‘ศักดิชัย บำรุงพงศ์’ เจ้าของนามปากกา ‘เสนีย์ เสาวพงศ์’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2533 ผู้เขียนนิยายเรื่อง ‘ปีศาจ’ เสียชีวิตแล้ว
29 พ.ย.2557 เมื่อเวลา 16.42 น. เฟซบุ๊ก ‘ซาร่า ปทุมรส’ บุตรของ ศักดิชัย บำรุงพงศ์ หรือนามปากกา ‘เสนีย์ เสาวพงศ์’ นักการทูต นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ และศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2533 โดยซาร่าได้โพสต์ภาพประกอบข้อความระบุว่าบิดาตนเองเสียชีวิตลงแล้ว
ศักดิชัย เริ่มเป็นนักการทูตในต่างประเทศ ใช้ชีวิตอยู่ในรัสเซีย (2490-2497) อาร์เจนตินา (2498-2503) อินเดีย (2505-2508) ออสเตรีย (2511-2515) อังกฤษ (2516-2518) ได้เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเอธิโอเปีย เมื่อ พ.ศ. 2518 และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศพม่า เมื่อ พ.ศ. 2521 หลังเกษียณอายุ ศักดิชัย บำรุงพงศ์ รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาในเครือมติชน และมีงานเขียนนวนิยาย "คนดีศรีอยุธยา" (2524) "ใต้ดาวมฤตยู" (2526) และเขียนบทความประจำในหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ได้รับการเชิดชูเกียรติ รางวัลศรีบูรพาคนแรก ในปี พ.ศ. 2531 รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2533 และรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2541
ศักดิชัย บำรุงพงศ์ สมรสกับเครือพันธ์ ปทุมรส เมื่อ พ.ศ. 2496 มีบุตรธิดา 4 คน โดยเครือพันธ์ พึงเสียชีวิตไปเมื่อ ก.ค.ที่ผ่านมา
นามปากกา ‘เสนีย์ เสาวพงศ์’ เป็นที่รู้จักมากกับงานเขียนนิยายเรื่อง ปีศาจ โดยเฉพาะคำพูดเรื่อง ‘ปีศาจแห่งกาลเวลา’ ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของสักคมกับการพยามเหนี่ยวรั้งการเปลี่ยนแปลงของสังคมนำไปสู่สิ่งที่ สาย สีมา ตัวเอกของเรื่องเรียกว่า ‘ความละเมอหวาดกลัว’ โดย สาย สีมา กล่าวต่อหน้าสมาคมของชนชั้นสูงว่า
"...สำหรับท่านที่อยู่ในปราสาทนั้นไม่จำเป็นจะต้องแตะต้อง เพราะอย่างไรก็จะต้องเสื่อมสลายไปตามเวลา ท่านไม่สามารถจะยับยั้งความเปลี่ยนแปลงแห่งกาลเวลาได้ดอก เมื่อคืนวันเวลาล่วงไป ของเก่าทั้งหลายก็นับวันจะเข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ยิ่งขึ้นท่านเข้าใจผิดที่คิดว่าผมจะลอกคราบตัวเองขึ้นเป็นผู้ดี เพราะนับเป็นการถอยหลังกลับ เวลาได้ล่วงไปมากแล้วระหว่างโลกของท่านกับโลกของผมมันก็ห่างกันมากมายออกไปทุกที ผมเป็นปีศาจที่กาลเวลาได้สร้างขึ้นมาหลอกหลอนคนที่อยู่ในโลกเก่า ความคิดเก่า ทำให้เกิดความละเมอหวาดกลัวและไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องปลอบใจท่านเหล่านี้เท่ากับไม่มีอะไรหยุดยั้งความรุดหน้าของกาลเวลาที่จะสร้างปีศาจเหล่านี้ให้มากขึ้นทุกที ท่านคิดจะทำลายปีศาจตัวนี้ในคืนวันนี้ต่อหน้าสมาคมชั้นสูงเช่นนี้แต่ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะเขาอยู่ยงคงกะพันยิ่งกว่าอคิลลิสหรือซิกฟรีด เพราะเขาอยู่ในเกราะกำบังแห่งกาลเวลา"
สัมภาษณ์เสนีย์ โดย Bookmoby Com เมื่อปี 55
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้โพสต์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของศักดิ์ชัย ด้วยดังนี้
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของคุณเสนีย์ เสาวพงศ์ (ศักดิ์ชัย บำรุงพงศ์) หนึ่งในนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของไทย
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คุณเครือพันธ์ ปทุมรส-บำรุงพงศ์ ภรรยาคุณศักดิ์ชัย ถึงแก่กรรม ในขณะนั้น ผมอยู่ในระหว่างระหกระเหเร่ร่อน ก็ตกใจเมื่อทราบข่าว และเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ร่วมแสดงความไว้อาลัย
ผมและภรรยา รู้จักกับครอบครัวคุณ เสนีย์-เครือพันธ์ ผ่านทาง "จ๊ะ" ศรัญยา บำรุงพงศ์ (ภรรยาอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียคนที่แล้ว) ซึ่งเป็นรุ่นน้องรัฐศาสตร์ (และประธานนักศึกษาคณะ) ต่อจากภรรยาผม เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้พบทั้งคุณศักดิ์ชัย และคุณเครือพันธ์ ด้วยตัวเอง
แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ระหว่างที่ผมทำการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับกรณีสวรรคต เพือเขียนบทความ "50 ปี การประหารชีวิตกรณีสวรรคต" ผมได้มีโอกาสโทรศัพท์พูดคุยขอข้อมูลจากคุณเครือพันธ์ ที่เป็นบุตรสาวคุณเฉลียว ปทุมรส หนึงในสามผู้บริสุทธิ์คดีสวรรคตที่ถูกทำร้ายอย่างไม่ยุติธรรม คุณเครือพันธุ์ได้ให้ความเมตตา พูดคุยให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เป็นพระคุณต่อผมอย่างมาก เมื่อปีที่แล้ว (2556) ผมยังได้มีโอกาสโทรศัพท์ไปหาคุณเครือพันธ์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อพูดคุยสอบถามข้อมูลอีกบางอย่างทีนักเขียนบางท่านเสนอเกี่ยวกับกรณีสวรรคตอีก ขณะนั้นคุณเครือพันธ์ชราและสุขภาพไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังเมตตาพูดคุยกับผม และยังบอกด้วยว่า คุณศักดิ์ชัย ก็สุขภาพไม่ดี ชรามาก ซึงผมก็ได้แต่ฝากความเคารพและความห่วงใย
ผมไม่เคยได้พบตัว "เสนีย์ เสาวพงศ์" ตัวจริง แต่ "ปีศาจ" ของเสนีย์ เสาวพงศ์ เป็นแรงบันดาลใจอย่างสูงต่อผม และเพื่อนในรุ่นเดียวกันจำนวนมาก ตั้งแต่สมัยที่เรายังเป็นนักเรียน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้เราหันมาพยายามเปลี่ยนแปลงสังคม เราทุกคน และชีวิตวัฒนธรรมไทยสมัยใหม่ เป็น "หนี้" คุณศักดิ์ชัย มาจนทุกวันนี้
ด้วยความเคารพอย่างสูง
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
29 พฤศจิกายน 2557
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น