“การเลือกตั้งไม่ใช่แปลว่าเท่ากับประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยที่ไม่มีการเลือกตั้งไม่สามารถเรียกว่าประชาธิปไตยได้ ระบอบประชาธิปไตยอาศัยการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน ถ้าไม่มีกลไกนี้ วิธีการแสดงออกของประชาชนจะถูกตัดตอนไป ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นขั้นตอนพื้นฐาน ถ้าเราไม่นับ 1 ก็ไม่สามารถนับ 2 3 4 ต่อได้ ซึ่งจะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์” สมบัติ กล่าว
สมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อว่า บ.ก.ลายจุดกล่าวเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญอันจะนำไปสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ในรายการคืนความจริงประเทศไทย ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2
สมบัติ กล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับการปฏิรูป เพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่หลายคนนำเอาการปฏิรูปมาเป็นข้ออ้างเพื่อไม่ให้เกิดการเลือกตั้ง การปฏิรูปที่ดีต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการประชาธิปไตย เพราะสามารถดำเนินการไปพร้อมๆ กับการเลือกตั้งได้ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจากนี้การปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งยังทำให้พลังของการปฏิรูปลดทอนลง เพราะกลายเป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ล้มการเลือกตั้งอันนำไปสู่การประกาศให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ สมบัติกล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า เขาไม่เห็นด้วยที่ศาลตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ได้ล้มเอง แต่เกิดจากความพยายามทำให้ล้ม ซึ่งคนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำไปสู่การที่ให้ทหารเข้าแทรกแซงทางการเมือง โดยใช้การเลือกตั้งที่ล้มเหลวและการเผชิญหน้าทางการเมืองของคน 2 ฝ่ายมาเป็นข้ออ้างและเหตุผลที่ทำให้ทหารเข้ายึดอำนาจ
นอกจากนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะไม่สามารถดำเนินเลือกตั้งพร้อมกันทั้งหมดได้นั้น สมบัติมองว่าเป็นเรื่องไม่มีเหตุผล การเลือกตั้งควรจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ และให้ดำเนินการเลือกตั้งซ่อมแทน ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นองค์กรหนึ่งที่เป็นพันธมิตรกับฝ่ายที่ต้องการขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่ากฎหมายหรือหลักการประชาธิปไตยแต่ประการใด แต่เป็นเพราะว่าตัวบุคคลที่มีเจตจำนงที่ต้องการล้มการเลือกตั้ง
“พอเกิดรัฐประหารผมไม่คิดว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะแน่นอน และผมก็ไม่คิดว่าฝ่ายรัฐประหารชนะ เพราะว่าการที่ใช้วิธีรัฐประหารแปลว่าคุณไม่สามารถใช้วิธีการอื่นได้แล้ว เช่น บีบให้นายกลาออก ก็ทำไม่สำเร็จ จนสุดท้ายก็ทำการรัฐประหาร ซึ่งมีต้นทุนและเป็นเรื่องที่สังคมโลกไม่ยอมรับ ดังนั้นหากถามว่าฝ่ายรัฐประหารชนะหรือไม่ ผมไม่คิดว่าเป็นชัยชนะของรัฐประหารและไม่ใช่ชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยที่รอให้อีกฝ่ายมารัฐประหารได้สำเร็จเช่นกัน” สมบัติ กล่าว
สมบัติกล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกตั้งเป็นทางออกที่จะช่วยไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม หากฝ่ายหนึ่งต้องการเลือกตั้งและอีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการเลือกตั้งลงมาบนถนน สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือความรุนแรง
“พวกที่คิดขวางการเลือกตั้งและไม่ต้องการการเลือกตั้ง ผมเชื่อว่าคนพวกนี้เคยสนับสนุนและเคยออกไปเลือกตั้ง ผมเพียงหวังว่าคนเหล่านี้จะสามารถกลับมายืนในจุดเดิม ถึงแม้ว่าจะต้องต่อสู้กับความสง่าผ่าเผยของตัวเองในอนาคต แต่ผมหวังว่าคนเหล่านี้จะได้บทเรียนและกลับเข้ามาสู่การยอมรับในกระบวนการประชาธิปไตยในครั้งต่อไป ผมยินดีต้อนรับ” สมบัติ กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น