Wed, 2017-04-19 17:02
จดหมายเปิดผนึก ร้องนายกฯ ติดตามสอบสวนและลงโทษผู้ กระทำการให้หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญของคณะราษฎรสู ญหายและนำหมุดอื่นมาแทนที่ โดยให้นำหมุดเดิมกลับมาไว้ที่ เดิม และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ
19 เม.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมสิทธิเสรี ภาพของประชาชน(สสส.) ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริ มงานพัฒนา(ผสพ.) มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุ ษยชนและการพัฒนา(HRDF) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพั ฒนาเอกชน(กป.อพช.) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม( EnLAW) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม(CrCF) และ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน( สนส.) ออกจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ติดตามสอบสวนและลงโทษผู้ กระทำการให้หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญของคณะราษฎรสู ญหายและนำหมุดอื่นมาแทนที่ โดยให้นำหมุดเดิมกลับมาไว้ที่ เดิม และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้ องรักษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นี้เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้เรี ยนรู้ความจริงต่อไป
โดยมีรายละเอียดดังนี้
จดหมายเปิดผนึก
กรณีหมุดเปลี่ ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร : จงคืนความจริงกลับสู่สังคมไทย
โดยเป็นที่ประจักษ์ชัดว่ าการทำให้สูญหายและเปลี่ยนแปลง “หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ”ของคณ ะราษฎร อันมีข้อความว่า “ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ เพื่อความเจริญของชาติ” และนำหมุดที่มีข้อความอย่างอื่ นมาแทนที่โดยไม่ทราบความเป็ นไปเป็นมา และความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กั บการเปลี่ ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบู รณาญาสิทธิราชย์เป็ นระบอบประชาธิปไตยโดยมี พระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ นั้น
องค์กรท้ายจดหมายนี้ เห็นว่า
1. การสูญหายของหมุดก่อกำเนิดรั ฐธรรมนูญของคณะราษฎร อันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และการนำหมุดอื่นมาแทนที่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงความจริ งในทางประวัติศาสตร์การเมืองสมั ยใหม่ของไทย ย่อมเป็นข้อมูลที่ประชาชนในชาติ ต้องรับรู้และร่วมตัดสินใจหาใช่ เป็นเรื่องของบุคคลหรือกลุ่มบุ คลใดจะตัดสิ นใจกระทำการตามอำเภอใจอย่างปกปิ ดซ่อนเร้น โดยไม่มีหน่วยงานใดของรัฐบาลต้ องรับผิดชอบและให้ความกระจ่างชั ดต่อสาธารณชน
2. การฝังหมุดคณะราษฎรเพื่อบอกเล่ าหลักหมายของการเปลี่ ยนแปลงการปกครองในวันนั้นเป็ นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ นและดำรงอยู่จริง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นหน้าที่ของรั ฐและประชาชนในการสืบสานและสื บทอดความจริงของประวัติศาสตร์ด้ วยการเคารพความจริงในการสร้ างการเรียนรู้และความทรงจำร่ วมทางสังคม เพื่อที่จะไม่ก่ออาชญากรรมทางปั ญญาต่อชนรุ่นหลัง
3. แม้ว่าการให้ความหมายหรือการให้ คุณค่าสำหรับการเปลี่ ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร หรือผลของการเปลี่ ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรอาจแ ตกต่างกัน แต่จะต้องไม่ปฏิเสธความจริงที่ ว่าหมุดคณะราษฎรเป็นประจักษ์ พยานที่ยืนยันว่าได้มีการเปลี่ ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของระบอบสมบู รณาญาสิทธิราชย์และเริ่มต้ นของระบอบประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องการเปิดพื้นที่ให้ กับการถกเถียงอย่างเสมอหน้า อันเป็นหลักการพื้นฐานของสั งคมประชาธิปไตย
4. นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวอาจผิ ดกฎหมายฐานลักทรัพย์หรื อทำลายโบราณสถาน
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรท้ายจดหมายนี้ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ติดตามสอบสวนและลงโทษผู้ กระทำการให้หมุดก่อกำเนิดรั ฐธรรมนูญของคณะราษฎรสู ญหายและนำหมุดอื่นมาแทนที่ โดยให้นำหมุดเดิมกลับมาไว้ที่ เดิม และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ อีกทั้งขอให้ประชาชนร่วมกันปกป้ องรักษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นี้เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้เรี ยนรู้ความจริงต่อไป
ด้วยความเคารพศักดิ์ศรีความเป็ นมนุษย์และสิทธิเสรี ภาพของประชาชน
19 เมษายน 2560
สมาคมสิทธิเสรี ภาพของประชาชน(สสส.)
ศูนย์เผยแพร่และส่งเสริ มงานพัฒนา(ผสพ.)
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุ ษยชนและการพัฒนา(HRDF)
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพั ฒนาเอกชน(กป.อพช.)
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม( EnLAW)
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม(CrCF)
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน( สนส.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น