วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดขอทุกเหล่าทัพช่วยสร้างความปรองดอง


ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ขอให้สนับสนุนรัฐบาลจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างเต็มความสามารถ พร้อมหนุน ป.ย.ป. สร้างความปรองดอง ด้าน พล.อ.ประวิตร ระบุชัด ปรองดองไม่เกี่ยวกับ นิรโทษกรรม
22 ก.พ. 2560 พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2560 โดยมี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ  ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายทหารระดับสูงของ 3 เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม ชั้น 6 อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน
ผู้บัญชาการทหาสูงสุดกล่าวขอบคุณทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยการสนับสนุนอาหาร เครื่องดื่มและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางมากราบบังคมพระบรมศพ รวมถึงการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเต็มขีดความสามารถ เป็นที่ชื่นชมของประชาชน และขอบคุณทุกเหล่าทัพที่ให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าร่วมการฝึก Cobra Gold 17 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกองทัพไทยต่อมิตรประเทศ
พล.อ.สุรพงษ์ ได้ขอให้เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้การสนับสนุนรัฐบาลจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ผลงานสมบูรณ์และสมพระเกียรติยศ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและร่วมมือกับคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) รวมถึงคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองและคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องด้วย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เน้นย้ำให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทยและเหล่าทัพเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยได้ทันที สำหรับกรณีอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นฟื้นฟู  ให้ดำเนินการอย่างบูรณาการ ไม่ซ้ำซ้อน โปร่งใส พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำให้กำลังพลและครอบครัวน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ที่สรุปใจความว่า “ขอให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันคิดอ่าน และปฏิบัติหน้าที่ ด้วยปัญญา รวมทั้งพิจารณาทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง โดยปราศจากอคติ” มาเป็นหลักชัยดำเนินชีวิต
ทั้งนี้ การประชุมวันนี้(21 ก.พ.)ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง และไม่มีการแถลงผลการประชุม เนื่องจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ติดภารกิจร่วมพิธีต้อนรับ พล.อ.โง ซวน หลิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม

พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์สื่อ ระบุชัดเวทีปรองดอง ไม่พูดเรื่องนิรโทษกรรม

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่จะเสนอเรื่องนิรโทษกรรม ว่า ตนเคยพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่นำเรื่องดังกล่าวมาพูดคุย ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นให้ไปนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น

โฆษกกลาโหมชี้แจง บรรยากาศพูดคุยปรองดองเป็นไปด้วยดี ระบุกรณีเพื่อไทยจะมาให้ความเห็นวันที่ 8 มี.ค. ให้รอคณะกรรมการปรองดอง เป็นผู้กำหนดวันเอง

ด้าน พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อความสามัคคีปรองดอง เปิดเผยถึงผลการเชิญพรรคการเมืองเข้ามาพูดคุยเพื่อหาแนวทางปรองดองในสัปดาห์ที่สอง ว่า บรรยากาศการพูดคุยในส่วนของพรรคการเมืองขนาดเล็ก เป็นไปด้วยดีและเป็นกันเอง มีการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นระหว่างกัน ซึ่งในส่วนของพรรคการเมืองขนาดเล็ก มีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ โดยเห็นว่าต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้ง  เกิดจากการไม่เคารพสิทธิ การทุจริตคอรัปชั่น ประชาชนยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา  การสาธารณสุข และการเข้าถึงทรัพยากร รวมถึงมีความขัดแย้งที่เกิดจากการสูญเสียประโยชน์ของกลุ่มการเมืองเก่าและการเข้ามาของกลุ่มผลประโยชน์ใหม่ การไม่ยอมรับกฏหมาย องค์กรอิสระถูกแทรกแซง และการมีกลุ่มทุนที่สนับสนุนกลุ่มการเมืองที่หวังประโยชน์ทางธุรกิจ
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในส่วนของพรรคการเมืองขนาดเล็กเสนอให้มีการปฏิรูปที่ต้องทำไปพร้อมกันในทุกกลุ่ม ซึ่งควรปฏิรูปพรรคการเมืองก่อน โดยคัดสรรบุคคลที่ไม่หวังผลประโยชน์เข้ามาทำหน้าที่  รัฐบาลต้องคืนความเป็นธรรมให้สังคม เพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาและทรัพยากรธรรมชาติ เข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังและทำให้ประชาชนเคารพกฏหมายควบคู่กัน และแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยตอบรับจะเข้ามาพูดคุยปรองดองในวันที่ 8 มีนาคม พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า จะเป็นวันเวลาใดนั้น ขอให้ทางคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นการสร้างความสามัคคีปรองดองเป็นผู้กำหนด ส่วนกรณีจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. จะเข้ามาพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ขอให้เป็นการเข้ามาพบตามช่องทางที่ได้เปิดไว้ ที่มีการเปิดเวทีทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับพรรคการเมืองที่จะเข้าให้ความเห็นในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) ได้แก่พรรคกสิกรไทย พรรคเพื่อประชาชนไทยและพรรคเพื่อฟ้าดิน เวลา 13.30-16.30 น.และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็น พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรครักท้องถิ่นไทย และพรรคไทยรักธรรม เวลา 9.00-12.00 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น