดโน่นนี่นั้น สรุปว่า ณ เวลานี้ ยึดได้แค่ที่ ถนนราชดำเนิน ก.คลัง และศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (ล่าสุดถอยแล้ว เพราะคนไปยึดกลับบ้านกันหมด)

คำถามต่อมาคือ แล้วไงต่อ คงถามทั้งสองฝ่าย?

ณ เวลานี้ แรงเหวี่ยงไหลไปกดดันที่ฝ่ายม็อบประชาธิปัตย์ เพราะเวลาของตนเอง “งวดเข้าไปทุกที” งานนี้ต้องอาศัยลูกอึด ผมมองว่าทำไมเวลาเทพเทือกถึงน้อยลง

เพราะว่า เขาต้องปิดจ็อบทุกอย่างให้ได้ ภายในเดือนพฤศจิกายน หากเข้าเดือนมหามงคล แล้วเค้ายังก่อม็อบ อาจถูกมองแง่ลบได้ แต่ ณ วันนี้ ถามหา “ปัจจัยหลัก” ที่จะทำให้ “เทพเทือก” ปิดจ็อบได้นั้น แทบไม่เหลืออะไรแล้ว


  • วันนี้ ทหารนิ่งในที่ตั้ง ไม่ก่อรัฐประหาร
  • วันนี้ รัฐบาลนิ่ง ไม่สลายการชุมนุม
  • วันนี้ รัฐสภาเดินหน้าทำงานอภิปรายไม่ไว้วางใจ เท่ากับสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ปฏิเสธการเคลื่อนไหวนอกสภา
  • วันนี้ รัฐวิสาหกิจทุกแห่งนิ่ง ไม่บ้าอารยะขัดขืนหยุดงาน
  • วันนี้ เอกชนทุกแห่งนิ่ง เพราะเขาต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้า ต้องการให้โครงการของรัฐบาลเดินหน้า
  • วันนี้ ต่างประเทศทุกแห่ง 6 ประเทศใหญ่ และองค์การสิทธิมนุษยชนโลก ต่างส่งสารและแถลงการณ์ให้กำลังใจรัฐบาล และประณามการใช้ความรุนแรงยึดสถานที่ราชการ-เอกชน และคุกคามสื่อมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์
  • ทุกองคาพยพ ที่จะสั่นสะเทือนอำนาจรัฐนั้น อยู่ในระบอบ กรอบกติกาเคร่งครัด และรัฐบาลก็พูดชัดว่า “ไม่สลายการชุมนุม” จึงทำให้ฝ่ายรัฐบาลกำความชอบธรรมไว้เต็มๆ อาศัยลูกอึด ความชอบธรรม และใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าดำเนินการอย่างชัดเจน โปร่งใส แค่นี้สุเทพก็กระอักแล้ว

มองดูฝ่ายค้าน


            วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ พล่านในสภา เปิดอภิปราย ก็ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้
วันนี้ ม็อบประชาธิปัตย์ แผ่วลงทันทีหลังก่อความวุ่นวายยึดสถานที่ราชการทุกวัน
วันนี้ ม็อบประชาธิปัตย์ ถูกรุมประณามจากทุกประเทศ และองค์การสิทธิมนุษยชนโลก
เงื่อนเวลาลดน้อยลงทุกที แต่ “สุเทพ” ซึ่งอยู่ในสถานะขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้ มีทางเลือกอย่างไร

  • 1. ปลุกระดมมวลชนอีกครั้งในวันสุดสัปดาห์นี้ อีกครั้ง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กลับคืนมา
  • 2. ต้องตอบสังคมจริงๆให้ได้ว่า ตกลงแล้ว “ระบอบทักษิณ” ที่สุเทพต้องการล้มนั้น มันคืออะไรกันแน่ เพราะที่สุเทพไปทำนั้น มันไปล้มระบบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งนั้น ต้องตอบให้ได้ว่าที่ไปไล่ยึดกระทรวงฯ ต่างๆนั้น มัน “ล้มระบอบทักษิณ” ตรงไหน?
  • 3. ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมว่า หากล้ม “ระบอบทักษิณ” ได้จริงๆ (สมมุตินะ) แล้ว จะนำเสนอ “ระบอบอะไร” ที่ดีกว่า ต้องเป็นรูปธรรมชนิดจับต้องได้ เข้าใจได้ ลำพังที่พูดมา 6 ข้อมันล้วนแต่จินตนาการอุดมคติ ที่คนไทย “ไม่เชื่อเลย” ลำพังที่บอกว่า ล้มเสร็จแล้วเราจะมาสร้างดรีมทีมคณะรัฐบาล มันคืออะไร ตลอดวันนี้ทั้งวัน คนไทยไม่เข้าใจประเด็นนี้ มองข้ามไปเห็นแต่บุกไล่ยึดสถานที่ราชการเท่านั้น แถมยึดศูนย์ราชการอีก มันเท่ากับตอกย้ำซ้ำรอย “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ”
        เอาลูกอึดและความชอบธรรมเข้าว่ากัน แค่นี้ ก็พอมองออกแล้วว่า ใครจะชนะ ใครจะพ่ายหมดรูป

          คนไทยคงตัดสินใจได้แล้วว่า ชั่วดีถี่ห่าง ทนอยู่กับ “ระบอบทักษิณ” แล้วได้รถไฟฟ้าความเร็วสูง ได้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้อนาคตประเทศไทย 2020 แม้ฝ่ายต้านอาจจะอึดอัดขัดใจที่จะต้องทนเห็นนายกฯคนสวยไปอีกสมัย ก็น่าจะดีกว่าเลือก “ระบอบสุเทพ” นะ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น