ประยุทธ์ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกวดขันการส่งต่อโพสต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ชี้มีกฏหมายอยู่ แต่อยากให้ใช้ความเข้าใจ พร้อมชี้แจงการสืบสันตติวงศ์ ระบุเมื่อพระราชพิธีบําเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วัน ก็น่าจะเป็นเวลาอันสมควรดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ม. 23 ต่อไป รัฐบาลนำไปยังสภานิติบัญญํติแห่งชาติเพื่อมีมติตาม รธน.
18 ต.ค. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงว่าส่วนเรื่องการสวมเสื้อดำที่มีปัญหา ตนบอกไปว่าต้องเห็นใจผู้ที่มีรายได้น้อย อาจไม่มีเงินซื้อ เพราะตอนนี้ราคาแพงตัวละหลายร้อย รัฐบาลก็พยายามทำทุกอย่างแนะนำแม้กระทั่งสอนการย้อมผ้า ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมที่จะเปิดขายราคาถูกที่สุดเพื่อให้เข้าถึง ระหว่างนี้อาจมีปัญหาอยู่บ้างก็ใช้ริบบิ้นสีดำไปก่อนได้ แต่ขอให้ลดโทนสีเสื้อผ้าที่สวมใส่ลง ขออย่าไปติติง คนที่ไม่ใส่เสื้อดำว่าไม่รักพระเจ้าอยู่หัวฯ เดี๋ยวก็ตีกันอีก พอได้แล้ว วันนี้ไม่มีสักสี วันนี้เป็นสีแห่งความจงรักภักดี เชื่อว่าทุกคนอยากมาด้วยใจ เขาพร้อมแค่ไหนก็ให้เขามา ถ้าเขายังไม่พร้อมตรงไหน เราก็ไปช่วยเขาไม่ดีกว่าหรือ บางครั้งข้าราชการ พนักงานต่างๆ แอร์โฮสเตส เขาก็ต้องทำงาน เครื่องแบบอาจมีสีสันก็ติดริบบิ้นได้ แต่ถ้านอกเวลาเขาก็ใส่ชุดดำอยู่แล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ ไม่ใช่ไปคอยไล่ล่าใครใส่ไม่ใส่ เดี๋ยวมีปัญหาอีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องการจัดงานรื่นเริง บันเทิงในช่วงนี้ ขอว่าในช่วง 30 วันแรกนับจากวันที่ 14 ต.ค. ขอให้มีการพิจารณาตามความเหมาะสม โดยทางกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังหารือกันในเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะมีผลกระทบหลายๆอย่างด้วยกัน ซึ่งไม่อยากให้ใครเดือดร้อน แต่ต้องดำเนินการด้วยความเหมาะสม อาจจะต้องงดในส่วนที่เป็นมหรสพหรือความบันเทิง ดนตรี ร้องรำทำเพลง แต่การจัดประชุม งานมงคลสมรส ทอดกฐิน ลอยกระทง งานบำเพ็ญกุศล หรือศาสนกิจตามประเพณี สามารถกระทำได้ในรูปแบบที่เหมาะสม เชื่อว่าทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว แต่เรื่องการเลี้ยงสังสรรค์ที่ทำในอาคารเฉพาะกลุ่ม ที่จัดปกติเนื่องจากได้เตรียมการไว้แล้ว ก็ต้องลองพิจารณาถ้าจำเป็นก็ดำเนินการได้ รวมถึงการรับนักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าร่วมประชุม สามารถจัดได้ตามความเหมาะสม และคำนึงถึงความรู้สึกประชาชน และสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้เป็นหลัก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกวดขันระมัดระวังการแพร่ภาพหรือข้อความที่เข้าข่ายการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ยุยงให้เกิดความแตกแยก และทำให้เกิดผลสะเทือนจิตใจของประชาชนในช่วงนี้ ดังนั้นขอความร่วมมืออย่าแพร่ภาพ หรือข้อความดังกล่าวต่อไปเป็นอันขาด เพราะจะเป็นการเหยียบย่ำจิตใจคนไทย และผิดกฎหมายด้วย
"เราก็ระมัดระวังนะ ไม่อยากใช้กฏหมายในช่วงนี้นะครับ ก็ขอความร่วมมือทุกคน เข้าใจแล้วล่ะ ผมเห็น แต่อย่าไปสร้างความขัดแย้งกันอีก ไม่ใช่ว่าใช้มาตรการรุนแรง ผมว่ามันมีกฏหมายมีอะไรอยู่แล้วนะครับ ทำอย่างไรเขาจะเข้าใจ ทำอย่างไรเขาจะไม่ทำ นั่นเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องรวมพลังกันให้ได้ อาจจะเกิดจากเข้าจผิด หรือตั้งใจไม่ตั้งใจต้องไปดูให้ดีนะ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการสืบสันตติวงศ์ด้วยว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ชัดเจน มีกฎมณเฑียรบาลและมีจารีตประเพณี ขอทุกคนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่าได้มีความกังวลใดๆ หรือสงสัยใดๆ เมื่อขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า เมื่อพระราชพิธีบําเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วัน ไประยะหนึ่ง ก็น่าจะเป็นเวลาอันสมควรดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 23 ต่อไป คือขั้นตอนที่รัฐบาลนำไปยังสภานิติบัญญํติแห่งชาติเพื่อมีมติตามรัฐธรรมนูญ ระหว่างนี้ตามกฏหมายหรือตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้วว่าก็มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน ในส่วนเฉพาะเท่าที่จำเป็นเร่งด่วน เรื่องใดที่สำคัญก็จะเป็นเรื่องที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธย ภายนกรอบเวลาที่กำหนดไว้
ขอความร่วมมือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบเว็บหมิ่นฯ
วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงกรณีมีเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า หากประชาชนหรือบุคคลใดพบเจอเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะดังกล่าวทั้งการเผยแพร่ผ่านทางเฟสบุ๊ค ยูทูป หรือลิงค์ข้อมูลต่าง ๆ ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อที่จะช่วยกันสกัดกั้นเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำลายความรู้สึกและหัวใจของประชาชนคนไทยที่มีความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ในส่วนเว็บไซต์ต่างประเทศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามแม้การดำเนินการเกี่ยวกับเว็บไซต์ต่างประเทศที่เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะดังกล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อดูแลหัวใจคนไทยในสิ่งที่ประชาชนคนไทยเคารพรักและเทิดทูนอย่างที่สุด
ดังนั้น ขอประชาชนอย่าได้ตั้งข้อรังเกียจหน่วยงานราชการคิดว่าเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ เพราะในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีการแชร์ข้อมูลจะดำเนินการฟ้องร้องกับเจ้าหน้าที่ ถ้าหากไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด จึงขอเรียนให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามทำงานอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเป็นข้อมูลที่มาจากต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น