คนร่วมฟังคดีกว่า 50 รวมเจ้าหน้าที่ยูเอ็นและอียู จนต้องนั่งพื้นห้องพิจารณาคดี 2 จำเลยรับสารภาพ ศาลสั่งสืบเสาะพฤติการณ์ประกอบการพิจารณา ก่อนจะนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 23 ก.พ.2558 เวลา 13.30 น.
29 ธ.ค.2557 ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน สอบคำให้การจำเลย ในคดีที่ภรณ์ทิพย์ และปติวัฒน์ ตกเป็นจำเลยในคดี 112 จากกรณีละครเจ้าสาวหมาป่า วันนี้มีผู้ให้ความสนใจเข้าฟังคดีกว่า 50 คนจนต้องนั่งกับพื้นห้องพิจารณาคดี ในจำนวนนี้มีตัวแทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) สหภาพยุโรป และแอมนาสตี้ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลสั่งสืบเสาะพฤติการณ์ประกอบการพิจารณา ก่อนจะนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 23 ก.พ.2558 เวลา 13.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจำเลยทั้งสองได้พบญาติพี่น้องและพากันร้องไห้
ด้านภาวิณี ชุมศรี ทนายจำเลยกล่าวว่า จำเลยได้ยื่นคำร้องประกอบคำรับสารภาพ ระบุขอให้ศาลพิจารณาลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน อายุยังน้อย และอยู่ระหว่างศึกษา การลงโทษด้วยการจำคุกนอกจากจะสร้างความเสียหายแล้วยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ จำเลยจึงขอให้ศาลให้โอกาสในการปรับตัวอยู่ในสภาพแวดล้อมของสถาบันการศึกษาอีกครั้ง
คดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.3528/2557 คำฟ้องระบุว่าในวันที่ 13 ต.ค.2556 จำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังหลบหนีได้ร่วมกันแสดงละครเจ้าสาวหมาป่า ซึ่งมีบทละครอันเป็นมีข้อความอันเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท โดยในคำฟ้องได้หยิบยกข้อความมาทั้งสิ้น 9 ข้อความที่ระบุว่าเข้าข่ายความผิด และระบุด้วยว่าในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ หากจำเลยการยื่นคำร้องขอประกันตัวขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล
ปติวัฒน์ถูกจับเมื่อวันที่ 14 ส.ค.2557 ขณะที่ภรณ์ทิพย์ถูกจับเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2557 ทั้งคู่ถูกฝากขังยังเรือนจำตั้งแต่วันจับกุมจนปัจจุบัน ทนายความยื่นประกันตัวและคัดค้านการฝากขังหลายครั้งแต่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ปติวัฒน์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขณะที่ภรณ์ทิพย์อายุ 26 ปี จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตามมาตรา 112 จากกรณีมีส่วนร่วมในละครเวทีเรื่องเจ้าสาวหมาป่า ที่จัดแสดงในงานรำลึก 14 ตุลาเมื่อปีที่แล้ว ต่อมาวันที่ 30 ต.ค.2556เครือข่ายเฝ้าระวัง พิทักษ์และปกป้องสถาบัน มีการจัดประชุมสมาชิกเครือข่าย โดยมีผู้เข้าร่วมราว 200-300 คน ได้ประชุมร่วมกันเพื่อแจกจ่ายคลิปดังกล่าวและนัดแนะให้เครือข่ายฯ เข้าแจ้งความตามมาตรา 112 ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่อยู่อาศัย ต่อมาวันที่ 2 พ.ย. 2556 เพจเครือข่ายเฝ้าระวัง พิทักษ์และปกป้องสถาบัน ได้สรุปกิจกรรมที่สมาชิกเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแสดงดังกล่าวที่สถานีตำรวจรวม 13 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า คดีนี้ถูกจับตาและติดตามจาก คสช. โดยก่อนหน้านี้มีการเรียกบุคคลเข้ารายงานตัวเพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวหลายคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น