1 ต.ค.2558 อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงท่าทีของพรรคเพื่อไทย ทีมีต่อกรณีการจัดตั้ง Single Gateway ระบุไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เชื่อว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี สุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงมีและควรได้รับการคุ้มครอง
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2558 ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและการไหลเข้าของข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยให้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องออกกฎหมายเพิ่มเติมก็ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปด้วยนั้น และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการจัดตั้ง Single Gateway ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยด่วนต่อไปต่อมาเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2558 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาตรการและโครงการสำคัญต่างๆ เร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ซึ่งมติดังกล่าวได้รวมถึงเรื่องการจัดตั้ง single gateway ที่ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2558ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบ รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนสิงหาคม 2558 และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเร่งรัดการดำเนินการเรื่องดังกล่าวและรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนกันยายน 2558 ต่อไปด้วยนั้นตามเหตุผลที่คณะรัฐมนตรีกล่าวอ้าง ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวภาครัฐจะสามารถควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จ สามารถคัดกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และปิดกั้นข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชน รวมถึงสามารถใช้คุณลักษณะของระบบเพื่อควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้อย่างสะดวก แต่โครงการดังกล่าวหากดำเนินการให้เกิดขึ้นจริง เชื่อได้ว่าจะส่งผลกระทบด้านลบอื่นๆตามมาหลายประการด้วยเช่นกัน เพราะจากข้อเท็จจริงที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จำนวนมากได้แสดงความเห็นไว้พบว่า เมื่อประเทศไทยเปลี่ยนวิธีการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศจากหลายช่องทางเป็นช่องทางเดียว ข้อมูลจำนวนมากย่อมไหลเข้าออกในช่องทางเดียว เมื่อไรก็ตามที่ปริมาณข้อมูลมีจำนวนมาก เมื่อนั้นย่อมส่งผลให้ความเร็วในการให้บริการอินเทอร์เน็ตลดลง และเมื่อไรก็ตามที่ช่องทางสื่อสารช่องทางเดียวเกิดปัญหาทางเทคนิคหรือ gateway ล่มใช้งานไม่ได้ ความผิดพลาดดังกล่าวอาจส่งผลให้ระบบอินเทอร์เน็ตล่มทั้งประเทศ และถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ในลักษณะนี้ย่อมส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อภาคธุรกิจ ผู้ลงทุนทั้งหลายทั้งในและนอกประเทศย่อมขาดความมั่นใจและเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้บริการระบบอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยอาจขาดโอกาสที่จะยกระดับขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน นอกจากนั้นการที่ประเทศไทยเปลี่ยนไปใช้ระบบการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศช่องทางเดียว หากผู้มีอำนาจดำเนินการควบคุมข้อมูลต่างๆอย่างไม่เป็นระบบและขาดมาตรฐานที่ชัดเจน การดำเนินการดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในความเป็นส่วนตัวของประชาชน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าในระบบการสื่อสารช่องทางเดียวนี้ หากผู้มีอำนาจมีความประสงค์จะตรวจสอบหรือปิดกั้นข้อมูลต่างๆของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต และ social media ในประเทศไทย ท่านก็สามารถดำเนินการได้อย่างไม่มีข้อจำกัดจากเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว พรรคเพื่อไทยในฐานะของพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นและเติบโตมาตาม กระบวนการประชาธิปไตยที่เคารพในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการสื่อสารถึงกัน สิทธิในความเป็นส่วนตัวของพี่น้องประชาชน ที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ขอแถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เพราะหากปล่อยให้มีการดำเนินการโครงการต่อไปพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีตามเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว โดยเฉพาะการควบคุมข้อมูลต่างๆของรัฐ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงมีและควรได้รับการคุ้มครองโดยปราศจากเงื่อนไขตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันเป็นสากล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น