“ปานเทพ” ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ข้องใจไม่มีชื่อ “น.ต.ประสงค์-ปานเทพ” เป็นกรรมการร่วมเพื่อหาทางออกการสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ตามที่ได้มีการเสนอรายชื่อในสัดส่วนของคณะกรรมการที่มาจากภาคประชาชน
27 ก.พ. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผู้จัดรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” และคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีทีมงาน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับแทน ซึ่งดูแลรับผิดชอบในเรื่องของคณะกรรมการร่วมเพื่อหาทางออก การสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 เป็นการสอบถามถึงการตั้งคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ที่ไม่มีรายชื่อ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และนายปานเทพ ตามที่ได้มีการเสนอรายชื่อในสัดส่วนของคณะกรรมการที่มาจากภาคประชาชน ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดในการดำเนินการ จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจในทางเสียหายต่อนายกรัฐมนตรี ว่ามีความพยายามในการแทรกแซงการกำหนดตัวแทนภาคประชาชน
“อาจเป็นการทำลายบรรยากาศความจริงใจในการเจรจาหาทางออกให้กับประเทศ เพื่อการปฎิรูปพลังงานได้ เรื่องนี้จึงมีความสำคัญที่ต้องหาทางป้องกัน มิให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำซาก จึงขอให้ภาครัฐประสานงานกับภาคประชาชนอย่างใกล้ชิด และเคารพการตัดสินใจในการส่งตัวแทนของภาคประชาชน รวมถึงการรักษากติกาในการกำหนดตัวบุคคลให้เท่ากันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวว่า ที่มีการเลื่อนการเปิดสัปทานรอบที่ 21 ออกไป ทางเครือข่ายประชาชน เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคประชาชน 3 คณะ เพื่อทำงานคู่ขนานกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมในทุกประเด็น รวมถึงการจัดการแปลงปิโตรเลียมที่จะสิ้นสุดสัมปทานและแปลงปิโตรเลียมใหม่ข้างเคียงแปลงที่ดำเนินการผลิตแล้วในปัจจุบัน
27 ก.พ. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผู้จัดรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” และคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีทีมงาน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับแทน ซึ่งดูแลรับผิดชอบในเรื่องของคณะกรรมการร่วมเพื่อหาทางออก การสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 เป็นการสอบถามถึงการตั้งคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ที่ไม่มีรายชื่อ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และนายปานเทพ ตามที่ได้มีการเสนอรายชื่อในสัดส่วนของคณะกรรมการที่มาจากภาคประชาชน ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดในการดำเนินการ จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจในทางเสียหายต่อนายกรัฐมนตรี ว่ามีความพยายามในการแทรกแซงการกำหนดตัวแทนภาคประชาชน
“อาจเป็นการทำลายบรรยากาศความจริงใจในการเจรจาหาทางออกให้กับประเทศ เพื่อการปฎิรูปพลังงานได้ เรื่องนี้จึงมีความสำคัญที่ต้องหาทางป้องกัน มิให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำซาก จึงขอให้ภาครัฐประสานงานกับภาคประชาชนอย่างใกล้ชิด และเคารพการตัดสินใจในการส่งตัวแทนของภาคประชาชน รวมถึงการรักษากติกาในการกำหนดตัวบุคคลให้เท่ากันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวว่า ที่มีการเลื่อนการเปิดสัปทานรอบที่ 21 ออกไป ทางเครือข่ายประชาชน เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคประชาชน 3 คณะ เพื่อทำงานคู่ขนานกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมในทุกประเด็น รวมถึงการจัดการแปลงปิโตรเลียมที่จะสิ้นสุดสัมปทานและแปลงปิโตรเลียมใหม่ข้างเคียงแปลงที่ดำเนินการผลิตแล้วในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น