วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หงายแล้ว ธาริตดีเอสไอถอย หลังทุกฝ่ายยันอัมพรไม่ได้ชันสูตรศพ 
แค่เห็นภาพถ่าย เรื่องอาก้า

http://www.internetfreedom.us/thread-15328.html
ภายหลังมวลชนปฎิวัติ และนักวิชากรผู้รักความยุติธรรมนำข้อมูลออกมาโต้พลตำรวจโทอัมพร จารุจินดา นายตำรวจนอกราชการ แก่เลอะเทอะที่ออกมาบอกว่า นักข่าวญี่ปุ่นตายเพราะปืนกลอาก้าที่ทหารไม่มีใช้ (ทั้งที่มีเป็นแสนกระบอกในคลังอาวุธที่ยึดได้ตามแนวชายแดน) วันนี้ ดีเอสไอถอยกรูดแล้ว หลังยอมรับความจริงว่า พลตำรวจอัมพร ไม่รู้เรื่อง ไม่เคยดูศพแค่เห็นจากภาพ ทุกอย่างเลยตาละปัด 

หงายหลังพึ่ง นี่แหล่ะครับ ดีเอสไอยุคอธิบดีที่อดีตเป็นอัยการทั้งที่เรียนไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวอะไร ให้ความเห็นกฎหมายแต่ละอย่างมั่วจนแทบไม่เชื่อว่าเคยเป็นอัยการมา ข่าวนี้จากมติชน

แหล่งข่าวระบุอีกว่า สำหรับผลการชันสูตรผู้เสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน ระบุว่า ผู้เสียชีวิตในจำนวน 11 ราย มี 1 รายเป็นผู้สูงอายุเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย ส่วนอีก 10 ราย เสียชีวิตเพราะถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูง กระสุนเจาะเข้าร่างกายใน 2 จุด คือ ศีรษะและเข้าหน้าอกตัดขั้วหัวใจ รวมถึงนายฮิโรยูกิด้วย โดยลักษณะบาดแผลของทุกศพน่าเชื่อได้ว่าผู้ลงมือเป็นนักแม่นปืน ซุ่มเลือกเป้ายิงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการเลือกเป้ายิงในลักษณะสไนเปอร์มักเลือกใช้ปืนเอ็ม 16 มากกว่าปืนอาก้า อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการไม่ได้ระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 10 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดใด เนื่องจากการผ่าชันสูตรไม่พบหัวกระสุนปืน จึงรายงานในผลการชันสูตรเพียงว่าเป็นกระสุนปืนความเร็วสูง ดังนั้น จึงเป็นประเด็นคำถามว่า พล.ต.ท.อัมพร ซึ่งไม่ได้ร่วมทีมชันสูตรศพ ได้วิเคราะห์ภาพบาดแผลใดจึงสรุปว่าเป็นบาดแผลจากปืนอาก้า และได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของผู้เสียชีวิตรายอื่นหรือไม่ว่า สภาพบาดแผลจากปืนเอ็ม 16 มีความแตกต่างจากปืนอาก้าอย่างไร 

ด้านแหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า คดีนี้ดีเอสไอได้ประสานให้พล.ต.ท.อัมพร ในฐานะที่ปรึกษาคดีพิเศษเป็นผู้ตรวจวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิต โดยวิเคราะห์จากภาพถ่ายบาดแผล และรายงานผลเรื่องวิถีกระสุน ซึ่งการวิเคราะห์เพียงแค่ภาพถ่ายบาดแผลเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ร่วมผ่าชันสูตร อาจได้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอจะสรุปได้ชัดเจนว่าอาวุธสังหารเป็นเอ็ม16 หรืออาก้า อย่างไรความเห็นของพล.ต.ท.อัมพร คงเป็นเพียงส่วนประกอบความเห็นในสำนวนชันสูตรเท่านั้น และอาจไม่มีน้ำหนักเพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงหรือพลิกรูปคดี จากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำไปเป็นชายชุดดำ เนื่องจากในชั้นสอบสวนมีพยานบุคคลและพยานแวดล้อมยืนยันว่า ก่อนถูกยิงล้มลงนายฮิโรยูกิอยู่ตรงกันข้ามกับแนวทหาร หากคดีนี้จะพลิกไปในทำนองว่าชายชุดดำไม่ทราบฝ่ายเป็นผู้ยิง แสดงว่ามีชายชุดดำปะปนอยู่ในแนวทหาร
เครดิต คุณ เสรีชนประชาไท ..แห่งประชาทอล์ค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น