Wed, 2017-04-19 01:17
กรมศิลปากร ชี้เป็นเพียงเครื่องหมายระบุตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ชี้ไม่มีเจ้าของ ไม่ใช่โบราณวัตถุหรือของแผ่นดิน เอาผิดลักทรัพย์ไม่ได้ ผู้ว่าฯกทม.ปัดเกิดไม่ทัน2475 - ผอ.เขตยินดีเปิดกล้องหากมีคนขอ ตร.สั่งห้ามถ่ายภาพ 'หมุดหน้าใส' ใครฝ่าฝืนต้องลบภาพทิ้งทันที
19 เม.ย. 2560 จากกรณีหมุดคณะราษฎร หรือ 'หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ' ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ที่ระบุถึงเหตุการณ์สำคัญและหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย.2475 หายไป แต่ถูกแทนด้วยหมุดใหม่ที่มีข้อความและความหมายใหม่แทนในจุดเดิม ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ปฏิบัติการดังกล่าวนั้น
กรมศิลปากร ชี้เป็นเพียงเครื่องหมายระบุตำแหน่ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 60 เวลา 20.46 น. เฟซบุ๊ก 'กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร' โพสต์ข้อความว่า ประเด็น “หมุดคณะราษฎร์” เป็นโบราณวัตถุ ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 หรือไม่?
กรมศิลปากรได้พิจารณาแล้วเห ็นว่า ตามพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535ได้บัญญัติให้ “โบราณวัตถุ” หมายความถึง สังหาริมทรัพย์ที่เป็นของโบราณ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์หร ือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธร รมชาติ หรือที่เป็นส่วนหนึ่งส่วนใด ของโบราณสถาน ซากมนุษย์หรือซากสัตว์ ซึ่งโดยอายุหรือโดยลักษณะแห ่งการประดิษฐ์หรือโดยหลักฐา นเกี่ยวกับประวัติของสังหาร ิมทรัพย์นั้น เป็นประโยชน์ในทางศิลป ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี ซึ่งจากนิยามดังกล่าวกรมศิล ปากรจึงเห็นว่า หมุดคณะราษฎร์มิใช่โบราณวัต ถุตามนัยของ พ.ร.บ.โบราณสถานฯ เนื่องจากหมุดคณะราษฎร์เป็น วัตถุที่พลเอกพระยาพหลพลหยุ หเสนา หัวหน้าคณะราษฎร์ ได้นำมาติดตั้งไว้ในบริเวณล านพระราชวังดุสิตเมื่อปี พ.ศ. 2479 ซึ่งเป็นเวลา 4 ปี ภายหลังจากเหตุการณ์เปลี่ยน แปลงการปกครอง ดังนั้นหมุดคณะราษฎร์จึงมิใ ช่สังหาริมทรัพย์ที่เป็นประ โยชน์ในทางประวัติศาสตร์ เพราะหมุดดังกล่าวมีลักษณะเ ป็นเพียงเครื่องหมายระบุตำแ หน่งที่เคยมีการประกาศแถลงก ารณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองเท ่านั้น
รอง ผบ.ตร.ชี้ไม่มีเจ้าของ ไม่ใช่โบราณวัตถุหรือของแผ่นดิน เอาผิดลักทรัพย์ไม่ได้
มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีมีความเคลื่อนไหวให้ดำเนินคดีลักทรัพย์กับผู้ที่ถอดเปลี่ยนหมุดคณะราษฎร ว่า กรณีนี้จะถือเป็นคดีลักทรัพย์ก็ต่อเมื่อมีผู้เสียหายเป็นเจ้าของทรัพย์ ไม่ว่ากรณีอ้างเป็นทายาท หรือเป็นเจ้าของก็ต้องมีหลักฐานกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้น เช่นอ้างว่าเป็นเจ้าของ เป็นทายาทของใคร ถ้าได้รับตกทอดมาก็ต้องมีหลักฐานว่าได้รับทรัพย์สินนั้นเป็นมรดก