26 พ.ค.2558 ที่ศาลทหาร มีการสืบพยานนัดแรกในคดีที่วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ตกเป็นจำเลย ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ไม่มารายงานตัว โดยในวันนี้เป็นการสืบพยานโจทก์คือ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้นำตัววรเจตน์ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน
ภายในห้องพิจารณาคดีมีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรสิทธิ รวมถึงตัวแทนจากสถานทูตเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาด้วย ส่วนบุคคลอื่น รวมทั้งนักศึกษานิติศาสตร์ มธ.ที่มาให้กำลังใจวรเจตน์ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณศาล การสืบพยานใช้เวลา 1 ชม.เศษ โดยพ.อ.บุรินทร์ระบุว่า เขารับแจ้งจากผู้การร.11 ว่าวรเจตน์เดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศและเดินทางกลับมาแล้ว อยู่ค่ายทหารแห่งหนึ่งมาแล้ว 2 วัน ทางคสช.จึงได้ให้เขาไปรับตัวมาดำเนินคดี ระหว่างร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนง.สส. เขาไม่ทราบว่าภรรยาและเพื่อนอาจารย์ของวรเจตน์ได้แจ้งแก่ คสช.แล้วถึงเหตุการไปรักษาตัวยังต่างประเทศนั้น
จากนั้นวรเจตน์ได้เดินออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้านหน้าศาลทหาร โดยระบุว่า ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากที่ 2 ในวันที่ 21 ก.ค.นี้ โดยในวันนี้ศาลไม่ได้ชี้ชัดในประเด็นคำสั่ง คสช.ที่ 5/2557 ว่าอัยการฟ้องชอบหรือไม่ ตามที่จำเลยได้ร้องขอ แต่ให้ดูผลคำพิพากษารวมทีเดียว ทั้งนี้จำเลยถูกเรียกให้รายงานตัว 2 ครั้งในคำสั่ง คสช.ที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค.2557 และคำสั่งคสช.ที่ 57/2257 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2557 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเดียวโดยอ้างถึงคำสั่งหลังคือ คำสั่ง ที่ 57/2557 แต่อัยการได้ฟ้อง 2 ข้อหาคือ ขัดคำสั่งทั้งฉบับที่ 5 และ 57 ซึ่งฝ่ายจำเลยไม่เห็นด้วย และเห็นว่าเมื่อมีคำสั่งที่สองแล้วก็ควรมีผลยกเลิกคำสั่งแรก ไม่เช่นนั้นคดีนี้จะนับเป็นสองกรรม โทษจำคุกรวม 4 ปี แทนที่จะเป็น 2 ปี
ระหว่างเดินทางกลับ วรเจตน์ได้แวะที่ศาลหลักเมืองเพื่อรับพวงมาลัยและการให้กำลังใจจากนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มธ.ที่เดินทางมาจากศูนย์รังสิตตั้งแต่เช้าแต่เจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้เข้ามารอบริเวณศาลทหาร(อ่านรายละเอียด : คุยกับนักศึกษานิติศาสตร์ ในวันสืบพยาน ‘วรเจตน์’ ในศาลทหาร)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น