ตำรวจซัดดีเอสไอมั่วคดีช่างภาพญี่ปุ่นนปช.จัดชุมนุมโต้รุ่ง http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=9861 | |||
รอง ผบช.น. ซัดดีเอสไอสุดมั่วคดีช่างภาพญี่ปุ่น ตอนแรกสงสัยโดนทหารยิงโยนเรื่องมาให้ตำรวจทำสำนวน พอแต่พอแถลงว่าโดนยิงด้วยปืนอาก้าที่ทหารไม่ได้นำมาใช้ก็จะเรียกสำนวนคืน ยันไม่ส่งคืนจนกว่าจะสอบสวนเสร็จ นปช. ปรับการชุมนุมใหญ่วันที่ 12 มี.ค. จากเลิกเที่ยงคืนไปเป็นรุ่งสางของวันใหม่ แกนนำออกจากเรือนจำทยอยขึ้นปราศรัยตั้งแต่เวลา 15.00 น. “วีระ” เริ่มอึดอัดให้ทนายยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลขอลดเงื่อนไขประกันตัวที่ห้ามกระทั่งให้สัมภาษณ์ ออกนอก กทม. ร่วมชุมนุมเกิน 5 คน ระบุต้องการเงื่อนไขเดียวกับแกนนำอื่น สาวเสื้อแดงร้องนายกฯช่วยติดตามคดีถูกชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารรุมข่มขืนระหว่างร่วมชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว โวย 9 เดือนคดีไม่คืบหน้า วันที่ 2 มี.ค. 2554 ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ นำนางจรรยาภรณ์ แก้วนอก แนวร่วมคนเสื้อแดง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ทวงถามความคืบหน้าคดีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารข่มขืนเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค. 2553 ระหว่างร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ ซึ่งเวลาผ่านมานานหลายเดือนแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า นายวัชระกล่าวว่า นางจรรยาภรณ์ถูกคนชื่อเอชักชวนให้เข้าร่วมชุมนุม โดยจะให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท แต่เมื่อไปแล้วก็ไม่ได้ค่าจ้างจึงรับจ้างขายน้ำดื่มให้กับผู้ชุมนุมได้วันละ 200 บาท ขณะนี้เขาเดือนร้อนไม่มีอาชีพ อยากได้ทุนไปเปิดร้านขายข้าวแกง ส่วนเรื่องคดีความได้ทำหนังสือผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้ช่วยติดตามเร่งรัด และในฐานะ ส.ส. ได้มอบเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท ให้ไปลงทุนประกอบอาชีพ “ก่อนหน้านี้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทยได้รับค่ารักษาพยาบาลมา 20,000 บาท แต่เรื่องคดีความไม่คืบหน้าและเคยมาร้องเรียนกับผมแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ให้ช่วยร้องเรียนไปที่นายกรัฐมนตรี จึงคิดว่าน่าจะมีความคืบหน้าของคดี” “จตุพร” แจ้งดำเนินคดี “ธาริต” ที่กองปราบปราม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน พร้อมทนายความเข้าแจ้งความเอาผิดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และแจ้งดำเนินคดี พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ที่ปรึกษาดีเอสไอ ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้กระทำความผิดกรณีแถลงผลการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ที่ระบุว่าเสียชีวิตด้วยปืนอาก้า เนื่องจากเห็นว่าเจตนาบิดเบือนรูปคดีและลดทอนน้ำหนักความน่าเชื่อของฝ่ายค้านที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจสัปดาห์หน้า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า พล.ต.ท.อัมพรเป็นผู้เชี่ยวชาญ แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ความเชี่ยวชาญยังมีอยู่ และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญกับศาลด้วย ความเห็นของ พล.ต.ท.