วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

จับหนุ่มโรงงานวัย 27 แชร์ข้อความการทุจริตอุทยานราชภักดิ์


จับหนุ่มคนงานลูกจ้างรายวันย่านบางปูเข้า มทบ.11 โทษฐานแชร์ผังทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ยังไม่ให้ญาติเยี่ยมเหตุผลอยู่ระหว่างสอบสวน เกรงจะเสียรูปคดี  มารดาวอนขอพบและขอให้ปล่อยตัวลูกชายเสาหลักของครอบครัว เกรงว่าจะตกงานเนื่องจากขาดงานเกินกำหนด ทนายกำลังเดินทางไปติดต่อขอเข้าเยี่ยม
กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.  กล่าวว่าได้มีการจับคนโพสต์แผนผังเครือข่ายการทุจริตในโครงการก้่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ หลังมีผู้เผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล แล้ว 1 คน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งขณะนี้ทหารกำลังสอบสวนอยู่ 
กรุงเทพธุรกิจ ได้รายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุม นายฐนกร ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปีเมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 8 ธันวาคม 2558  ฐนกรพนักงานบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แห่งหนึ่งภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู มาซักถามหลังจากตรวจสอบพบว่านายฐนกร เป็นผู้ส่งข้อความแผนภาพไปยังเฟชบุ๊กเพจหนึ่งซึ่งเป็นเพจที่สนทนาเกี่ยวกับเรื่องการเมืองและต่อต้านรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ทหารนำตัวนายฐนกร ซักถามขยายผลเพิ่มเติมในค่ายทหารแห่งหนึ่ง
ในขณะที่ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่แผนผังเชื่อมโยงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบหาผู้ที่เผยแพร่ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เผยแพร่เอกสารดังกล่าวได้แล้วนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานข้อเท็จจริงนั้น

'ประชาไท' ได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไปที่ นางปรารถนา ศิริไพบูลย์ มารดาของนายฐนกร นางปรารถนากล่าวว่า ไม่ได้อยู่กับนายฐนกร ระหว่างเกิดเหตุ เนื่องจากทำงานอยู่คนละโรงงานกัน นางปรารถนา แสดงความรู้สึกเป็นห่วงนายธนกรผู้เป็นบุตรชาย โดยเมื่อทราบข่าวทางโทรศัพท์จากชายไม่ทราบชื่อได้แจ้งมาว่าบุตรชายโดนจับมาคุมขังไว้ที่ เรือนจำพิเศษ มทบ.11 นางปรารถนาและสามีก็ได้ตามมาเพื่อขอเยี่ยมนายฐนกร แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่หน้าประตูเรือนจำให้เข้าเยี่ยม โดยให้เหตุผลว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนนายฐนกรจึงเกรงว่าจะเสียรูปคดี

นางปรารถนา หญิงคนงานวัย 53 มารดาของผู้ต้องขังเล่าให้ฟังว่า นายฐนกร จบการศึกษาชั้นมัธยม 3 ประกอบอาชีพเป็นเพียงลูกจ้างรับค่าแรงรายวันในโรงงานแห่งหนึ่ง ปัจจุบันมีรายได้วันละสามร้อยกว่าบาท นายฐนกรไม่เคยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มไหน ไม่เคยหยุดงาน เลิกงานก็อยู่กับบ้าน  แต่เป็นคนที่สนใจสถานการณ์การเมือง 
มารดาของผู้ต้องขังเล่าว่า ปัจจุบัน ตนและนายฐนกรเป็นคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเนื่องจากบิดาของฐนกรวัย 58 ปี มีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถทำงานประกอบอาชีพได้ ขณะที่น้องสาวของนายฐนกรยังเรียนอยู่ชั้น ปวช. 1 จึงเป็นภาระให้นางปรารถนาผู้เป็นมารดาและนายฐนกรผู้เป็นพี่ชายต้องหักรายได้จากการทำงานมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ 
นางปรารถนาเป็นห่วงสวัสดิภาพของบุตรชายจากการถูกซ้อมทรมาน และนอกจากนั้นหากเจ้าหน้าที่กักตัวนายฐนกรนานเกินกว่าสามวัน นายฐนกรจะต้องออกจากงาน เนื่องจากถือว่าทำผิดกฎของโรงงาน

ล่าสุดมีรายงานว่า ทนายภาวิณี ชุมศรี จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินทางไปเพื่อขอเข้าพบกับผู้ต้องขัง และหากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ทนายความเข้าพบตามสิทธิของผู้ต้องหา ทนายความก็อาจจะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเห็นว่าเป็นการคุมขังที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.วิ อาญามาตรา 90 ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ 
ประวิตรเผยทำเป็นขบวนการ มีคนหนุนหลัง ต้องจับเพิ่ม
วันเดียวกัน(9 ธ.ค.58) เดลินิวส์ รายงานจากกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.)ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงการจับกุมคนที่ทำแผนผังทุจริตโครงการราชภักดิ์ ว่า คนที่จับได้มีการซัดทอด ตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังสอบอยู่ เพราะเกี่ยวข้องหลายคน และจะต้องจับเพิ่มอีก เนื่องจากมีขบวนการ เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการคิดคนเดียว ส่วนจะเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ ตนไม่อยากบอกเดี๋ยวมันจะหนี แต่จะจับทั้งหมดให้ได้ ทำแบบนี้เสียหาย เพราะมันเป็นเรื่องไม่จริง หนังสือพิมพ์ก็นำมาเล่นข่าว คนที่อยู่ต่างจังหวัดก็งงกันไปหมด ขอให้หยุดพาดพิงสักที เรื่องนี้สร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นมาก เป็นคนไทยด้วยกัน ทำ ทำไม รัฐบาลทำเพื่อประเทศชาติ ดังนั้นสื่อต้องช่วยกันด้วย ไปเขียนเรื่องครอบครัวนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ตนไม่เข้าใจ ไม่รู้เอาส่วนไหนคิด
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าคนที่กล้าทำแบบนี้ต้องมีคนหนุนหลัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีคนหนุนหลังแน่ และมีขบวนการอยู่ รอให้ตำรวจสอบสวนจะดำเนินการเอาผิดทั้งหมด ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่าการที่รัฐบาลห้ามแกนนำ นปช. และกลุ่มนักศึกษาไปอุทยานราชภักดิ์ ถือเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ขอตอบ ไม่ให้ความสำคัญ คนเขาจะมาทำงาน แต่นี่มาเล่นการเมือง ตนบอกแล้วว่ามันคนละเรื่อง อย่าไปเล่นการเมือง ดังนั้นขอเวลาตรวจสอบ ส่วนกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว ตนไม่ทราบ ที่ผ่านมานายกฯก็ตอบคำถามสื่อมวลชนหลายครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น