วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554


นี่หรือทหารไทย ที่อ้างปกป้องสถาบัน

ตำรวจ สภ.โนนไทยจับ 5 ชายฉกรรจ์ เป็นทหารสังกัดกองทัพบก 4 นาย พร้อมอาวุธปืน หลังก่อเหตุขับรถกระบะตระเวนข่มขู่หัวคะแนนผู้สมัครส.ส.เพื่อไทย หากไม่ช่วยผู้สมัครส.ส.หมายเลข 2 ก็ห้ามยุ่งการเมือง พบโพยรายชื่อนายทหารในรถด้วย...

เมื่อเวลา 17.00 น. 28 มิ.ย. ที่สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ ปริสุทโธเหมทานนท์ รองผวจ.นครราชสีมา, พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา, พ.ต.อ.สมชาย ภูการุณย์ ผกก.สภ.โนนไทย และพ.ต.ท.สุรชัย ผดุงเจริญ รอง ผกก.สส. ร่วมกันสอบปากคำนายชยธร สารกะวณิชอายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 ถ.ลาดพร้าว ซ.191 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ, ร.ต.มนตรี เขี้ยวทุ่งน้อย อายุ 49 ปี, จ.ส.อ.สุจินต์ พันชนะ อายุ 42 ปี, จ.ส.ต.จรินทร์ หาญธัญกรรมอายุ 40 ปี และจ.ส.อ.จรัส ริตา อายุ 42 ปี ตรวจสอบทั้ง 4 คนพบบัตรข้าราชการสังกัดกองทัพบก เป็นผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุข่มขู่ผู้นำชุมชนและหัวคะแนนของผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย ในหลายอำเภอของนครราชสีมา

ในการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนบรรจุอยู่ในแม็กกาซีน 30 นัด, วิทยุสื่อสารของราชการ 1 เครื่อง, มีดพก 1 เล่ม, มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม, กล้องส่องทางไกล 1 อัน, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง, ตะปูเรือใบ 1 ถุงใหญ่ และตะปูสังกะสีอีก 1 ถุงใหญ่ นอกจากนี้ยังพบรายชื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหารบก ยศตั้งแต่พล.อ.ลงมาถึงจ.ส.อ. และมีรายชื่อผู้สมัครส.ส.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ลงสมัครในพื้นที่นครราชสีมาหลายเขตเลือกตั้ง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งของกลางทั้งหมดตรวจค้นพบภายในตัวผู้ต้องหาบางคน และบางรายการซุกซ่อนอยู่ภายในรถกระบะ สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ ตำรวจจับกุมได้ขณะตั้งด่านสกัดบริเวณตู้ยามมะค่า ต.มะค่า อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ขณะนั่งมาในรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ผค 5453 นครราชสีมา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา


ด้านนายวุฒิพล พนมรัตนศักดิ์ อายุ 58 ปี อดีตนายกอบต.กระทุ่มลาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวข่มขู่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน ขับรถกระบะไม่ทราบรุ่นและทะเบียน มาหาที่บ้านพัก ซึ่งกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจสันติบาล มาขอให้ตนซึ่งสนับสนุนผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนมาสนับสนุนผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน หรือหากไม่ช่วยก็ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งหลังข่มขู่เสร็จ ทั้งหมดได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.ประทาย ไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งทราบว่า ตำรวจ สภ.โนนไทย สามารถจับกุมกลุ่มดังกล่าวได้แล้ว

ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางมาตรวจสอบร่วมกับตำรวจว่า เมื่อช่วง 2-3วันที่ผ่านมา ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในเขตนครราชสีมาหลายพื้นที่ อาทิ อ.ประทาย อ.ชุมพวง อ.ลำทะเมนชัย อ.เมืองยาง และอ.โนนไทย ได้ร้องเรียนผ่านตนว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถกระบะมาข่มขู่ ซึ่งจากการตรวจสอบ ตนมั่นใจว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารสังกัดกองทัพบก มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้สนับสนุน โดยเฉพาะผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทย โดยสังเกตจากบัญชีรายชื่อที่ค้นพบในตัวของผู้ต้องหา ที่มีการระบุนายทหารยศพล.อ.และพล.ต. ในจำนวนนี้มีนายทหาร ยศพล.ต.นายหนึ่งที่มีนามสกุล "สุวรรณฉวี" ปรากฏอยู่ในรายชื่อดังกล่าว พร้อมทั้งแยกเป็นสายปฏิบัติการตามพื้นที่ต่างๆ ของนครราชสีมา อาทิ ส่วนปฏิบัติการชุมพวง ส่วนปฏิบัติการประทาย และส่วนปฏิบัติการจักราช นอกจากนี้ยังมีรายชื่อของผู้สมัครส.ส. พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน หลายเขตในนครราชสีมา รวมอยู่ด้วย ซึ่งตนอยากถามไปยังนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ว่ามีส่วนรู้เห็นกับขบวนการดังกล่าวหรือ ไม่ หรือที่นำเสนอนโยบายปรองดองสมานฉันท์ เป็นเพียงนโยบายหลอกลวงสร้างภาพเท่านั้น ซึ่งตนจะนำข้อมูลทั้งหมดไปบอกให้ประชาชนบนเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ที่จะจัดขึ้นที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เย็นวันพรุ่งนี้ เพื่อประชาชนจะได้รู้ความจริงว่า พรรคเพื่อไทยถูกกลั่นแกล้งเพียงใด

ด้านพ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้นำชุมชนหลายพื้นที่ว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าไปข่มขู่ไม่ให้ช่วยผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยข่มขู่ให้ไปช่วยสนับสนุนผู้สมัครอีกพรรคหนึ่งแทน ตนได้สั่งการให้ทุกสถานีออกหาข่าวและติดตามจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว จนสามารถจับกุมได้ในวันนี้ แต่มีบางส่วนที่ยังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวอยู่ และจากการสอบสวนเบื้องต้น กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คนไม่ยอมให้การที่เป็นประโยชน์ต่อคดีเท่าใด โดยอ้างว่าเพิ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯเพื่อจะไปเที่ยวขอนแก่น ส่วนอาวุธปืนที่พบ ก็เป็นปืนของราชการ ไม่เคยไปก่อเหตุข่มขู่ใครตามที่ตำรวจกล่าวหา จะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนรายชื่อนายทหารที่พบ ก็ไม่ยอมให้รายละเอียด อ้างแต่ว่าเป็นกระดาษที่ตก อยู่ในรถ ซึ่งขอยืมมาจากเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ในอ.บัวใหญ่ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกันหลายอย่าง ประกอบกับมีพยานบุคคลซึ่งเคยถูกข่มขู่ จำหน้าได้ และมาชี้ตัวเรียบร้อย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.โนนไทย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนข้อหาข่มขู่คงจะต้องรอให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวและแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น