เวียดนามออกกฎห้ามผู้ใช้เน็ตพูดคุยเหตุการณ์บ้านเมือง และให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตต่างชาติวางเซิร์ฟเวอร์ในเวียดนาม มีผลบังคับใช้แล้ว ก.ย.นี้
รัฐบาลเวียดนามออกคำสั่ง ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "กฤษฎีกา 72" (Decree 72) มีเนื้อหา ห้ามการใช้บล็อกและโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารบ้านเมือง โดยให้ใช้เฉพาะพูดคุยเรื่องส่วนตัวเท่านั้น รวมถึงห้ามการเผยแพร่เนื้อหาที่ต่อต้านรัฐบาลเวียดนาม หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติบนออนไลน์ และยังกำหนดให้บริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตวางเซิร์ฟเวอร์ในเวียดนามด้วย
กฤษฎีกาดังกล่าวถูกประกาศเมื่อ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ภายใต้พรรคการเมืองพรรคเดียว โดยทางการยังคงควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด ในปีนี้ มีนักกิจกรรมหลายสิบคน ซึ่งรวมถึงบล็อกเกอร์ ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานต่อต้านรัฐ
เมื่อเดือนก่อน สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อบทบัญญัติดังกล่าว โดยยืนยันว่า เสรีภาพขั้นพื้นฐานนั้นได้รับการรับรองในออนไลน์ เช่นเดียวกับออฟไลน์
ด้านองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ระบุว่า กฤษฎีกาดังกล่าวจะทำให้ชาวเวียดนามสูญเสียข้อมูลข่าวสารที่เป็นอิสระและตรงไปตรงมา ซึ่งเคยไหลเวียนในบล็อกและฟอรัมต่างๆ อย่างถาวร
ขณะที่ สหพันธ์อินเทอร์เน็ตแห่งเอเชีย หรือ the Asia Internet Coalition ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมไอที ที่มีกูเกิล และเฟซบุ๊ก รวมอยู่ด้วย ระบุว่า ในระยะยาว กฤษฎีกานี้จะยับยั้งการเกิดนวัตกรรมและกีดกันธุรกิจต่างๆ จากการดำเนินการในเวียดนาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น