20 ก.ค.2559 ศูนย์ข่าวภาคเหนือ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า หลังมีการลักลอบส่งจดหมายบิดเบือนรัฐธรรมนูญในหลายจังหวัดภาคเหนือทั้งเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง ในช่วงที่ผ่านมามากกว่า 1 หมื่นฉบับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในแต่ละพื้นที่ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน พร้อมเข้าตรวจค้นบ้านแกนนำเสื้อแดง นปช.ในแต่ละพื้นที่ หาตัวมือมืดที่ลอบส่งจดหมายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจค้นบ้านพักแกนนำ นปช.เชียงใหม่-ชมรมคนรักประชาธิปไตย จ.เชียงใหม่ ที่เป็นแกนนำร่วมกับนักการเมืองในพื้นที่เชียงใหม่ เปิดศูนย์อบรมสื่ออาสาให้สมาชิก นปช.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนที่จังหวัดลำปาง มีรายงานว่า ร.อ.พสธร ถานี รอง ผบ.ร้อยสารวัตรทหาร มทบ.31 ลำปาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกับ พ.ต.ต.สมชาย ก้านชมภู สารวัตรสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เข้าตรวจค้นที่บ้านของนายรัชชานนท์ รอดฉวาง หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญของลำปาง เมื่อ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือหลักฐานใด
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ รัชชานนท์พิมพ์ลายนิ้วมือที่ สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อนำลายนิ้วมือที่ได้ทั้ง 10 นิ้ว และฝ่ามือ ไปตรวจสอบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนซองจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม รัชชานนท์ ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นต่อการส่งจดหมายบิดเบือนในครั้งนี้
วันเดียวกัน พ.อ.เมธา ณ พิกุล รอง เสธ.มทบ.32 ก็ได้ร่วม จนท.ตร.สภ.เมืองลำปาง, จนท.สห.มทบ.32 เข้าตรวจสอบ หาหลักฐาน และพิมพ์ลายนิ้วมือนางธมลวรรณ จินากุล หรือเจ๊เพ็ญ แกนนำเสื้อแดงอีกราย พร้อมทดสอบถ่ายเอกสารกับเครื่องถ่ายเอกสารภายในร้าน จำนวน 2 เครื่อง เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งนางธมลวรรณได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งจดหมายบิดเบือนรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่จังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ได้มีการโพสต์ข้อความไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติว่า “ภาพแอคชั่นสวยๆ จากแคมเปญ Vote NO และ Say NO จากพี่น้องรักประชาธิปไตย อ.ลอง จ.แพร่ ช่วยกันเผยแพร่ประชาธิปไตย ไม่เอารัฐธรรมนูญที่ปิดหูปิดตาปิดปากประชาชน จำง่ายๆ เข้าคูหา กาไม่รับทั้งสองช่องนะจ้าววววว” เมื่อบ่ายวานนี้ (19 ก.ค.) โดยอ้างประชาชนในพื้นที่ จ.แพร่ เป็นแนวทางในการเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 59 ที่จะมีการลงประชามติใน 7 ส.ค. 59
ส่วนที่จังหวัดลำปาง มีรายงานว่า ร.อ.พสธร ถานี รอง ผบ.ร้อยสารวัตรทหาร มทบ.31 ลำปาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกับ พ.ต.ต.สมชาย ก้านชมภู สารวัตรสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เข้าตรวจค้นที่บ้านของนายรัชชานนท์ รอดฉวาง หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญของลำปาง เมื่อ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือหลักฐานใด
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ รัชชานนท์พิมพ์ลายนิ้วมือที่ สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อนำลายนิ้วมือที่ได้ทั้ง 10 นิ้ว และฝ่ามือ ไปตรวจสอบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนซองจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม รัชชานนท์ ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นต่อการส่งจดหมายบิดเบือนในครั้งนี้
วันเดียวกัน พ.อ.เมธา ณ พิกุล รอง เสธ.มทบ.32 ก็ได้ร่วม จนท.ตร.สภ.เมืองลำปาง, จนท.สห.มทบ.32 เข้าตรวจสอบ หาหลักฐาน และพิมพ์ลายนิ้วมือนางธมลวรรณ จินากุล หรือเจ๊เพ็ญ แกนนำเสื้อแดงอีกราย พร้อมทดสอบถ่ายเอกสารกับเครื่องถ่ายเอกสารภายในร้าน จำนวน 2 เครื่อง เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งนางธมลวรรณได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งจดหมายบิดเบือนรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่จังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ได้มีการโพสต์ข้อความไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติว่า “ภาพแอคชั่นสวยๆ จากแคมเปญ Vote NO และ Say NO จากพี่น้องรักประชาธิปไตย อ.ลอง จ.แพร่ ช่วยกันเผยแพร่ประชาธิปไตย ไม่เอารัฐธรรมนูญที่ปิดหูปิดตาปิดปากประชาชน จำง่ายๆ เข้าคูหา กาไม่รับทั้งสองช่องนะจ้าววววว” เมื่อบ่ายวานนี้ (19 ก.ค.) โดยอ้างประชาชนในพื้นที่ จ.แพร่ เป็นแนวทางในการเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 59 ที่จะมีการลงประชามติใน 7 ส.ค. 59
ต่อมา การัณย์ เกื้อวันชัย นายอำเภอลอง จ.แพร่ สั่งการให้ ประกอบ ค้าไม้ ปลัดอำเภอ หน.ฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า บุคคลในภาพซึ่งมีจำนวน 9 คน ส่วนใหญ่เป็นราษฎรบ้านหาดผาคัน หมู่ 8 ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ แต่มีบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เพียง 4 คนเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้เดินทางไปชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) ณ ที่ว่าการ อ.ลอง จ.แพร่ เพื่อทำบันทึกข้อตกลงไม่ให้กระทำการในลักษณะดังกล่าวอีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น