หากไม่มีหลักฐานว่าเป็นทรัพย์มรดกก็อ้างเป็นมรดกหรือเป็นเจ้าของทรัพย์ไม่ได้ กรณีหมุดนี้ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ สอบถามไปยังหน่วยงานราชการ ทั้งสำนักงานเขตดุสิตและกรมศิลปากร ได้รับการยืนยันว่าไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของ จึงไม่ใช่ของแผ่นดิน ไม่ใช่โบราณวัตถุหรือดูแลครอบครอง เมื่อเป็นดังนั้นยังไม่ชัดว่าทรัพย์นี้เป็นของใครเลย จะดำเนินคดีลักทรัพย์ได้อย่างไร ทรัพย์เป็นของใครยังไม่รู้เลย ยังไม่มีเจ้าของมาบอกเลยว่าทรัพย์ของตนเองหายไป จะทำคดีได้อย่างไร ความผิดเกิดหรือยังก็ไม่รู้
“ตอนนี้คดียังไม่เกิด ถ้าคดีเกิดแล้วจึงจะมีอำนาจสืบสวนสอบสวนต่อ เจ้าหน้าที่จะเอาอำนาจอะไรไปทำ ความผิดยังไม่เกิด จะออกหมายเรียก หรือหมายจับใครได้อย่างไร ตอนนี้ยืนยันว่ายังไม่มีผู้ใด หรือหน่วยงานใดเป็นเจ้าของทรัพย์นี้ จึงยังไม่สามารถดำเนินคดีได้ ต้องว่ากันไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง ใครที่จะยุยงปลุกปั่นให้เป็นเรื่องการเมืองก็ว่ากันไปตามหลักฐานแล้วกัน ผมจะว่าไปตามหลักฐานที่มี” รอง ผบ.ตร.กล่าว และว่า กฎหมายบอกว่าผู้ใดเอาทรัพย์สินผู้อื่นไป ถือว่าผิดฐานลักทรัพย์ จึงต้องมีเจ้าของมาบอกก่อนว่ามีคนเอาของของเขาไป แต่กรณีนี้ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของ แล้วจะเอาผิดได้อย่างไร คดีนี้เราทำการสืบสวนไม่นิ่งนอนใจ ต้องว่าตามกบิลบ้านกบิลเมือง
ผู้ว่าฯกทม.ปัดเกิดไม่ทัน2475 - ผอ.เขตยินดีเปิดกล้องหากมีคนขอ
มติชนออนไลน์ยังได้รายงานเพิ่มเติมดด้วยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า “สำหรับกรณีการเปลี่ยนหมุดดังกล่าวตนไม่รู้จริงๆ อีกอย่างก็เกิดไม่ทัน ถ้าผมเกิดทันในปี 2475 ผมตอบให้เลยว่าหมุดหายไปไหน อีกอย่างผมก็ไม่รู้เรื่องและไม่ได้เป็นผู้สั่งให้เปลี่ยน อีกอย่างที่สุพรรณบุรีก็ไม่มี ถ้าที่สุพรรณบุรีมีผมจะตอบให้หมดเลย”
ขณะที่ สุธน อาณากุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง เปิดเผยกับ มติชนออนไลน์ด้วยว่า ถึงกรณีหากจะมีหน่วยงานเข้าไปขอดูกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) บริเวณดังกล่าว สุธน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “หากจะมีผู้มาขอดูวงจรปิดบริเวณดังกล่าวทางกทม.ก็ยินดี”
ตร.สั่งห้ามถ่ายภาพ 'หมุดหน้าใส' ใครฝ่าฝืนต้องลบภาพทิ้งทันที
ข่าวสดออนไลน์รายงานด้วยว่า เวลา 17.50 น. วันที่ 18 เม.ย. 60 ที่บริเวณพระบรมรูปทรงม้า ลานพระราชวังดุสิต มีประชาชนแวะเวียนเข้าไปดูที่หมุดตัวใหม่ที่มีผู้นำมาเปลี่ยนแทนหมุดคณะราษฎรหรือหมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญของเดิม โดยมีกำลัง จนท.ตร.191 จำนวน 10 นายเฝ้าสังเกตการณ์ โดยไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพและหากใครถ่ายรูปหมุดดังกล่าวจะถูกสั่งให้ลบทิ้งทันที
ตำรวจอ้างว่ามีคำสั่งห้ามถ่ายรูปตัวหมุด หรือรูปคู่เห็นหมุดดังกล่าว หากฝ่าฝืนก็จะถูกควบคุมตัวทันที ทำให้ผู้ที่มาดูต่างผิดหวังกลับไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น