คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเซีย หรือ AHRC ได้ออกแถลงการณ์สู่สาธารณะในวันครบรอบ 2 ปีที่สมยศ พฤกษาเกษมสุข ถูกพิพากษาให้จำคุกจากการเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin เป็นเวลา 10 ปีและคดีก่อนหน้าอีก 1 ปี โดยแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายสมยศและนักโทษทางความคิดทั้งหมดโดยทันที ในระหว่างนี้ AHRC จะติดตามคดีที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะสนับสนุนเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในประเทศไทยต่อไป
แถลงการณ์ระบุว่าสมยศ ถูกจองจำมาเป็นเวลา 1370 วันนับตั้งแต่วันที่ถูกจับกุม 30 เมษายน 2554 เขาถูกขังก่อนที่จะมีการพิจารณาคดีถึง 6 เดือน จากนั้นวันที่ 12 พ.ย.2554 จึงเริ่มมีการพิจารณาคดีจนถึง 3 พ.ค.2555 คำตัดสินของศาลชั้นต้นอ่านเมื่อ 23 ม.ค.2556 และศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเมื่อ 19 ก.ย.2557
ขณะนี้สมยศอยู่ในระหว่างการต่อสู้คดีและได้ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวโดยศาลปฎิเสธคำขอประกันทั้งสิ้น 16 ครั้ง
แถลงการณ์ระบุว่า สมยศเป็นนักกิจกรรมด้านแรงงานมานาน และเริ่มมาจับประเด็นเสรีภาพในการแสดงออก คดีของสมยศมาจากการถูกกล่าวหาว่าปล่อยให้มีบทความ 2 ชิ้นตีพิมพ์ในนิตยสารที่เขาเป็น บก. โดยอัยการชี้ว่างานที่ตีพิมพ์นั้นมีเนื้อหาน่าจะเข้าข่าย 112 และศาลตีความบทความทั้งสองว่าแม้บทความไม่ได้ระบุชื่อบุคคลในเนื้อหาแต่ถูกเขียนโดยตั้งใจให้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในอดีต เมื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์แล้วเป็นไปได้ว่าจะหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื้อหาเป็นการดูถูก ดูหมิ่นแ ละอาฆาตมาดร้าย การเผยแพร่ แจกจ่าย จำหน่ายบทความนี้จึงเป็นความตั้งใจละเมิดมาตรา 112 การตัดสินนี้แปลความได้ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องในกระบวนการบรรณาธิกรณ์ ตีพิมพ์และจำหน่าย ก็ถูกตัดสินว่ามีเจตนาที่จะดูหมิ่น ดูถูก อาฆาตมาดร้ายกษัตริย์ได้ กฎหมายมาตรานี้จะอยู่ในประมวลกฎหมายอาญาตั้งแต่ปี 2500 จำนวนคดีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 และทวีคูณขึ้นเมื่อเกิดการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557
“สิ่งที่ทำให้คำตัดสินนี้สำคัญเพราะทำให้เห็นว่ามาตรา 112 ถูกบังคับใช้และตีความอย่างค่อนข้างเป็นการเมืองและไม่เป็นธรรม นักเขียนและผู้พิมพ์จะไม่รู้ว่า เขาได้ข้ามเส้นที่มองไม่เห็นแล้วหรือไม่จนกว่าตำรวจจะมาเคาะประตูบ้านและนำตัวไป คำตัดสินได้สร้างบรรยากาศแห่งความกลัว และสร้างข้อจำกัดต่อการแสดงออกอย่างเสรีและการไหลเวียนของความคิด อีกทั้งยังจำกัดการเผยแพร่ความคิดโดยเฉพาะของผู้ที่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์หรือเห็นต่าง” แถลงการณ์ระบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น