RED IN USA

หวั่น‘จตุพร’ถูกทำร้ายผบ.เรือนจำสั่งติดวงจรปิดเรือนนอนเฝ้าดูผ่านจอ

เรื่องจากปก          จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้          ปีที่ 12 ฉบับที่ 3066 ประจำวัน พุธ ที่ 1 มิถุนายน 2011             http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=10908          ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯสั่งติดกล้องวงจรปิดเรือนนอน “จตุพร” เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวผ่านจอทีวี. หวั่นถูกลอบทำร้ายเพราะไม่รู้ใจนักโทษรายอื่นว่าคิดอย่างไร นอกจากนี้ยังสั่งให้ผู้คุมดูแลเรื่องความปลอดภัยแกนนำ นปช. ทุกคนเป็นกรณีพิเศษ ชี้แจง “สมยศ” ซึมเศร้าเพราะไม่สบายและห่วงธุรกิจที่ไม่มีคนดูแล มั่นใจไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายในคุกแน่นอน ด้านภริยา “ร่มเกล้า” ยื่นหนังสือถึง ผบ.ทบ. ให้ช่วยเร่งคดีหาคนสังหารมาลงโทษ เผยที่ผ่านมามีคนติดต่อให้ข้อมูลจำนวนมาก แต่ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือฝ่ายใด เหตุวุ่นวายทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ไม่ได้เกิดความสูญเสียเฉพาะในกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ทหารก็เสียชีวิตด้วย หนึ่งในนั้นคือ พล.ต.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรอง เสธ.พล.ร.2 รอ. และครอบครัวก็ไม่พอใจที่ไม่มีความคืบหน้าของคดีเพื่อหามือสังหารในครั้งนั้น ภริยา “ร่มเกล้า” เซ็งคดีไม่คืบ วันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภริยา พล.ต.ร่มเกล้า เดินทางไปที่กองบัญชาการกองทัพบกเพื่อยื่นหนังสือผ่าน พล.ต.พลภัทร วรรณพักตร์ เลขานุการกองทัพบก ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ พล.ต.ร่มเกล้า นางนิชากล่าวว่า เวลาผ่านมาปีกว่าแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้าเลย จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ ไม่ปักใจเชื่อว่าใครเป็นผู้กระทำ “ที่ผ่านมากองทัพบกดูแลเรื่องสิทธิและช่วยเหลือเรื่องอื่นๆด้วยดีและต่อเนื่อง ทำให้ไว้ใจและเชื่อมั่นที่จะให้กองทัพบกเป็นผู้แทนช่วยติดตามเรื่องคดีความให้ได้รับความเป็นธรรม ที่มายื่นเรื่องครั้งนี้ไม่ได้กล่าวหาว่าทำงานล่าช้า เพราะยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และไม่ได้ปักใจเชื่อว่าฝ่ายใดเป็นผู้กระทำ ไม่เคยแสดงความชิงชังใคร แม้ที่ผ่านมาหลายฝ่ายจะพยายามให้ข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยากรอดูผลการทำงานของกระบวนการยุติธรรม” ดีเอสไอแจงฝีมือคนชุดดำสังหาร ด้าน พ.ต.ท.พะเยาว์ ทองเสน เลขานุการพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 กล่าวว่า การสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความชัดเจนว่าการเสียชีวิตของ พล.ต.ร่มเกล้าและนายทหารอีก 4 นาย เกิดจากการกระทำของกองกำลังชุดดำ ซึ่งเป็นกองกำลังที่สนับสนุนการชุมนุมของคนเสื้อแดง เพียงแต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าคนที่ยิง พล.ต.ร่มเกล้าเป็นใคร สองฝ่ายต่างฟ้องเรียกค่าเสียหาย “พล.ต.ร่มเกล้าเสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิดเอ็ม 79 ซึ่งเป็นอาวุธที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้เบิกมาใช้ในปฏิบัติการดังกล่าว” พ.ต.ท.พะเยาว์กล่าวและว่า เหตุจลาจลทางการเมืองมีเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 11 ราย แต่คนเสื้อแดงเอาไปรวมกับผู้เสียชีวิตทั้งหมด หากแยกออกมาผู้เสียชีวิตจะไม่ถึง 90 ราย ขณะนี้ญาติคนเสื้อแดงได้ฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐ ขณะที่ญาติของเจ้าหน้าที่รัฐที่เสียชีวิตก็กำลังรวมรวบพยานหลักฐานเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายเช่นกัน ไม่สามารถระบุตัวคนยิงได้ “การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ชุมนุมมีความเหมือนกันตรงที่การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำของกองกำลังชุดดำที่สนับสนุนการชุมนุม เพียงแต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นคนยิง ขณะที่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่บอกว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่สามารถชี้ชัดได้เช่นกันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไหน” สั่งติดวงจรปิดเรือนนอน “จตุพร” นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ จึงสั่งการให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในเรือนนอนของแกนนำทุกคน โดยเฉพาะเรือนนอนของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ต้องขังในคดีความมั่นคงต่อรัฐและล่วงละเมิดสถาบัน เนื่องจากไม่สามารถเดาใจนักโทษรายอื่นได้ว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับนายจตุพร จึงต้องวางมาตรการป้องกันไว้ก่อน แม้ที่ผ่านมาจะยังไม่พบว่ามีปัญหาใดๆก็ตาม นอกจากนี้ยังสั่งการให้ผู้คุมเฝ้าระวังความปลอดภัยของแกนนำทุกคนเป็นพิเศษด้วย “สมยศ” ซึมเศร้าเพราะป่วย นายโสภณกล่าวถึงกระแสข่าวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย อาจคิดสั้นว่า ไม่เป็นความจริง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เข้าไปคุยกับนายสมยศเพื่อสอบถามความเป็นอยู่ ได้รับคำยืนยันว่าสบายดี ส่วนอาการซึมเศร้าในช่วงนี้เพราะเป็นไข้และห่วงธุรกิจท่องเที่ยวที่ไม่มีใครดูแล ส่วนนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม ที่อาการความดันและโรคเกาต์กำเริบได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว อาการไม่หนักมาก หลังตรวจรับยาแล้วจึงนำกลับมาควบคุมที่เรือนจำตามปรกติ กลุ่มแรงงงานจี้ปล่อยตัว “สมยศ” ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มองค์การแรงงานเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนายสมยศที่ถูกควบคุมตัวในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เนื่องจากเห็นว่าการคุมตัวนายสมยศขาดซึ่งความยุติธรรม เพราะแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาและเรียกร้องประชาธิปไตย แต่กลับถูกตั้งข้อหา ต่างกับกลุ่มอื่นแม้จะถูกตั้งข้อหาก็ไม่ได้ถูกควบคุมตัวและยังเคลื่อนไหวได้ทั้งที่รัฐบาลประกาศว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ************************

http://redusala.blogspot.com