วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ปชป.ขาย ‘ความจริง’หรือขาย ‘ความกลัว’

http://www.thairath.co.th/media/content/2013/02/20/327919/o3/420.jpg



          แม้ยังไม่ใช่เวทีสุดท้าย แต่ชัดเจนว่าอีก 5 วันที่เหลือพรรคประชาธิปัตย์จะใช้วิธีวาดความกลัว ขายความกลัว กับคนกรุงเทพฯ เพื่อให้หันมาเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 16 แทนการเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย

         เวทีปราศรัยเมื่อค่ำวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยประโยคเผาบ้านเผาเมืองเพื่อกระตุ้นคนเมืองหลวงให้คิดถึงภาพเก่าๆ เมื่อปี 2553 เพื่อผูกโยงไปถึงพรรคเพื่อไทย และกระทบชิ่งไปถึง พล.ต.อ.พงศพัศ แม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้แต่ลูกพี่ใหญ่อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ก็เอากับเขาด้วย

 
       นายชวนปราศรัยตอนหนึ่งว่า “...ใครสั่งเผาบ้านเผาเมือง ไม่สามารถนิรโทษกรรมหรือhttp://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3568532.0;attach=1138783;imageมาสั่งลดโทษตัวเองได้ ดังนั้น ประชาชนต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกพรรคไหน บ้านเมืองต้องมีรอยต่อ อย่าให้ใครกินรวบ ซึ่งรอยต่อหมายถึงระบบการตรวจสอบ คานอำนาจ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้ขอบเขต ไม่ใช้อำนาจข้ามกัน...”

เผาเมืองบ้านเมืองต้องมีรอยต่อเพื่อคานอำนาจ คือมุมมองของนายชวน ซึ่งอาจต่างจากการมีรอยต่อแบบขัดแข้งขัดขาจนงานไม่เดินในมุมมองของประชาชน

 

http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3623643.0;attach=1173835;image         ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า “...การที่กลุ่มรัฐบาลไม่ให้พูดเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้น ก็เพราะเป็นเรื่องที่แทงใจดำ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ฝ่ายรัฐบาลคงคิดว่าคนกรุงเทพฯลืมไปแล้ว ซึ่งอยากจะบอกว่าวันนี้เราลืมไม่ได้ เพราะในอนาคตรัฐบาลจะเอากรุงเทพฯเป็นตัวประกัน และนำกรุงเทพฯมาสู่สมรภูมิอีกครั้ง...

...หากคนของรัฐบาลจริงใจ ทำไมไม่เคยได้ยินคำขอโทษเลย และในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง
ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็เป็นตำรวจอยู่ จึงอยากถามว่าทำไมไม่ออกมาทำอะไรเพื่อคนกรุงเทพฯบ้าง ซึ่งหากวันนี้ชาวกรุงเทพฯยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกใคร ก็ขอให้ดูว่าใครจริงใจมากกว่ากัน...”

         ประโยคที่ว่า หากคนของรัฐบาลจริงใจ ทำไมไม่เคยได้ยินคำขอโทษเลย ก็มีเสียงสะท้อนกลับเหมือนกันว่า

       รัฐบาลที่บริหารสถานการณ์จนมีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ทำไมไม่คิดขอโทษประชาชนบ้าง

ขณะที่ประโยคที่ว่า ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็เป็นตำรวจอยู่ จึงอยากถามว่าทำไมไม่ออกมาทำอะไรเพื่อคนกรุงเทพฯบ้าง

         ก็มีคำถามกลับเช่นกันว่า คนพูดไม่รู้หรือว่ารัฐบาลที่ตัวเองร่วมนั่งบริหารอยู่ด้วยนั้นตั้งใจใช้ กำลังทหารกับผู้ชุมนุมเป็นหลัก และการเป็นตำรวจก็ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ได้ เพราะต่างมีบทบาทตามตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง

        ข้ามมาถึงหัวหน้าพรรคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังปราศรัยถึงการเผาบ้านเผาเมือง และยกย่อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่กล้าขัดแย้งกับรัฐบาลเพื่อคนกรุงเทพฯในช่วงน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554  ชัดเจนว่าไม่ได้ไยดีต่อความเดือดร้อนของคนนนทบุรี ปทุมธานี บางส่วนของนครปฐม หรือแม้แต่คนที่อยู่ชายขอบของกรุงเทพฯ อย่างฝั่งธนบุรี หนองจอก ดอนเมือง ที่ต้องจมน้ำนานนับเดือน

        คนชายขอบของกรุงเทพฯเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากความกล้าขัดแย้งกับรัฐบาลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่ทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก

        บางทีการปราศรัยโดยบิดประเด็นเพื่อเอาดีใส่ตัวโยนชั่วใส่คนอื่นก็ใช่ว่า จะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะความน่าเชื่อถือขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้พูด

      คำพูดของคนในพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่วันนี้ถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือ อยู่ในระดับเดียวกันกับ ส.ส.วัชระ เพชรทอง ที่หน้าแหกจากการเอารูป น.ส.อามีนา กูล หรือไอซ์ ดารา มาโมเมแถลงข่าวเป็นลูกสาวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

       ข้อเท็จจริงของรัฐบาลที่บริหารสถานการณ์จนมีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน


       ข้อเท็จจริงในความเดือดร้อนของคนชายขอบกรุงเทพฯจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ เพราะความไม่ร่วมมืออย่างจริงใจในการแก้ปัญหาของผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์

เหล่านี้ต่างหากคือ “ความจริง” ที่คนกรุงเทพฯ...ต้องรู้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น