วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ยิ่งลักษณ์ห่วงคดีจำนำข้าว คิดถึงเรื่อง 'กำไร-ขาดทุน' รัฐบาลต่อไปจะดูแลปชช.ยากขึ้น


ยิ่งลักษณ์ เข้ารับฟังการสืบพยานจำเลยนัดที่ 5 ในคดีข้อกล่าวหาทุจริตจำนำข้าว พร้อมปฏิเสธจ่ายค่าเสียหายคดีละเมิด 3 หมื่นล้านยืนยัน ไร้ความยุติธรรม ขณะที่ประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำชูป้ายให้กำลังใจ 
ที่มาภาพ เฟซบุ๊ก TV24 สถานีประชาชน
21 ต.ค. 2559 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนาย เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 5 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตส.ส. และสมาชิกพรรค ร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งนี้ทันทีที่ ยิ่งลักษณ์ มาถึง ประชาชนซึ่งวันนี้ได้แต่งกายด้วยชุดสีดำชูป้ายให้กำลังใจ โดยไม่ได้ส่งเสียงเชียร์
มติชนออนไลน์ รายงานว่า  ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าศาลกรณีกระทรวงการคลังส่งคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายในคดีโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35,000 ล้านบาทว่า ได้รับหนังสือทางปกครองแล้วเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่วนจะทำอย่างไรต่อไปนั้น ขอเรียนว่าในช่วงที่คนไทยกำลังโศกเศร้าจะยังไม่ขอแถลงการณ์ใดๆ จนกว่าจะถึงเวลาอันควร ซึ่งการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับตนเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องนโยบายและยังไม่เคยมีใครถูกกระทำในเวลาอันเร่งรีบมาก่อน
“ดิฉันขอยืนยันจะใช้สิทธิทุกช่องทาง ทางกฎหมายที่มีในการต่อสู้ครั้งนี้ และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึงการใช้คำสั่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม และจะเปิดแถลงการณ์ในเวลาอันควร เพราะเป็นช่วงที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้า เราคิดว่าเราคงจะไม่พูดอะไรมากในตอนนี้” ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า อีกทั้งการดำเนินคดีนี้จะทำให้การบริหารนโยบายเพื่อชาวนาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การคิดถึงเรื่องกำไร ขาดทุน รัฐบาลต่อไปคงจะดูแลประชาชนและชาวนาได้ยากขึ้น และมาตรการต่างๆ คงจะไม่สามารถมีได้อีกต่อจากนี้
ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ไม่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการพิจารณาค่าเสียหายตั้งแต่ต้น หลังจากนี้จะแถลงการณ์ในวัน และเวลาที่เหมาะสม
Voice TV รายงานด้วยว่า สำหรับวันนี้ ทนายความจำเลยเบิกตัวพยาน 2 ปากขึ้นแก้ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย วรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ขึ้นเบิกความยืนยันกระบวนการประเมินความคุ้มค่าของโครงการต่ออดีตคณะรัฐมนตรี และ เกษม มกราภิรมย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบาย และกำกับการบริหารหนี้สาธารณะในขณะนั้น ขึ้นเบิกความการควบคุมวินัยทางการคลัง ในช่วงที่รัฐบาลกู้เงินในทุกฤดูกาลผลิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น