วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ (อีกครั้ง) 10 ธ.ค.ที่อยุธยา ดูท่าที ‘สุเทพ’ 6 ธ.ค.นี้

เสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ (อีกครั้ง) 10 ธ.ค.ที่อยุธยา ดูท่าที ‘สุเทพ’ 6 ธ.ค.นี้
              ‘เหวง’ เผยเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่เพื่อปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ลั่นไม่ยอมให้ ‘สุเทพ’ โค่นแล้วนำนายกฯ มาตรา 7 มาใช้แทน ขู่กลับห้ามบุกยึดสนามบินเด็ดขาด ด้านเพื่อไทยไม่เชื่อจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ใน 6 ธ.ค.แค่สร้างราคา 'ปชป.'เย้ยรัฐ ซื้อเวลาต่ออำนาจ

 
<--break->
 
เสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ (อีกครั้ง) 10 ธ.ค.ที่อยุธยา
 
           5 ธ.ค.2556 มติชนออนไลน์รายงาน นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนํา นปช.กล่าวว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. อ้างเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 เพื่อขอนายกฯ พระราชทานตามมาตรา 7 เป็นการอ้างแบบวิปริต เพราะไม่สามารถนำเหตุการณ์ในครั้งนั้นที่เป็นรัฐบาลเผด็จการทำรัฐประหารตัวเองมาเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้
 
          เหวงกล่าวต่อว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นจะขอรอดูท่าทีของนายสุเทพที่ประกาศจะเผด็จศึกรัฐบาลในวันที่ 6 ธ.ค.ก่อน จึงจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะปกป้องรัฐบาลถึงที่สุด ซึ่งในวันที่ 10 ธ.ค.คนเสื้อแดงจะจัดชุมนุมใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อประกาศปกป้องรัฐสภาและรัฐบาลชุดนี้ คาดว่าจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมหลายหมื่นคน
 
          "เราไม่อยากชุมนุมในกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวายให้เกิดการเผชิญหน้ากันอีก ที่ผ่านมาวิธีการของนายสุเทพเดินตามรอยนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทุกอย่าง แต่ขณะนี้นายสุเทพจนแต้มแล้ว จึงขอเตือนว่าในวันที่ 6 ธ.ค.ที่บอกว่าจะเผด็จศึกรัฐบาลนั้น อย่าไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิเด็ดขาด” เหวงกล่าว
 
 
เพื่อไทยไม่เชื่อจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ใน 6 ธ.ค.แค่สร้างราคา
 
          5 ธ.ค.2556 ไทยรัฐออนไลน์รายงาน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ทางพรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุม ส.ส.พรรคเป็นกรณีพิเศษ เพื่อหารือสถานการณ์การเมือง กรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปลุกระดมมวลชนเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งข้อเสนอจัดตั้งสภาประชาชน และนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

 
          การอ้างเรื่อง นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกฯ พระราชทาน ช่วงเหตุการณ์ 14 ต.ค.16 นั้น ธรรมนูญการปกครองขณะนั้นไม่ได้ระบุว่า นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 50 ที่กำหนดให้นายกฯ มาจาก ส.ส.เท่านั้น อย่าทำตัวเป็นศรีธนญชัยทางการเมือง หากจะให้มีนายกฯ มาตรา 7 พรรคประชาธิปัตย์ต้องเสนอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291
 
            ส่วนที่นายสุเทพประกาศเผด็จศึกรัฐบาล ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เป็นแค่การดึงมวลชนเพื่อประโยชน์ทางการเมือง สร้างราคาให้ตัวเอง ไม่เชื่อว่านายสุเทพจะล้มรัฐบาลได้ ก่อนหน้านี้ ก็ประกาศล้มรัฐบาล ภายในวันที่ 30 พ.ย. และประกาศยกระดับการชุมนุมหลายครั้ง ขอเรียกร้องผู้ชุมนุมอย่าตกเป็นเหยื่อ สุดท้ายนายสุเทพต้องตกม้าตาย
 
 
'ปชป.'เย้ยรัฐ ซื้อเวลาต่ออำนาจ
 
          ในวันเดียวกัน (5 ธ.ค.2556) ไทยรัฐออนไลน์รายงานด้วยว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงการที่ นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อเขียนบทเฉพาะกาล ว่าในช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมือง ขอให้มีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากคนนอก ว่า ขณะนี้การเสนอแนวทางต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย เป็นเพียงการซื้อเวลาให้รัฐบาล เพราะถ้ามีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องต่างๆ ก็คงไม่บานปลายจนถึงขนาดนี้ รวมทั้งเป็นการยื้อเวลาเพื่อรักษาอำนาจให้รัฐบาลเท่านั้น
 
         ทั้งนี้ สิ่งแรกที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเห็นนายกฯ จะรับผิดชอบอะไร
 
         อย่างไรก็ตาม วันนี้ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ต้องเสนอแนวทางอะไร เพียงแต่ให้แสดงความรับผิดชอบเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า นายกฯ จะไม่ตระบัดสัตย์กับประชาชนอีกแล้ว        
 
 
ผอ.ศูนย์สันติวิธีฯ ม.มหิดล พร้อมเป็นคนกลางหาทางออกชาติ

      
            5 ธ.ค.2556 ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงาน นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะเสนอชื่อตนเป็นตัวกลางในการดำเนินการเปิดเวทีทางวิชาการ เพื่อพูดคุยทุกภาคส่วนในการหาทางออกให้กับประเทศ
 
           ส่วนตัวหากสามารถช่วยอะไรที่จะทำให้ความขัดแย้งคลี่คลายได้โดยแนวทางสันติวิธีก็พร้อมที่จะช่วย แต่ขณะนี้เห็นว่ายังไม่ได้เริ่ม ซึ่งการจัดเวทีต้องเป็นเวทีที่เปิดกว้าง รับทุกความคิดเห็นเข้ามา เป็นเวทีที่ใครคับข้องใจสามารถมาพูดกันได้ เพื่อให้สังคมได้รับรู้  ซึ่งปัญหาทางการเมืองขณะนี้ต้องใช้เวลาในการเยียวยา พูดคุยหลายรอบ หลายเวที และหลายฝ่าย  เพื่อให้เสียงดังจนสังคมสนใจ หากเสียงสอดคล้องกันก็จะเดินหน้าได้ แต่หากยังอึมครึมก็ยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น