วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

'อาจารย์-ศิษย์เก่า-นศ.' ม.มหาสารคาม ออกแถลงการณ์ระบุต้องเคารพความเห็นต่าง


10 ก.ค. 2558 กลุ่มคณาจารย์ ศิษย์เก่า และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ออกแถลงการณ์กรณีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม แถลงข่าวที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดมหาสารคาม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แถลงการณ์กรณีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
แถลงข่าวที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดมหาสารคาม

ตามที่เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 เมื่อเวลา 11.30 น. ได้มีกลุ่มอาจารย์ นิสิตและนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามกลุ่มหนึ่งนำโดย ผศ.ดร.วิรัติ ปานศิลา ประธานสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ ผศ.สมาน ศรีสะอาด รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ กองบังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดมหาสารคาม และร่วมกันลงชื่อเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลยุติความเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. ตามที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชน
พวกเรา กลุ่มคณาจารย์ ศิษย์เก่า และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามที่มีรายชื่อข้างล่างนี้ ขอชี้แจงต่อสังคมดังต่อไปนี้
  • 1. เนื้อหาของการแถลงข่าวและมีการนำเสนอทางสื่อมวลชนระบุว่าเป็น“จุดยืนมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามไม่เห็นด้วยต้าน คสช.ทุกกรณี” พวกเราเห็นว่าการแถลงดังกล่าวเป็นจุดยืนส่วนตัวของอาจารย์และนิสิตที่เข้าร่วมในการแถลงไม่ใช่จุดยืนของคณาจารย์และนิสิตทั้งหมดในมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง เนื่องจากไม่เคยมีกระบวนการใดๆ ที่เป็นการสอบถามคณาจารย์และนิสิตทั้ง 2 มหาวิทยาลัยแต่อย่างใดดังนั้นบุคคลดังกล่าวจึงไม่สามารถอ้างว่าเป็นจุดยืนของมหาวิทยาลัยในทางกลับกัน การแถลงดังกล่าวคือพฤติกรรมการแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัย พวกเราจึงขอให้อาจารย์กลุ่มดังกล่าวยุติพฤติกรรมนั้นเพื่อไม่ให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและกระทบต่อมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
  • 2. ตามที่ รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ระบุในการแถลงข่าวตามที่ปรากฏในสื่อมวลชนว่า "การเคลื่อนไหวต่างๆ อาจถูกชักนำโดยครูอาจารย์ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ครูอาจารย์บางท่านมีเบื้องหลังผูกพันเกี่ยวกับนักการเมือง ผูกพันกับองค์การต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ไม่ว่ากลุ่มไหนมีความเกี่ยวข้องกันทั้งหมด" พวกเราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวเพราะปราศจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง และขอประณามพฤติกรรมที่เป็นการกล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสีดังกล่าว เพราะเป็นการละเมิดผู้อื่นที่เห็นต่างด้วยวิธีการที่ปัญญาชนโดยเฉพาะบุคคลที่เป็นอาจารย์ไม่ควรกระทำ
  • 3. ตามที่มีการเสนอตามสื่อมวลชนโดยอ้างการแถลงดังกล่าวระบุว่า “ซึ่งกลุ่มอาจารย์ หรือนิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านั้น ทั้งทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือในนามกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดก็ตาม ถือเป็นการกระทำส่วนบุคคล ทางมหาวิทยาลัยจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น” รวมทั้งที่แถลงว่า “จากนี้ไป 2 มหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่กำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย ไม่นิ่งเฉยเพิกเฉย” พวกเราเห็นว่า นอกจากเป็นการแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่มีสิทธิกล่าวอ้างว่าทางมหาวิทยาลัยจะรับผิดชอบหรือไม่รับผิดชอบ รวมทั้งไม่มีอำนาจในการกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ เพราะคณาจารย์ที่แถลงเหล่านั้นไม่ใช่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา และแม้ว่าเป็นผู้บังคับบัญชาก็ไม่สามารถกล่าวเช่นนั้นได้เพราะการแสดงออกทางการเมืองอย่างสันติเป็นสิทธิที่ชอบธรรม นอกจากนั้น การแถลงดังกล่าวยังถือว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีท่าทีที่คุกคามคณาจารย์ที่เห็นต่าง
  • 4. พวกเราขอยืนยันหลักการที่ว่าประชาธิปไตยไม่ใช่แค่เป้าหมายแต่เป็นกระบวนการด้วย ดังนั้น กระบวนการให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยจึงต้องเป็นประชาธิปไตยด้วยดังนั้น ทุกคนในสังคมจึงมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกทางการเมืองอย่างสันติ และถึงแม้ว่าคนในสังคมจะมีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน แต่สิทธินั้นก็ต้องได้รับความเคารพ


ด้วยความสมานฉันท์
คณาจารย์ ศิษย์เก่า และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
10 กรกฎาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น