วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ประยุทธ์ ใช้ม.44 เปลี่ยนใจ เลิกตั้ง นัฑ ผาสุข เป็นเลขาฯ สภาผู้แทนฯ


ประยุทธ์ ใช้ม.44 เปลี่ยนใจ เลิกตั้ง นัฑ ผาสุข เป็นเลขาฯ สภาผู้แทนฯ แล้ว หลังข้าราชการสภาฯ นัดแต่งดำประท้วง ด้านพรเพชร รับเสนอชื่อ ‘นัฑ’ หวั่นกระเพื่อมขอหัวหน้า คสช. ยกเลิก ยัน ‘จเร’ ทำสภาใหม่ช้า
19 ต.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) ที่ 38/2558 ลงนามโดย พล.อ.ปะยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 37/2558 มีเนื้อหาว่า
เพื่อให้การดำเนินงานขององค์กรฝ่ายนิติบัญญัติและการบริหารราชการในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)  2557 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกข้อ 3 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 37/2558 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2558 โดยให้ถือว่า นายนัฑ ผาสุข มิเคยพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และมิเคยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาก่อน ทั้งนี้ ไม่เป็นการกระทบต่อการใดๆ ที่นายนัฑ ผาสุข ได้กระทำลงไปในฐานะเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ
ข้อ 2 ตามที่คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภาได้มีมติเห็นชอบให้นายนัฑ ผาสุข ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แล้วนั้น ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไปให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ข้อ 3 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้าราชการสภาฯ นัดแต่งดำประท้วง หลังเด้งฟ้าผ่า ‘จเร’
โดยเมื่อวันที 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ย้าย นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ นายนัฑ มาเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จนทำให้เกิดปฏิกิริยาจากข้าราชการ ฝั่งสำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎรบางส่วน
โดยได้เริ่มส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ไปในหมู่ข้าราชการด้วยกัน ให้แต่งกายชุดดำมาทำงานในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค. นี้ เนื่องจากไม่พอใจที่มีการแต่งตั้งคนจากทางฝั่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มาเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แทนที่จะให้ลูกหม้อของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขึ้นมาดำรงตำแหน่ง
พรเพชร รับเสนอชื่อ ‘นัฑ’ หวั่นกระเพื่อมขอ บิ๊กตู่ ใช้ม.44 ยกเลิก ยันจเร ทำสภาใหม่ช้า
19 ต.ค. 2558 มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.แก้ไขคำสั่งวานนี้ดังกล่าวว่า ตนมองว่าการที่ให้นายจเร พ้นจากตำแหน่งนั้น เป็นเพราะดำเนินการล่าช้าในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ก่อสร้างได้เพียงร้อยละ15-16 เท่านั้น ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ก็จะครบกำหนดในการก่อสร้าง รวมถึงยังมีเรื่องการร้องเรียนการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง คสช. จึงมีความกังวลและได้ปรับเปลี่ยนการทำงานให้นายจเร ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีแทน
ทั้งนี้ นายพรเพชร ยอมรับว่า ตนได้เป็นคนเสนอชื่อ นายนัฑ ให้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนไม่ได้มองว่าจะเป็นการขัดหรือข้ามการทำงานระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพราะตนคิดว่าสองสภานี้ก็ต้องทำงานร่วมกัน อีกทั้งตนเห็นว่า เรื่องปัญหาการก่อสร้างรัฐสภาหรือการแก้ปัญหาการทุจริต ต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไข ตนยืนยันว่าไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังใดๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการพูดถึงกรณีนี้กันมาก ทางนายกรัฐมนตรีก็มีความเป็นห่วง ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองขึ้น จึงได้มีคำสั่งหัวหน้าคสช.ยกเลิกการแต่งตั้ง นายนัฑ ผาสุข นั่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับการแต่งตั้งตำแหน่งเลขาสภาผู้แทนราษฎร นายพรเพชร กล่าวว่า ต้องใช้เวลาในการพิจารณา โดยขณะนี้ก็จะใช้รักษาการแทนไปก่อน คือ นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่มีอาวุโสสูงสุด และได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งถ้ารับได้ในการทำงานก็จะดำเนินการนำเรื่องโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป อีกทั้งกล่าวว่า จะต้องหาคนที่จะมาแก้ปัญหาการดำเนินการล่าช้าในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ให้ได้
นอกจากนี้นายพรเพชร กล่าวถึง ประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. เพื่อลงมติเลือกกรรมการ ป.ป.ช. ให้เหลือ 5 คน (จากผู้สมัครจำนวน 59 คน) ว่า ตนประเมินตาม3ข้อ ซื่อสัตย์ ไม่มีตำหนิ ไม่เคยถูกฟ้องร้องหรือสอบสวนวินัย มีประวัติการทำงานดีเด่น ประประโยชน์แกประเทศชาติ มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ และเป็นที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบอาชีพใดๆไม่ได้ วันนี้เป็นการพิจารณาแต่จะยังไม่ได้ผลเลย เพราะขาดประธานศาลปกครองสูงสุดเข้าร่วมประชุม เกรงว่าคะแนนเสียงในการแต่งตั้งจะเท่ากันแล้วเกิดปัญหาขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น