วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"สุดา" โพสต์ FB เผยแพร่บทสัมภาษณ์ประชาไท ยืนยันนักโทษการเมืองเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม


"สุดา" โพสต์ FB เผยแพร่บทสัมภาษณ์ประชาไท ยืนยันนักโทษการเมืองเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม


             2 พฤศจิกายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 0.15 น. ที่ผ่านมา ดร.สุดา รังกุพันธ์ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/sudarang กรณีที่นักโทษการเมืองแสดงความเห็นต่อการนิรโทษกรรม โดยระบุว่า "เมื่อเสาร์ที่แล้ว พวกเขาเขียนจดหมาย ลงชื่อเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมทุกรูปแบบ อันนี้ ก็ดีอย่างหนึ่ง คือ พี่น้องเขายินดีสู้ยาว ดิฉันไม่มีปัญหาเลย สบายใจ เพราะเราไม่รู้สึกแบกคำมั่นสัญญาอะไร จะได้ไม่ต้องเครียด และปล่อยให้เขาอยู่ยาวตามปรารถนา ดิฉันจะได้ทำงานทำการอื่น ...โล่งเลย ขอบคุณประชาไท" พร้อมโพสต์เนื้อหาบทสัมภาษณ์พิเศษ "รายงาน: เสียงนักโทษการเมือง ต่อ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม" โดยทีมข่าวการเมือง เว็บไซท์ประชาไท


รายงาน: เสียงนักโทษการเมือง ต่อ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม" โดย ประชาไท

         ทั้งนี้ เว็บไซท์ประชาไทยืนยันว่าได้สำรวจความคิดเห็นจากนักโทษการเมืองจากเรือนจำหลักสี่ก่อนที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะผ่านวาระ 3 พวกเขาคือผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายนี้ และเป็นหลักการพื้นฐานของการเริ่มผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ก่อนที่จะมีการปรับเนื้อหาให้ครอบคลุมส่วนอื่นๆ อาทิ

นายประสงค์ มณีอินทร์ : "โดยส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหากับร่างที่รัฐบาลผลักดัน และยังเชื่อว่านักโทษในคดีทางการเมืองหลายคนก็คงมีความคิดคล้ายๆ กันคือ หากยอมได้ก็ยอมเสียบ้าง เรื่องจะได้จบๆ ไป “ทุกวันนี้ที่ความขัดแย้งยังคงอยู่เพราะมันไม่มีใครยอมใคร ทุกอย่างถูกดึงให้เป็นประเด็นเกมส์ทางการเมืองเสมอ จนไม่มีใครยอมใคร ปัญหาจึงไม่มีวันที่จะถูกแก้ไขได้ หาก พ.ร.บ. ตัวนี้ออกมาก็เหมือนเป็นการมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ บนพื้นฐานที่เท่ากัน ก็อาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้"

เอนก สิงขุนทด : ผมว่าสุ"ดซอยไปเลยแล้วมานับหนึ่งใหม่ ส่วนกระบวนการยุติธรรมเป็นปัญหาจริงๆ เราก็ต้องมาหาทางปฏิรูป เมื่อเรานิรโทษกรรมแล้ว เราก็ต้องแก้ มาตรา 309 เพื่อไม่ให้มีการัฐประหารอีก มันเป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด แก้ตรงนั้นเพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าประชาชนอีก"

เพชร แสงมณี : "ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้า เราอาจต้องลืมอดีต ทำใจยอมรับให้ได้แล้วเริ่มกันใหม่” “สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือ การโดยคุมขังโดยไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ผมไม่ได้สนใจการเมือง เป็นคนหาเช้ากินค่ำ สังคมไทยไม่มีความเป็นธรรมให้ผมเลย แต่อย่างว่า แม้แต่คนชาติเดียวกันเขายังทำรุนแรงกันขนาดนั้น นับประสาอะไรกับคนต่างชาติ ก็ต้องปิดตารับชะตากรรมของตัวเองไป"

วรนุช หรืออัจฉรา ศรีวันทา : “ถ้าไม่ให้อภัยกัน มันก็ไม่จบ..บ้านเมืองมันก็ก้าวไปข้างหน้าต่อไปไม่ได้ มันต้องอะลุ่มอะหล่วยกัน ลูกหลานข้างหน้าจะได้สบายขึ้น ถ้าเรายังจมอยู่กับความขัดแย้งมันก็ไปไหนไม่ได้”

พนม กันนอก : "ถ้านิรโทษแบบสุดซอยแล้วทำให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ ทำให้พี่น้องออกจากคุกได้ ผมก็ยอมรับได้ เพราะว่ายังไงเราก็เอาอภิสิทธิ์ สุเทพมาลงโทษไม่ได้ ถามว่าผมโกรธมั้ย ช้ำใจมั้ย ผมช้ำใจ เราได้รับผลกระทบมานาน ทั้งที่ไม่ได้ทำผิด เรารอการนิรโทษมานาน คนที่อยู่ข้างในเรือนจำก็รอมานาน ถ้าคนอยู่ข้างในได้ประกันตัวออกมาเหมือนเรา เราก็พร้อมจะสู้ในกระบวนการยุติธรรมปกติ และต้องให้อภิสิทธิ์ สุเทพ รวมทั้งอีกฝ่ายหนึ่งเข้าสู่กระบวนการเหมือนกัน แม้สุดท้ายศาลฎีกาจะพิพากษาจำคุกพวกเราก็ยอมรับได้ แต่อีกฝ่ายก็ต้องรับโทษเหมือนกัน"

ขอบคุณภาพถ่ายจาก C-On / วีอาร์ ประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น