วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทหารโผล่สมัคร 'เลขาธิการ กกต.' ปัดนายหรือคสช. ส่งมา


เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา สำนักข่าวไทย รายงานว่าจากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดรับสมัครเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระหว่างวันที่ 8 ก.พ. – 7 มี.ค. นี้ แทนนายภุชงค์ นุตราวงศ์ ที่ถูกเลิกจ้าง ในวันนี้ (29 ก.พ.) ก่อนปิดทำการในเวลา 16.30 น. ได้มีบุคคลเดินทางมายื่นสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต.เป็นคนที่สอง คือ พล.อ.เดชา ปุญญบาล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยการเดินทางมายื่นใบสมัครของ พล.อ.เดชา มีทีมงานของ กกต.มาช่วยดูแลและให้กำลังใจ
พล.อ.เดชา กล่าวถึงเหตุผลการยื่นสมัคร ว่า เนื่องจากการทำงานของตนในช่วงที่ผ่านมาจะอยู่ในต่างจังหวัดตามแนวชายแดน ต้องพบปะกับผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งคนเหล่านี้จะขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรของชาติ และกลายมาเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ทำให้คิดว่าจะทำอย่างไรจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ รวมทั้งเคยทำงานถวายพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีในโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่มีรายได้น้อยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อการเข้าควบคุมอำนาจโดย คสช. ก็ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการเรื่องการรับฟังความคิดเห็นประชาชน กลุ่มการเมืองต่าง ๆ จนนำมาสู่การมีข้อเสนอในการปฏิรูปประเทศ
“จากการทำงานเหล่านี้ทำให้คิดว่ากลไกการเลือกตั้ง ถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่ง เพราะถ้าเรามีระบบเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีความเป็นธรรม ก็จะคัดกรองให้ได้คนดี ซื่อสัตย์สุจริต เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศและทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ และขอปฏิเสธว่าการยื่นสมัคร ไม่ใช่เป็นเพราะนาย หรือ คสช. ส่งมาให้มายื่นใบสมัคร ผมมีความรักในงานที่ทำ และเห็นว่าหน้าที่การเป็นเลขาธิการ กกต.จะสามารถสานต่ออุดมการณ์ที่มีได้ อีกทั้งเป็นนักศึกษาเข้าอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงของสำนักงาน กกต. ทำให้รู้สึกอินกับงานการเลือกตั้งด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเห็นว่ามีคุณสมบัติเพียงพอและพร้อมที่จะให้โอกาสในการเข้ามาทำงานหรือไม่” พล.อ.เดชา กล่าว
สำหรับ พล.อ.เดชา เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปเพื่อคืนความสุขให้คนในชาติของ คสช. และเป็นอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการแรงงานสภาปฏิรูปแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม นับแต่เปิดรับสมัครเลขาธิการ กกต. จนถึงวันนี้ (29 ก.พ.) มีผู้สมัครแล้ว 2 คน คือ นายประวิง คชาชีวะ อดีตรองเลขาธิการ กกต. และ พล.อ.เดชา
ภุชงค์ ฟ้องศาลปกครอง กกต.เลิกจ้างไม่เป็นธรรม
วันเดียวกัน (29 ก.พ.59) สำนักข่าวไทย ยังรายงานด้วยว่า ที่ศาลปกครอง  เวลา 9.00 น. นายภุชงค์ อดีตเลขาธิการ กกต. พร้อมด้วยบุตรชาย เดินทางเข้ายื่นคำฟ้อง กกต.ต่อศาลปกครอง จากกรณีคณะกรรมการ กกต. มีมติเลิกจ้าง  และให้มีผลการเลิกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
นายภุชงค์ กล่าวว่า  มติดังกล่าวของคณะกรรมการ กกต. มีความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีมติเลิกจ้างและให้มีผลในวันเดียวกันเลย  ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม  จึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง  เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนมติ กกต.ดังกล่าว   และจ่ายเงินเยียวยาในส่วนของเงินประจำตำแหน่ง และเงินเดือนในช่วงเวลาที่เหลือตามสัญญาจ้าง
 
“ยืนยันว่าไม่ต้องการที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต.อีก แต่ต้องการให้มีการตรวจสอบ และพิสูจน์ที่ศาลว่า มติดังกล่าวมีความชอบธรรมหรือไม่” นายภุชงค์ กล่าว และว่า ส่วนคดีหมิ่นประมาทที่คณะกรรมการ กกต.ฟ้องรวม 6 คดีนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน แต่ก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่พูดไป และสิ่งที่พูดก็ไม่ได้เป็นการกล่าวหาใคร ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล
 
ต่อกรณีที่มีข่าวว่า สำนักงาน กกต. มีปัญหาเรื่องงบประมาณนั้น นายภุชงค์ กล่าวว่า  ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์  อย่างไรก็ตาม การทำงานที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2549  กกต.ของบประมาณต่อสำนักงบประมาณ แต่ไม่เคยได้รับการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ จึงต้องใช้งบสะสมที่มีอยู่ ทั้งการแก้ปัญหาและการดำเนินโครงการต่างๆ ของ กกต.
 
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ กกต.มองว่าปัญหาเรื่องงบประมาณของกกต.เกิดจากการบริหารงบประมาณที่ผิดพลาดนั้น นายภุชงค์ กล่าวว่า ก็ต้องไปดู เพราะการบริหารงานของ กกต.แต่ละชุด จะมีหลักในการพิจารณาการขยายตำแหน่งแตกต่างกันไป
 
“ผมอยากให้เจ้าหน้าที่ กกต.ตั้งใจทำงาน เพราะขณะนี้มีงานสำคัญอย่างประชามติที่ต้องทำ ซึ่งจะเหมือนในปี 2542 ที่สำนักงาน กกต.ไม่มีงบประมาณเลย แต่ก็ยังสามารถจัดการเลือกตั้งได้” นายภุชงค์ กล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น