|
ประชาธิปัตย์สไตล์ เห็นท่าไม่ดีโดดหนีม็อบยาง
เป็นอันยืนยันชัดเจนแล้ว ว่าม็อบชาวสวนยางพาราไม่ได้ในสิ่งที่ร้องขอ ไม่ว่าจะประกันราคากก.ละ 120 บาท หรือต้องไม่ต่ำกว่า 100 บาท
ล่าสุดมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ( กนย.) ยืนยันข้อเสนอเดิมคือ ช่วยเหลือปัจจัยการผลิตไร่ละ 1260 บาท แต่ยอมขยายพื้นที่จากเดิมให้แค่ 10 ไร่ เป็น 25 ไร่ โดยรัฐบาลจ่ายให้เป็นเงินสด ไม่ได้จ่ายเป็นปุ๋ยอย่างที่ไปบิดเบือนสร้างข่าวให้เกิดความเข้าใจผิดในพื้นที่
ส่วนใครได้รับแล้ว จะเอาเงินไปซื้อปุ๋ย ผ่อนรถ ผ่อนไอโฟน หรือใช้ทำอะไรก็แล้วแต่สะดวก รัฐบาลไม่ได้มีเงื่อนไขห้าม โดยชาวสวนยางจะได้รับเงินส่วนนี้ 13,500 บาท นาน 7 เดือน ไม่รวมราคายางที่กรีดขายได้กำไรอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าได้ไม่มากเหมือนก่อน
ราคารับซื้อยางที่ตลาดกลางจังหวัดสงขลา ณ วันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ราคายางแผ่นดิบรับซื้อกิโลกรัมละ 78.13 บาท ราคายางแผ่นรมควันกิโลกรัมละ 79.19 บาท และยางดิบกิโลกรัมละ 72.50 บาท
ขณะที่ต้นทุนการผลิตยางแผ่นดิบเฉลี่ยไม่เกินกิโลกรัมละ 60 บาท โดยต้นทุนค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยกิโลกรัมละไม่เกิน 60 % หรือประมาณ 36 บาท
ขณะนี้การชุมนุมของชาวสวนยางหลายพื้นที่ยุติลงไปแล้ว ยังเหลืออยู่บางพื้นที่ ก็ต้องคิดตามดูกันต่อไปว่าแกนนำจะเอาอย่างไรต่อ เพราะประกาศเอาไว้แล้วว่า หากไม่ได้ตามต้องการจะยกระดับการชุมนุมล้อมอำเภอ ล้อมศาลากลาง ปิดถนนฯลฯ
แต่เมื่อดูตามสถานการณ์แล้ว น่าจะฝ่อ จำนวนคนร่อยหรอลงเรื่อยๆ เพราะส่วนใหญ่อยู่กับโลกความเป็นจริง ไม่เรียกร้องสุดโต่งในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พอใจกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล
ที่สำคัญการชุมนุมปิดถนนที่ผ่านมามีแรงสะเทือนกลับในทางลบเกิดขึ้นไม่น้อย และยิ่งนำพฤติกรรมการแสดงออกของชาวสวนยางไปเปรียบเทียบชาวสวนยางในภาคอื่น ก็ยิ่งทำให้ความชอบธรรมในการชุมนุมลดน้อยลงตามลำดับ
โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ชาวสวนยางอีสานกินข้าวเหนียวกับน้ำปลาก็อยู่ได้แล้ว แต่คนใต้ไม่โง่” ยิ่งทำให้คนทั่วไปรู้สึกแย่
ครั้นจะยืมมือชาวสวนปาล์มน้ำมันมาเติมม็อบ ก็ต้องออกแรงกล่อมกันเหนื่อย เพราะราคาที่ขายได้ในปัจจุบันกิโลกรัมละ 4-4.20 บาท ยังพออยู่กันได้ไม่เดือดร้อน แถมแนวโน้มราคาในตลาดโลกช่วงนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นอีกต่างหาก
เมื่อสวนยางตัวจริงส่วนใหญ่ยอมรับได้กับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ชาวสวนปาล์มไม่ออกมาเคลื่อนไหว กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ จึงถูกสปอตไลท์ส่องชัดถีงเป้าหมายของการชุมนุม
เมื่อถูกสปอตไลท์ส่องชัด การจะอาระวาดทำอะไรอย่างที่คิดก็ยิ่งเป็นเรื่องยาก
หนึ่งยากเพราะคนน้อย อีกหนึ่งเพราะความชอบธรรมกลับไปอยู่ในมือรัฐบาลที่จะตัดสินใจเข้าดำเนินอย่างใดอย่างหนึ่งได้หากมีการยึดสถานที่ราชการ หรือปิดสนามบิน
เมื่อเห็นท่าไม่ดี ที่คิดว่าจะได้ประโยชน์ทางการเมืองจากม็อบชาวสวนยางก็ต้องโดดหนีและชี้มือโทษไปที่รัฐบาลปลุกม็อบขึ้นมาเอง
นายอภิชาต การิกาญจน์ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่า มีชาวบ้านให้ปากคำ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งลงพื้นที่ไปตรวจสอบและบอกว่า ม็อบที่ปิดถนนครั้งแรกเป็นม็อบของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์
อ้างไปอีกว่า ปลุกม็อบขึ้นมาปิดถนนที่นครศรีธรรมราชเพื่อสกัดกั้นไม่ให้อีกฝ้ายขนคนมาเติมม็อบต่อต้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรมในช่วงวันที่ 5-7 ส.ค.ที่ผ่านมา
บอกชัดว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง ...
เข้าทางเพื่อไทย อิอิ แก้ปัญหาแล้ว ปชป ยิ่งติดลบ |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น