"ผบ.ทบ." เตรียมแจ้งข้อหากบฎ "แดงเชียงใหม่ 51-พะเยา" ฐานตั้ง สปป.ล้านนา
"ผบ.ทบ." สั่ง มทภ.3 แจ้งข้อหากบฎ "แดงรักเชียงใหม่ 51-แดงพะเยา" ฐานประกาศตั้ง สปป.ล้านนา ชี้โทษถึงขั้นประหารชีวิต พร้อมจับตาความเคลื่อนไหวทุกจังหวัด
2 มี.ค. 2557 เว็บไซต์เดลินิวส์ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนา (สปป.ล้านนา) ว่า ที่ผ่านมาทางกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ตรวจสอบตลอดเวลา และเมื่อเห็นว่าข่าวมีความชัดเจนมากขึ้นจึงได้สั่งการให้มณฑลทหารบกจังหวัดเชียงใหม่และมณฑลทหารบกจังหวัดพะเยาไปดำเนินการแจ้งความตามกฎหมาย ในลักษณะฐานกระทำความผิด ตามประมวลกฏหมายอาญา 113 ที่ระบุว่า ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้หรือแบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฎ ต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
และมาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฎหรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎ หรือรู้ว่าผู้ใดจะเป็นกบฎและกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี โดยทางมณฑลทหารบกได้เข้าดำเนินคดีกับกลุ่ม สปป.ล้านนา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 มี.ค. คือ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จ.เชียงใหม่ กับ กลุ่มเสื้อแดง จ.พะเยา ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่ามีการดำเนินการที่สุ่มเสี่ยงกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศ กรณีการแบ่งแยกดินแดน ในส่วนจ.พิษณุโลก ที่มีการติดป้ายแบ่งแยกดินแดนนั้น ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการปลดป้ายออก พร้อมทั้งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
พล.ท.ปรีชา กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ใช้อำนาจผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกองทัพภาคที่ 3 เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัดเข้าประชุม เพื่อขอความร่วมมือในการช่วยสอดส่องดูแล และตรวจสอบการดำเนินการใดๆ อันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัดเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามทางกองทัพไม่สามารถสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดได้ เพราะไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง เพียงแต่ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด และทางกองทัพภาคที่ 3 ได้จับตาดูพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของกลุ่ม สปป. ล้านนา และกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 อย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้านี้ให้กับผู้บัญชาการทหารบกรับทราบ ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 3 มี.ค.นี้
“ขอยืนยันว่าทหารทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และไม่เคยเลือกข้าง ในพื้นที่ภาคที่ 3 มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อาจสร้างความเข้าใจผิดกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม สปป. ล้านนา ที่มีการตั้งชื่อคล้ายกับการจัดตั้งรัฐใหม่ ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา และรัฐธรรมนูญ โดย ผบ.ทบ. มีความเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว และกำชับให้กองทัพภาคที่ 3 ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอดส่องดูแลและดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศทุกจังหวัด” มทภ.3 กล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น