อัมพรจึงมีน้ำหนักในการรับฟัง “อำนวย” ซัดดีเอสไอมั่วคดีช่างภาพ “สำนวนที่ดีเอสไอส่งกลับมาให้ตำรวจสืบสวนต่อนั้นมี 13 ศพ กรณีของช่างภาพญี่ปุ่นระบุมาว่าอาจจะเกิดจากฝีมือของทหาร เพราะว่ากล้องของนายฮิโรยูกิที่ตกอยู่หันหน้าไปทางทหารจึงน่าจะถูกทหารยิง โดยดูจากภาพสุดท้ายในกล้อง แต่ปรากฏว่ากล้องถูกปิดหน้ากล้องไปก่อนแล้ว ขณะถูกยิงกล้องไม่ทำงาน ถูกยิงตรงไหนก็ไม่รู้ จะหันไปทางไหนก็ได้ อาจจะครึ่งชั่วโมงจากนั้นแล้วถูกยิงก็เป็นได้ เพราะวันนั้นมีชายชุดดำใช้ปืนอาก้ายิง เมื่อให้ พล.ต.ท.อัมพรดูและบอกว่าน่าจะเป็นปืนอาก้าที่ยิง ดีเอสไอเขาหมดข้อสงสัยแล้วจะขอสำนวนคืน แต่คงคืนไม่ได้เพราะตำรวจยังไม่ได้ทำอะไรเลย การที่ดีเอสไอมีข้อสงสัยแล้วส่งเรื่องมาให้ตำรวจ พอหมดข้อสงสัยก็จะเอาสำนวนคืน ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่ามั่ว” ศาลจำคุกคนสนิท “เสธ.แดง” 2 ปี ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำตัดสินคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ฟ้องนายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือเคทอง คนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 กรณีถูกจับได้พร้อมอาวุธและพกอาวุธเข้าไปที่กองปราบปราม ศาลพิเคราะห์ตามพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยทำผิดตามฟ้องจริง ตัดสินลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 1,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี ปรับ 500 บาท เสื้อแดงปรับชุมนุมใหญ่โต้รุ่ง ด้านแกนนำ นปช. นำโดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. นายจตุพร และนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. ร่วมกันแถลงข่าว โดยมีแกนนำที่ได้รับการประกันตัว เช่น นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และ นพ.เหวง โตจิราการ มาร่วมพบปะคนเสื้อแดงด้วย นายวรวุฒิระบุว่า การตายของช่างภาพญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นปืนชนิดใด แต่วิถีการยิงมาจากแนวของทหารแน่นอน ที่อ้างเรื่องชายชุดดำวันนั้นก็มีชายชุดดำที่ยิงมาจากแนวของทหารด้วย ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. นี้ แกนนำที่ได้รับการประกันตัวจะเริ่มขึ้นเวทีปราศัยตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. และอาจเป็นการชุมนุมข้ามคืนไปถึงช่วงเช้า ย้ำแนวร่วมต้องได้ประกันตัว นางธิดากล่าวว่า นปช. ชุมนุมเพื่อทวงสิทธิการประกันตัวให้กับแนวร่วมที่ยังอยู่ในเรือนจำ เมื่อแกนนำที่เปรียบเสมือนเป็นหนูตัวใหญ่โดนตั้งข้อหาร้ายแรงกว่าและมีโทษหนักกว่ายังออกมาได้ หนูตัวเล็กก็ควรออกมาได้ในช่องทางเดียวกัน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนเสียชีวิต จะต้องมีคนรับผิดชอบ “เราจะชุมนุมกันเรื่อยไปเดือนละครั้งสองครั้งจนกว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดจะปรากฏ ไม่ว่าใครก็ตามไม่ควรเป็นห่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดง เพราะพวกเรามีวุฒิภาวะมากพอที่จะรู้ว่าอะไรควร ไม่ควร” จี้ถามใครยิงช่างภาพญี่ปุ่นตาย นางธิดากล่าวอีกว่า วันนี้มีความพยายามจะเปลี่ยนแปลงผลสอบสวนการตายของช่างภาพญี่ปุ่น หลังจากที่มีข้อมูลยืนยันว่ากระสุนยิงมาจากฝั่งของทหาร พยายามบิดเบือนว่าถูกยิงด้วยปืนอาก้าซึ่งทหารไม่ได้ใช้ ทั้งที่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ประเด็นอยู่ที่ใครยิง กรณีนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฝ่ายรัฐไม่ยอมให้มีการพิสูจน์ความจริงอย่างตรงไปตรงมา