วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

ประชาธิปัตย์สไตล์ เห็นท่าไม่ดีโดดหนีม็อบยาง

ประชาธิปัตย์สไตล์ เห็นท่าไม่ดีโดดหนีม็อบยาง 



        เป็นอันยืนยันชัดเจนแล้ว ว่าม็อบชาวสวนยางพาราไม่ได้ในสิ่งที่ร้องขอ ไม่ว่าจะประกันราคากก.ละ 120 บาท หรือต้องไม่ต่ำกว่า 100 บาท

        ล่าสุดมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ( กนย.) ยืนยันข้อเสนอเดิมคือ ช่วยเหลือปัจจัยการผลิตไร่ละ 1260 บาท  แต่ยอมขยายพื้นที่จากเดิมให้แค่ 10 ไร่ เป็น 25 ไร่ โดยรัฐบาลจ่ายให้เป็นเงินสด ไม่ได้จ่ายเป็นปุ๋ยอย่างที่ไปบิดเบือนสร้างข่าวให้เกิดความเข้าใจผิดในพื้นที่

       ส่วนใครได้รับแล้ว จะเอาเงินไปซื้อปุ๋ย ผ่อนรถ ผ่อนไอโฟน หรือใช้ทำอะไรก็แล้วแต่สะดวก รัฐบาลไม่ได้มีเงื่อนไขห้าม  โดยชาวสวนยางจะได้รับเงินส่วนนี้ 13,500 บาท นาน 7 เดือน ไม่รวมราคายางที่กรีดขายได้กำไรอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าได้ไม่มากเหมือนก่อน

         ราคารับซื้อยางที่ตลาดกลางจังหวัดสงขลา ณ วันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ราคายางแผ่นดิบรับซื้อกิโลกรัมละ 78.13 บาท ราคายางแผ่นรมควันกิโลกรัมละ 79.19 บาท และยางดิบกิโลกรัมละ 72.50 บาท


         ขณะที่ต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบเฉลี่ยไม่เกินกิโลกรัมละ 60 บาท โดยต้นทุนค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยกิโลกรัมละไม่เกิน 60 % หรือประมาณ 36 บาท

         ขณะนี้การชุมนุมของชาวสวนยางหลายพื้นที่ยุติลงไปแล้ว ยังเหลืออยู่บางพื้นที่ ก็ต้องคิดตามดูกันต่อไปว่าแกนนำจะเอาอย่างไรต่อ เพราะประกาศเอาไว้แล้วว่า หากไม่ได้ตามต้องการจะยกระดับการชุมนุมล้อมอำเภอ ล้อมศาลากลาง ปิดถนนฯลฯ

          แต่เมื่อดูตามสถานการณ์แล้ว น่าจะฝ่อ จำนวนคนร่อยหรอลงเรื่อยๆ เพราะส่วนใหญ่อยู่กับโลกความเป็นจริง ไม่เรียกร้องสุดโต่งในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พอใจกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล

         ที่สำคัญการชุมนุมปิดถนนที่ผ่านมามีแรงสะเทือนกลับในทางลบเกิดขึ้นไม่น้อย และยิ่งนำพฤติกรรมการแสดงออกของชาวสวนยางไปเปรียบเทียบชาวสวนยางในภาคอื่น ก็ยิ่งทำให้ความชอบธรรมในการชุมนุมลดน้อยลงตามลำดับ

         โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ชาวสวนยางอีสานกินข้าวเหนียวกับน้ำปลาก็อยู่ได้แล้ว แต่คนใต้ไม่โง่” ยิ่งทำให้คนทั่วไปรู้สึกแย่

        ครั้นจะยืมมือชาวสวนปาล์มน้ำมันมาเติมม็อบ ก็ต้องออกแรงกล่อมกันเหนื่อย เพราะราคาที่ขายได้ในปัจจุบันกิโลกรัมละ 4-4.20 บาท ยังพออยู่กันได้ไม่เดือดร้อน แถมแนวโน้มราคาในตลาดโลกช่วงนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นอีกต่างหาก


         เมื่อสวนยางตัวจริงส่วนใหญ่ยอมรับได้กับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ชาวสวนปาล์มไม่ออกมาเคลื่อนไหว กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ จึงถูกสปอตไลท์ส่องชัดถีงเป้าหมายของการชุมนุม

         เมื่อถูกสปอตไลท์ส่องชัด การจะอาระวาดทำอะไรอย่างที่คิดก็ยิ่งเป็นเรื่องยาก

         หนึ่งยากเพราะคนน้อย อีกหนึ่งเพราะความชอบธรรมกลับไปอยู่ในมือรัฐบาลที่จะตัดสินใจเข้าดำเนินอย่างใดอย่างหนึ่งได้หากมีการยึดสถานที่ราชการ หรือปิดสนามบิน

        เมื่อเห็นท่าไม่ดี ที่คิดว่าจะได้ประโยชน์ทางการเมืองจากม็อบชาวสวนยางก็ต้องโดดหนีและชี้มือโทษไปที่รัฐบาลปลุกม็อบขึ้นมาเอง


        นายอภิชาต การิกาญจน์ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่า มีชาวบ้านให้ปากคำ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งลงพื้นที่ไปตรวจสอบและบอกว่า ม็อบที่ปิดถนนครั้งแรกเป็นม็อบของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ 

       อ้างไปอีกว่า ปลุกม็อบขึ้นมาปิดถนนที่นครศรีธรรมราชเพื่อสกัดกั้นไม่ให้อีกฝ้ายขนคนมาเติมม็อบต่อต้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรมในช่วงวันที่ 5-7 ส.ค.ที่ผ่านมา

บอกชัดว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง ...
 เข้าทางเพื่อไทย อิอิ  แก้ปัญหาแล้ว ปชป ยิ่งติดลบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น