ที่มาของภาพ: เฟซบุ๊คยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้อบรับการตัดสินใจประชาชน แต่ไม่แปลกใจผลประชามติเพราะไม่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาสาระรัฐธรรมนูญเต็มที่ เสียใจและเสียดายที่ประเทศถอยหลังไปใช้รัฐธรรมนูญที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแท้จริง ขณะที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย้ำจุดยืนเดิมไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ แต่ขอทุกฝ่ายยอมรับผลประชามติ เชื่อมั่นประชาธิปัตย์พรรคไม่แตก เพราะผลประชามติ
วันนี้ (8 ส.ค.) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คหลังผลประชามติ มีรายละเอียดดังนี้
"ก่อนอื่นดิฉันขอน้อมรับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับผลประชามติในครั้งนี้ แต่ขอแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า
1. ไม่แปลกใจกับผลประชามติเพราะไม่ได้เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ในเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ เสมือนเป็นการรับฝ่ายเดียวและต่างจากการทำประชามติครั้งอื่นและที่ประเทศทั่วโลกเขาทำกัน
2. ไม่เสียดายที่ได้ทำหน้าที่พลเมืองคนหนึ่งตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยในการไปใช้สิทธิลงประชามติแม้จะเป็นเสียงส่วนน้อยก็ตาม
3. แต่เสียใจและเสียดายกับประเทศที่กำลังจะก้าวถอยหลังไปใช้รัฐธรรมนูญที่ดูเหมือนจะเป็นประชาธิปไตยแต่ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
8 สิงหาคม 2559"
8 สิงหาคม 2559"
อภิสิทธิ์ยอมรับผลประชามติ แต่ย้ำจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่าง รธน. - ยืนยันพรรค ปชป. ไม่แตกแยก
ขณะที่สำนักข่าวไทย รายงานว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงของ สนช. ว่า ตนไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน แต่คงต้องคำนึงถึงความคิดเห็นของประชาชน ที่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าเรื่องการปฏิรูป ดังนั้นทางพรรคก็จะรับเรื่องนี้ เพื่อเดินหน้าสู่กระบวรการเลือกตั้ง แม้จะแสดงจุดยืนว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ แต่เป็นเรื่องของการป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ไม่เกี่ยวกับเรื่องระบบการเลือกตั้ง แต่ขึ้นอยู่กับว่า คสช. จะผ่อนปรนให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้มากน้อยแค่ไหน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ขอทุกฝ่ายยอมรับผลการทำประชามติ และในส่วนของพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องกลับไปทบทวนว่าผลของการทำประชามติครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งของประเทศ ส่วน คสช. ก็ต้องให้ความสำคัญกับเสียงส่วนน้อยที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์ ยังถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
"ไม่กังวลผลการทำประชามติ ที่จะสะท้อนกับฐานเสียงภาคใต้ของพรรค เพราะการออกเสียงประชามติ ไม่ใช่การเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นเรื่องของพรรค หรือกลุ่มการเมือง และคะแนนจะคล้ายกับการทำประชามติปี 2550 ซึ่งเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งพรรคที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็สามารถชนะการเลือกตั้งได้ ส่วนความขัดแย้งภายในพรรคนั้น ผู้บริหารและสมาชิกพรรคต้องช่วยกันทำให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และเชื่อถือในอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งผลการลงประชามติ ไม่ได้ทำให้พรรคแตก จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าจะต้องรอดูว่ากรธ.จะปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงประชามติอย่างไร แล้วจึงจะจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคพร้อมให้ข้อมูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น