และการไม่ยอมให้พิสูจน์ความจริงอาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นด้วยวิธีการพิเศษ เชื่อมีประชาชนร่วมชุมนุมมากขึ้น นายจตุพรกล่าวว่า หลังประชาชนฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในสภาแล้วเชื่อว่าจะทนไม่ได้ จึงน่าจะมีคนออกมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงมากขึ้น “ตอนนี้ชัดเจนเรื่องการถือ 2 สัญชาติของนายกรัฐมนตรีแล้ว ทราบว่านายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ นปช. จะฟ้องศาลอังกฤษเพิ่มจากการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศด้วย” “วีระ” อุทธรณ์ลดเงื่อนไขประกัน นายปกาสิต ไตรยสุนันท์ ทนายความของนายวีระกานต์ หรือวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. เปิดเผยว่า ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลขอให้ลดเงื่อนไขและวงเงินค้ำประกันปล่ยตัวชั่วคราวที่ตีราคาประกันไว้ 6 ล้านบาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามไม่ให้ร่วมชุมนุมกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เว้นแต่จะเป็นการรวมตัวในกลุ่มญาติ อีกทั้งห้ามเผยแพร่ข่าวต่อสาธารณะ โดยให้เข้ารายงานตัวทุก 15 วัน ควรได้เงื่อนไขเดียวกับแกนนำอื่น “ที่ต้องอุทธรณ์เพราะเห็นว่าเป็นการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มข้นเกนกว่าแกนนำ นปช. คนอื่นๆมาก ไม่ได้บอกให้ลดเงื่อนไขเท่าแกนนำคนอื่นๆ เพียงแต่เปรียบเทียบให้เห็น เพราะแกนนำอื่นกำหนดวงเงินประกันเพียง 600,000 บาท มีเงื่อนไขห้ามไม่ให้กระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล ทั้งที่พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องในสำนวนเดียวกัน” ศาลให้ประกันแนวร่วม นปช. อีก 6 คน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. เปิดเผยว่า ศาลได้อนุญาติปล่อยตัวชั่วคราวแนวร่วมเพิ่มเติมอีก 6 คน กำหนดวงเงินประกันคนละ 600,000 บาท ขณะนี้รอฟังคำสั่งศาลที่ยื่นประกันเพิ่มไปอีก 2 คนว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ หากได้ประกันตัวจะเหลือจำเลยคดีก่อการร้ายอีก 3 คนที่จะยื่นขอประกันตัวต่อไป ดักคอ “มาร์ค” กักสัญชาติไว้ลี้ภัย ที่รัฐสภา นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แก่ใจว่าถือ 2 สัญชาติมาตั้งแต่ต้น แต่การที่ไม่ยอมสละสัญชาติอังกฤษเป็นเพราะต้องการเก็บเอกสิทธิ์เอาใช้ลี้ภัยในอนาคตหรือไม่ “กฎหมายสัญชาติเป็นกฎหมายมหาชน ตามหลักเมื่ออายุครบ 20 ต้องเลือกถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง การที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยโดยที่ยังถือ 2 สัญชาติจึงเป็นความไม่สง่างาม” ไม่ผิดกฎหมายแต่ไม่สง่างาม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามเจตนารมย์ของกฎหมายต้องการให้คนที่จะมาเป็น ส.ส. ถือสัญชาติไทยโดยการเกิดเท่านั้น เรื่องนี้หากยึดหลักการขัดกันของกฎหมายก็ต้องเปรียบเทียบกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายแต่ไปทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม คือเป็นเรื่องที่คนอื่นทำได้แต่คนเป็นนายกฯทำไม่ได้ เพราะจริยธรรมของคนเป็นนายกฯต้องสูงกว่าคนทั่วไป ด้านนายอภิสิทธิ์ทำหน้าเบื่อไม่อยากตอบหลังถูกผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องการถือ 2 สัญชาติไปอภิปรายในสภา โดยกล่าวเพียงว่า “รอฟังเขาอภิปรายแล้วกันครับ” |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น