วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จ่อตั้งข้อหา เสธ.อ้าย นำผู้ชุมนุมฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความมั่นคง


          จ่อตั้งข้อหา เสธ.อ้าย นำผู้ชุมนุมฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความมั่นคง



         ตำรวจเร่งตรวจสอบ พยานหลักฐานก่อนตั้งข้อกล่าวหา “เสธ.อ้าย” ฐานให้มวลชนใช้ความรุนแรงฝ่าแนวกั้นตำรวจที่ประกาศตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง “เฉลิม” ชี้ม็อบไล่รัฐบาลยังไม่หมด แค่พักยก เชื่อมาอีกแน่แต่จะแรงแค่ไหน ใครเป็นแกนนำยังยากที่จะประเมินตอนนี้ เพราะมีหลายสายที่จะร่วมมือกัน ระบุยิ่งคดีฆ่าคนเสื้อแดงชัดเจนขึ้นเท่าไรยิ่งเป็นตัวเร่งให้มีการชุมนุมขับ ไล่รัฐบาลเร็วขึ้นเท่านั้น ด้านช่างภาพเอเอสทีวี ทีนิวส์ ขึ้นโรงพักแจ้งดำเนินคดีตำรวจทำร้ายร่างกาย
+++++++++++++++++++

            พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวหลังเข้าเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการดูแลรักษาความสงบ เรียบร้อยในระหว่างการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามว่า การดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมต้องดูหลักฐานอย่างละเอียดและต้องนำทุกอย่างมา ประกอบกัน ทั้งประกาศต่างๆ การปราศรัย การอภิปราย
“การฝ่าฝืนประกาศที่ออกตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงแห่งชาติถือเป็นความผิด เพราะประกาศต่างๆออกมาล่วงหน้า มีการเตือนและเปิดเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ชุมนุมโดยง่ายอยู่แล้ว การพยายามใช้ความรุนแรงฝ่าแนวกั้นนั้น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายด้วย”

           ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุว่าอาจมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลอีกครั้งหลังปีใหม่ว่า ยังไม่จบ แค่มวยพักยก เชื่อว่ามีแน่และมีหลายกลุ่ม ยิ่งศาลอาญาสั่งว่าแนวร่วมเสื้อแดงเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้ต้องมีคนถูกจับเรื่องฆ่าคนตาย ใครสั่งคนนั้นก็โดน ยิ่งเป็นตัวเร่งให้มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเร็วขึ้น


         “ตำรวจและทหารที่ปฏิบัติตามหน้าที่พวกนี้ปลอดภัย แต่คนสั่งการหากไม่มีเหตุผลต้องรับผิดชอบ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวและว่า การชุมนุมขับไล่รัฐบาลจะมีอีกแน่นอน แต่จะแรงหรือไม่ ใครจะมาเป็นแกนนำยังบอกไม่ได้ แต่เป็นจุลกฐินที่ร่วมกันหลายสาย


          ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง นายสันติ เต๊เตีย ช่างภาพเอเอสทีวี และนายทศฤทธิ์ วัฒนราษฎร์ ช่างภาพทีนิวส์ พร้อมด้วยนายชาญวิทย์ กองเพชร ทนายความจากสภาทนายความ และนายศักดิ์ณรงค์ คงศิริ ทนายอาสา เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พูวิศ ศรีอ่อน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.นางเลิ้ง ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ช่วงการชุมนุม ของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา

        นายสันติระบุว่า วันเกิดเหตุได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างนั้นเห็นตำรวจกำลังทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมและหันมาทำร้าย จึงได้นำบัตรสื่อมวลชนออกมาแสดงตัวพร้อมกับชี้ปลอกแขนว่าเป็นสื่อมวลชน แต่ตำรวจก็ยังทำร้ายร่างกายอีก นอกจากนายสันติแล้วผู้สื่อข่าวที่อยู่ด้วยกันก็ถูกทำร้ายด้วย หลังเหตุการณ์สงบได้ถูกนำตัวไปกักขังกว่า 1 ชั่วโมง ขณะที่อุปกรณ์ถ่ายภาพพังเสียหายและถูกยึดกล้องกับโน้ตบุ๊คไป

       ทั้งนี้ สภาทนายความจะนำสื่อมวลชนที่ถูกตำรวจทำร้ายร่างกายระหว่างมีการปะทะกันช่วง การชุมนุมไปร้องเรียนกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในวันที่ 29 พ.ย. นี้

       ร.ต.อ.พูวิศกล่าวว่า หลังสอบปากคำเบื้องต้นแล้วจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น