คำสั่งหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ฯ ให้ปลดและถอดยศ พ.ต.ณัฐพล-จ.ส.อ.สิทธิศักดิ์ และคำสั่งสำนักพระราชวังไล่นายณรงค์ ออกจากราชการ หลังทั้ง 3 ถูกจับกุมในข้อกล่าวหาอ้างเบื้องสูงทวงหนี้ ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนกักขัง หน่วงเหนี่ยว โดย ผบ.ตร. ระบุว่าขยายผลจากการจับกุม "เดอะกิ๊ก" อดีต ผบช.ก. คดีส่วยน้ำมันเถื่อน
30 พ.ย. 2557 - เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2557 เว็บไซต์สำนักข่าวไทย เผยแพร่คำสั่งหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เลขที่ 656/2557 เรื่อง ให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรและถอดออกจากว่าที่ยศ และ เลขที่ 657/2557 เรื่อง ให้ปลดนายทหารประทวนและถอดออกจากยศทหาร ได้แก่ ว่าที่ พ.ต.ณัฐพล อัครพงศ์ปรีชา ผู้ช่วยนายทหารธุรการ กองบังคับการสำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ จ.ส.อ.สิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา เสมียน กองบังคับการสำนักงานฝ่ายเสนาธิการ ในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
โดย พ.ต.ณัฐพล ให้ออกจากราชการ โดยไม่มีเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ พ้นราชการทหารประเภทที่ 2 และถอดออกจากว่าที่ยศทหาร เนื่องจากกระทำความผิดวินัยทหาร ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ผิดกฎหมายบ้านเมือง ส่วน จ.ส.อ.สิทธิศักดิ์ ให้ออกจากราชการ โดยไม่มีเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ คงเป็นนายสิบกองหนุน ประเภทที่ 1 ชั้นที่ 1 สังหัด จทบ.ก.ท. และถอดออกจากยศทหาร เนื่องจากกระทำความผิดวินัยทหาร ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ผิดกฎหมายบ้านเมือง
ขณะเดียวกันมีคำสั่งสำนักพระราชวัง ที่ 468/2557 เรื่อง ลงโทษไล่ข้าราชการออกจากราชการ ลงนามโดย นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองเลขาธิการพระราชวัง รักษาราชการแทน เลขาธิการพระราชวัง โดยระบุว่า นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งเจ้าพนักงานในพระองค์ ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส เลขที่ตำแหน่ง 926 งานต่างประเทศ ฝ่ายราชเลขานุการ กองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ได้รกะทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยมีกรณีความผิดกล่าวคือ สำนักพระราชวังได้รับรายงานจากกองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2557 ว่านายณรงค์ ได้แอบอ้างพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เพื่อหาประโยชน์ส่วนตน การกระทำดังกล่าวทำให้ไม่เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ในการนี้ มีพระราชบัณฑูรให้ลงโทษไล่ นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชาออกจากราชการ สำนักพระราชวังพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของ นายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา เป็นความผิดวินัยฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันเป็นความผิดตามมาตรา 85 (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 จึงเห็นสมควรลงโทษไล่ออกจากราชการ
ทั้งนี้นายณัฐพล นายสิทธิศักดิ์ และนายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา เป็น 3 ใน 5 ผู้ต้องหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยายผลจากการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และพวก ในคดีเรียกรับสินบน และแอบอ้างเบื้องสูง จากรายงานของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่า ตำรวจได้ขยายผลการจับกุมเครือข่ายเพิ่มเติมอีก 5 คน ได้แก่ นายณัฐพล นายสิทธิศักดิ์ และนายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา นายสุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ และนายชากานต์ ภาคภูมิ โดยต่อมาทั้งหมดถูกตั้งข้อหา มีความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือเสรีภาพ โดยมีอาวุธ ซึ่งร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่น
โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย. มีการนำตัวมาขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง ฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน โดยถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง (1), (2)
อนึ่ง ไทยรัฐออนไลน์ รายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ถึงกรณีที่กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทำหนังสือ ประกาศหนังสือยกเลิกชื่อนามสกุล "อัครพงศ์ปรีชา" ว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว ซึ่งผู้ที่เคยได้รับการพระราชทานนามสกุลดังกล่าว ก็ต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม คือ "เกิดอำแพง" และกระบวนการต่อไป ทางกระทรวงมหาดไทยจะต้องไปดำเนินการถอดถอนต่อไป (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ควบคุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้ต้องหาคดีส่วยน้ำมันเถื่อน จากศาลอาญา รัชดาภิเษก มาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังศาลอนุญาตให้ฝากขัง และไม่อนุญาตให้ประกันตัว ตามที่พนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น