วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555


แฉ! ประชาธิปัตย์ ผุด "แพงทั้งแผ่นดิน" ที่แท้ "ขายขาดทุนเอาหน้า"

                จากกรณีปัญหาข้าวของอุปโภคราคาเพิ่มขึ้นสภาพค่าแรงงานเพิ่มสูง รัฐบาลรู้ถึงความเดือดร้อนประชาชน เร่งคุยผู้ประกอบการสินค้าทีละรายเพื่อให้รู้ต้นทุนสินค้าแต่ละตัว เพื่อแก้ปัญหาสินค้าขึ้นราคาอย่างเป็นรูปธรรม

         เมื่อเจาะลึกไปถึงผู้ประกอบการแต่ละราย ก็มีคำถามเล็กๆว่า สมัย ปชป. เค้าไม่ได้ทำหรือไง ทำไมพอสินค้าราคาสูงก็ทำเป็นโวยวาย คำตอบคือ "ไม่ได้ทำ"

          และ ประชาธิปัตย์ก็ปล่อยเวลาเนิ่นนานมาเกือบ 3 ปีโดยที่"ไม่ทำอะไรเลย" แต่พอตนหมดหน้าที่ มาเป็นฝ่ายค้าน ก็กลบมาโวยว่ารัฐแก้ปัญหาของแพงผิดจุด

            ก็จะเล่าให้ว่า "แก้ปัญหาถูกจุด ของรัฐบาล" กับ "แก้ปัญหาผิดจุด ของ ประชาธิปัตย์" ต่างกันอย่างไร?

           วันนี้รัฐเข้าไปคุยกับ "ผู้ค้า" แต่ละรายดูโครงสร้างราคา พบว่า "ต้นทุนสินค้าวัตถุดิบ" ราคาถูก แต่ "สินค้าปลายทาง" ราคาแพง พบปัญหาทางโครงสร้างที่ใครก็ไม่กล้าเข้าไปแหยม คล้ายๆกับปัญหาแท็กซี่มาเฟียสนามบินภูเก็ตที่ขูดรีดรอบละ 800 บาทนั้นแหละ

           เราพบว่า โครงสร้างราคาในอดีตจากรัฐบาลก่อนทำให้ราคาสินค้าตกต่ำ แต่ราคาปลายทางสูง ณ ปัจจุบัน ท่านนายกฯได้สั่งให้พิจารณาโครงสร้างใหม่ทั้งหมด

         นั้นคือระยะยาว ต้องไล่กันทีละเปลาะ ทีละด้าน แต่ระยะสั้น เราก็ใช้โครงการ "ร้านถูกใจ" เป็นกลไกในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบ "พ่อค้าคนกลาง"

         วันนี้มีสินค้าราคาเหมาะสมเข้ามาในโครงการจำนวนมาก เมื่อหักพ่อค้าคนกลางออก ปรากฏว่าสินค้าดังกล่าวราคาถูกกว่าตลาดไปได้ 10-20% ลงไป

         ร้าานถูกใจ ไม่มีต้นทุนโฆษณาสินค้าบ้าเลือด ไม่มีพ่อค้าคนกลางมาขูดรีด จึงทำให้ราคาถูกกว่า และนำไปแจมขายในร้านค้าปกติได้โดยไม่ทำราคาตลาดเสีย นี่คือวิธีคิดชาญฉลาด ของรัฐบาล

          แต่มาดูฝ่ายค้านบ้างที่คิดแต่จะ "เอาหน้า ชิงตัดหน้า" ไม่ได้ไปทำอะไรเลย แต่เด็กออกฟอร์ดคิดง่ายๆ สองเด้งคือ

         เนื่องจากอยาก "ตัดหน้ารัฐบาล" และ "หาเสียงผู้ว่า กทม." จึงจัด "รถเร่-ตามชานเมืองจะเห็นบ่อยๆ"และหากว่าไปไอเดียนี้ไม่ใช่ ปชป.คิดคนแรกนะ  คนจัดเอามาเร่ขายคนแรกเลยคือ "บก.หนูหริ่ง สมบัติ บุญงามอนงค์" ที่เอารถกะบะ มาเร่ขายของกินของใช้ช่วยตอน "น้ำท่วมปี 54" หย่อนขายลงจากทางด่วน

          ผมเองได้ไปฟังตอนแกคิด และทำขายจริงๆ จึงเข้าใจ ตรรกะความคิดว่าตั้งต้นมาได้อย่างไร และลดราคาได้โดยขอให้ผู้ผลิตขายในราคาส่ง แกใส่ค่าน้ำมันหน่อย

         นั้นคือ วิธีคิด ที่คนมีความคิดเขาทำกัน แต่มาดู ปชป.ทำ เขาทำอย่างไร เขาบอกชัดเจนว่า "นำเอาเงินจากมูลนิธิเสนีย์ ปราโมช" มาอุดหนุนราคาสินค้า

         แปลภาษาไทยง่ายๆคือ ซื้อมาขายให้แบบ ขาดทุน โดยเอางบมูลนิธิมาโปะเอาหน้า!!! คิดได้แค่นี้ แค่นี้จริงๆ !!!!

        คนคิดระดับ อ็อกฟอร์ด ระดับกรณ์ และทีมวอรูมเขานำมาเผยแพร่อย่างภูมิใจว่าเขาไม่ได้ใช้เงินรัฐนะ เขาใช้เงินมูลนิธิเสนีย์มาอุดหนุน โง่หรือฉลาด

         แค่ซื้อราคาทุนมาเกลี่ยให้ลดลง ขายให้คนยากจนแค่นี้ คิดไม่ได้ แต่เอาเงินอื่นมาโป๊ะให้ราคาถูกลง มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดได้ และภูมิใจมากๆๆๆ

         มันทำให้ผม "เอ๊ะใจ" ไปว่า ปชป. เคยใช้วิธีนี้มาก่อน สมัยท่านชวน ขายซาก ปรส. จากล้านล้านบาท เหลือแค่ไม่ถึงแสนล้านบาท????

         ชาติเจ๊งไป 8 แสนล้าน ท่านชวนยังหุบปาก ทำท่าขี่รถจิ๊บเอาหน้ายากจน แต่คุณลูกขับซิ่งบีเอ็มโฉบดารา ก็เลยมาตรฐานเดียวกัน วิธีคิดเดียวกันจนวันนี้

       "ขาย ปรส.เจ๊ง แปดแสนล้าน" กับ "โชห่วยสู้แพงทั้งแผ่นดิน" ของ ปชป. จึงคิดได้แย่พอๆกัน ซึ่งไม่มีพ่อค้าหน้าโง่ที่ใหนในแผ่นดินนี้คิดได้เท่า
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น