ศาลพิพากษาจำคุกคดี ม.112 ‘พ่อ-แม่’ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ 5 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง ไม่รอการลงโทษ ฐานแอบอ้างและกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ติดคุกเมื่อปี 46
หลังจากวานนี้ (10 มี.ค.58) พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางวันทนีย์ สุวะดี อายุ 66 ปี และนายอภิรุจ สุวะดี อายุ 72 ปี มารดา และบิดาของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกัน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (อ่านรายละเอียด)
ล่าสุด วันนี้ (11 มี.ค.58) ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายอภิรุจ จำเลยที่ 2 มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเบิกตัวนางวันทนีย์ จำเลยที่ 1 มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบคำให้การ ต่อมาศาลได้อธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองเป็นที่เข้าใจและสอบถามจำเลยว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ โดยจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพและไม่ต้องการทนายความ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง ลงโทษฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ
ทั้งนี้ ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวจำเลยทั้งสองขึ้นรถตู้ของเรือนจำกลับไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลางทันที
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2546 น.ส.แสงระวี (สงวนนามสกุล) ได้แอบอ้างว่ารู้จักกับจำเลยที่ 2 ต่อมาชาวบ้านในเขตตำบลและอำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี ต่างพากันลือทำนองว่า น.ส.แสงระวีมีลักษณะความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ 2 ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูกัน และเมื่อจำเลยที่ 1 ทราบข่าวจึงเกิดความไม่พอใจ น.ส.แสงระวี โดยเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2546 จำเลยทั้งสองได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำเอาตัว น.ส.แสงระวี รวมทั้งบิดา มารดา และญาติมาพบกับจำเลยทั้งสองที่บ้านพักในจังหวัดราชบุรี แล้วจำเลยทั้งสองก็ได้ร่วมกันหมิ่นประมาทและดูหมิ่นต่อเบื้องสูง จนทำให้ น.ส.แสงระวี และครอบครัวเกิดความเกรงกลัว จากนั้นจำเลยทั้งสองได้ให้เจ้าพนักงานตำรวจนำตัว น.ส.แสงระวีไปดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ด้วยความเกรงกลัว น.ส.แสงระวี จึงจำยอมให้การรับสารภาพ ไม่กล้าโต้แย้ง และถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 24 เดือน การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการแสวงหาประโยชน์เพื่อข่มขู่และกลั่นแกล้งผู้อื่นและเสื่อมเสียพระเกียรติยศต่อองค์รัชทายาท ต่อมาวันที่ 9 ก.พ. 2548 เจ้าพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาภายหลังจำเลยทั้งสองเข้ามอบตัวในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การปฎิเสธ เหตุเกิดที่ตำบลและอำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น