วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กลุ่มรมต.ต่างประเทศ EU แถลงระงับหมายเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาไทย



            เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า สหภาพยุโรป หรืออียู กลุ่มรัฐมนตรีต่างประเทศอียู ออกแถลงการณ์จากที่ประชุมสภาสหภาพยุโรป (COUN CIL OF THE EUROPEA N U NIO N) ที่ประเทศลักเซมเบิร์ก ถึงปฏิกิริยาล่าสุดที่มีต่อไทย โดยประณามการยึดอำนาจ และให้ระงับหมายเยือนของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่จะมาประเทศไทย และระงับการลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือกับประเทศไทย

             รัฐมนตรีต่างประเทศอียูยังแสดงความวิตกกังวลสูงสุดต่อความเคลื่อนไหวต่างๆในไทยและขอให้ฟื้นฟูกระบวนการทางประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญผ่านการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมโดยด่วนนอกจากนี้ ควรปล่อยผู้ถูกกักกันทางการเมือง เคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ

            ในแถลงการณ์ระบุว่าด้วยว่า อียูจะทบทวนความสัมพันธ์ทางทหารต่อไป และยืนยันว่า ไทยต้องจัดทำโรดแม็ปที่เชื่อถือได้ว่าจะหวนไปใช้การปกครองตามรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งที่เชื่อถือได้และครอบคลุมเท่านั้น อียูจึงจะปรับระดับความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับไทย

          อย่างไรก็ตาม ผลสรุปการประชุมของคณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปเกี่ยวกับประเทศไทย ณ กรุงลักเซมเบิร์ก วันที่ 23 มิถุนายน 2557 ฉบับเต็ม ระบุ ดังนี้

  • 1. สหภาพยุโรปและประเทศไทยมีความผูกพันแน่นแฟ้นต่อกันมาเป็นเวลานานทั้งในด้านการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่าย
  • 2. ด้วยเหตุนี้ ทางคณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปจึงได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาด้วยความกังวลเป็นอย่างยิ่งคณะรัฐมนตรีฯ ได้เรียกร้องให้ผู้นำทหารดำเนินการเรื่องที่เร่งด่วนที่สุดในการคืนสู่กระบวนการทางด้านประชาธิปไตยที่มีความชอบธรรมและคืนการปกครองตามหลักรัฐธรรมนูญผ่านทางการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและทุกฝ่ายมีส่วนร่วมคณะรัฐมนตรีฯ ยังได้ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุด โดยจะต้องให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและยึดมั่นต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีฯ ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวทางการเมืองทั้งหมด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจับกุมที่มีเหตุผลทางการเมืองและยกเลิกการควบคุมสื่อ
  • 3. การประกาศของผู้นำทหารที่ผ่านมาไม่นานนั้น ยังไม่ได้ให้หลักประกันที่น่าเชื่อถือในการกลับคืนสู่การปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ อันเป็นสิ่งจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ จะต้องให้สถาบันทางด้านประชาธิปไตยต่างๆ สามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่เพื่อเป็นหลักประกันการคุ้มครองและสวัสดิภาพของประชาชนทุกคน
  • 4.ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว สหภาพยุโรปมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนการทำงาน โดยให้มีการระงับการเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างกัน สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกจะไม่ลงนามในกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ (Partnership and Cooperation Agreement) กับประเทศไทย จนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และความตกลงอื่นๆ จะได้รับผลกระทบตามสมควร โดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้เริ่มทบทวนความร่วมมือทางทหารกับประเทศไทย
  • 5. การมีแผนดำเนินการที่น่าเชื่อถือในการกลับสู่การปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญโดยเร็ว การมีการเลือกตั้งอันน่าเชื่อถือและทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างจริงจังเท่านั้นที่จะสามารถทำให้สหภาพยุโรปให้การสนับสนุนต่อไปได้คณะรัฐมนตรีฯ จึงได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการทบทวนความสัมพันธ์กับประเทศไทยและอาจพิจารณาดำเนินมาตรการอื่นๆ ต่อไปตามสถานการณ์”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น